Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

Unlocking Sustainable Trade: พาณิชย์เปิดประตูสู่การค้าที่ยั่งยืน

“ภูมิธรรม” เปิดตัวคลังความรู้ “พาณิชย์คิดค้าอย่างยั่งยืน” มุ่งพาผู้ประกอบการไทยปรับตัวรับมือกติกาการค้าโลกใหม่ สนับสนุนเป้าหมาย SDGs 

วันที่ 28 สิงหาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “Unlocking Sustainable Trade: พาณิชย์เปิดประตูสู่การค้าที่ยั่งยืน” โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์  รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย และนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย เข้าร่วม ที่ห้องประชุมบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิช เปิดเผยว่า ว่ากระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงความท้าทายรอบด้านที่ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและกฎกติกาการค้าใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ “ความยั่งยืน” กลายเป็นกติกาสากลของโลกที่ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวให้เท่าทัน

ตนจึงได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาการค้าตามระเบียบการค้าโลกใหม่ ภายใต้คณะกรรมการบูรณาการนโยบายเชิงรุกกระทรวงพาณิชย์ ที่มี รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ เป็นประธานอนุกรรมการ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เป็นฝ่ายเลขานุการ หาแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการจัดงานวันนี้

ในการเปิดตัวคลังความรู้ “พาณิชย์คิดค้า อย่างยั่งยืน” (คิดค้า.com/moc-sdgs) เพื่อแสดงให้เห็นว่ากระทรวงพาณิชย์สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)ขององค์การสหประชาชาติ และสร้างความตระหนักรู้ให้กับภาคธุรกิจ ชี้ให้เห็นว่าการทำธุรกิจการค้าในยุคปัจจุบัน ไม่สามารถมองแค่เรื่องการเพิ่มผลกำไร แต่ต้องให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว โดยสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจ และใส่ใจให้คุณค่ากับชุมชนสังคม และสิ่งแวดล้อม

กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาการค้าตามระเบียบการค้าโลกใหม่ ได้จัดทำคลังความรู้ “พาณิชย์คิดค้าอย่างยั่งยืน” เป็นเครื่องมือของกระทรวงพาณิชย์ ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการค้าที่ยั่งยืนของกระทรวงพาณิชย์ไว้ในแหล่งเดียว ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการค้าที่ยั่งยืน ช่วยนำทางในการทำธุรกิจการค้าอย่างยั่งยืน จึงถือว่างานในวันนี้เป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยในการเสริมสร้างและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สอดรับกับกติกาการค้าในโลกยุคใหม่

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงบูธนิทรรศการเกี่ยวกับการดำเนินการด้านความยั่งยืนของหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานพันธมิตร และได้นำตัวอย่างสินค้ายั่งยืนที่โดดเด่น รวมทั้งการให้บริการที่สนับสนุนความยั่งยืนมาจัดแสดงภายในงาน เช่น สินค้าเกษตรนวัตกรรมภายใต้โครงการ Agri Plus Award 2024 ตัวอย่างสินค้า SDGs จากส่วนภูมิภาค สินค้ายั่งยืนจากผู้ประกอบการชุมชนมีดี (SMART Local ME-D)

นอกจากนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการนำเสนอการขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืน อาทิ สถาบันวิทยาการเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค (CE Academy) และสินเชื่อสีเขียวจากธนาคารพันธมิตรเพื่อธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

สำหรับงานช่วงบ่าย เป็นการจัดเสวนาโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงพาณิชย์ และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จริง สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นเวทีสำหรับสร้างพันธมิตรที่จะจับมือเดินหน้าไปสู่การค้าที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

การเสวนาแบ่งเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่ (1) กฎระเบียบและมาตรการภายใต้ระเบียบการค้าโลกใหม่ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ (2) การส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเปิดประตูสู่การค้าที่ยั่งยืนในต่างประเทศ และ (3) การปรับตัวสำหรับผู้ประกอบการไทยภายในประเทศ

การจัดงานในวันนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงพาณิชย์ในการสนับสนุนการค้าที่ยั่งยืน และเชิญชวนทุกภาคส่วนให้ร่วมกันพัฒนาสู่การค้าที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลกได้อย่างแท้จริง

Post a comment

13 − five =