รู้สึกดี ณ Dalat

ได้ยินไกด์ท้องถิ่นพูดแว่วๆ ว่า ใครที่ได้มาดาลัดแล้ว ต้องได้กลับมาอีก เพราะการมาเที่ยวดาลัดก็จะได้อะไรดีๆ กลับไปเสมอ อาจจะเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เป็นตัวเป็นตน เป็นใครสักคน หรืออาจจะหมายถึงความทรงจำดีๆ ก็เป็นได้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางมาดาลัด แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนได้พบกันครั้งแรก ไม่ใช่ภาพที่เปลี่ยนไปจากระยะห่างนานหลายปี แต่เป็นเพราะภาพเดิมที่ยังคงงดงาม คล้ายๆ กับการได้กลับไปพบเจอใครสักคนที่ได้แอบคิดถึงมานานแล้ว

3 วัน 2 คืนในดาลัดในช่วงปลายฝนเดือนตุลาคม เราพบกับ 4 บุคลิกของเมืองแห่งนี้ ยามเช้าที่หนาวเย็นจนแทบไม่อยากออกจากอาณาจักรผ้าห่ม ตกสายที่เริ่มเจอแดดร้อนเสิร์ฟตรงถึงใบหน้า บ่ายคล้อยเริ่มมีฝนพรำจนต้องวิ่งหลบ แต่พอตกค่ำ ลมหนาวก็กระหน่ำมาเป็นชุดใหญ่ ด้วยเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศเย็นทั้งปี หลายแห่งของที่นี่จึงไม่มีเครื่องปรับอากาศ เช่นเดียวกับโรงแรมใจกลางเมืองที่เราเข้าพัก DU PARK HOTEL DALAT

หากร้อนก็เปิดหน้าต่าง แต่ถ้ารู้สึกเย็นก็ปิดหน้าต่างซะ ก็เท่านั้น

มีหลายอย่างที่เราได้เห็นความน่ารักของดาลัดในวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวในประเทศ เหมือนคนไทยที่เที่ยวในประเทศไทย และคนเวียดนามก็เที่ยวในเวียดนามนั่นแหละ แต่ที่เราเห็นและรู้สึกดีตามไปด้วย คือ สไตล์การท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วม มีการดีไซน์การแต่งกายเพื่อการถ่ายรูป ซึ่งน่าจะเป็นกิจกรรมที่ได้รับนิยมเป็นอย่างมากของเมืองดาลัด ซึ่งเราจะเห็นคนขายไม้เซลฟี่ในจุดที่ได้รับความนิยมต่างๆ ด้วย

เราเดินทางมายังดาลัด ในทริปน่ารักๆ “ลั๊ลลาที่ดาลัด พร้อมกระซิบรักกับเคทีซี” พร้อมการประกาศตัวเลขการเติบโตของธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561  คิดเป็นยอดใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท  มีอัตราการเติบโตถึง 8% และจะยังคงการเติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางกระแสคนไทยที่ยังเดินทางท่องเที่ยวเป็นไลฟ์สไตล์หนึ่งของชีวิต

ทริปนี้ ได้เดินทางท่องเที่ยวในหลายจุดในดาลัด เริ่มจาก “น้ำตกดาตันลา” (Dalanta Waterfall) ซึ่งต้องนั่งรถราง (Roller Coaster)หรือรถรางที่ต่อขบวนเป็นรถไฟ ไหลไปตามระดับและความคดเคี้ยวของเส้นทางในหุบเขา แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ได้ความหวือหวาพอให้หัวใจที่หลับไหลลุกขึ้นมาเต้นได้ ลงไปด้านล่างจะได้ชมน้ำตกที่มีความสวยงามอายุกว่า 100 ปี

ที่สถานีรถไฟดาลัด เป็นสถานีรถไฟเก่าที่ไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว แต่ยังคงแสดงรถไฟขบวนคลาสสิคให้ได้ชม พร้อมตัวสถานีที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม และที่นี่ ก็เป็นอีกที่ที่เราได้เห็นวัยรุ่นชาวเวียดนาม แต่งตัวน่ารักๆ ออกมาสร้างสีสัน หลายคู่นิยมแต่งตัวในลักษณะคู่แฝด มาเป็นเซ็ทคล้ายๆ กัน บางคู่ก็เหมือนแฝดกันจริงๆ บางคู่ก็ไม่น่าจะใช่

ดาลัดเป็นเมืองบนภูเขา ที่ทหารฝรั่งเศสเลือกเป็นบ้านพักตากอากาศ มีสภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี จุดศูนย์รวมของวัยรุ่นจะอยู่ที่ริมทะเลสาบซวนเฮือง ปัจจุบันมีการสร้างอาคารเก๋ๆ เป็นแลนด์มาร์ค ซึ่งวันนี้เราแวะเข้าไปที่อาคารทรงอาร์ติโช๊ค ซึ่งข้างในเป็นร้านกาแฟด้วย

ใครที่มาดาลัดคงรู้ว่า เราสามารถเข้าชมความงามของดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี ด้วยสภาพที่เอื้ออำนวยอย่างไม่มีข้อสงสัย ดอกไม้บางชนิดอาจจะต้องพึ่งฤดูกาล แต่สำหรับไฮเดรนเยีย เธอคือเจ้าบ้านที่ดีเสมอ เราใช้เวลาในยามเช้าเข้าไปที่ Hydrangeas Garden ซึ่งกำลังชูช่อดอกสะพรั่งเต็มพื้นที่ และที่นี่เราก็ได้เห็นอีกครั้งว่า การถ่ายภาพเป็นความสุขหนึ่งของนักท่องเที่ยว และคนเวียดนามเอง แฟชั่นสวยๆ เซ็ทคู่รัก เพื่อนฝูง แม่ลูก จึงปรากฏอย่างงดงามในทุ่งดอกไม้แห่งนี้

อีกอย่างที่เราจะได้เพลิดเพลินเมื่อมาดาลัด คือการลิ้มลองอาหารในร้านรวงต่างๆ ทริปนี้ได้อิ่มหนำกับ บุฟเฟต์บาร์บีคิว ที่ร้าน KING BBQ ซึ่งจัดหนักจัดเต็มความอร่อย พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ เป็นเบียร์ท้องถิ่นราคาเบาหวิว

อีกร้านคือ Moulin Rouge ซึ่งมีอาหารสไตล์ท้องถิ่นให้เราได้ชิมกันจนพุงกาง มีเมนูแปลกๆ อย่างหอยโข่งยัดใส้หมูสับ

จุดที่มีสีสันสดใสที่สุดในเม็มโมรีการ์ดของเราคือ โบสถ์โดเมนเดมารี โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิหบนเนินเขา มีสีชมพูอ่อนๆ น่ารักๆ เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันมาก เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวท้องถิ่น

ไม่ว่าจะไปทางไหน ดาลัดก็สะกดสายตาเราได้เสมอ โดยเฉพาะตึกรามบ้านช่องที่มีเอกลักษณ์ มีความสวยคลาสสิก ผู้คนที่อาจจะดูเหมือนเร่งรีบ แตรมอเตอร์ไซด์ที่ดังตลอดทั้งวัน แต่คนเวียดนามบอกว่า ไม่ได้บีบแตรเพื่อไล่หรือแสดงมารยาทไม่ดี แต่เป็นการบีบเพื่อบอกคันหน้าว่า “มีฉันอยู่ข้างหลังนะ” และบอกคันหลังว่า “ฉันไปก่อนนะ” ฟังแล้วก็น่ารักดีนะ

ยามค่ำคืนเรายังออกไปสำรวจราตรีแห่งดาลัด มีร้านรวงให้บริการอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะริมทะเลสาบที่เราเลือกปักหลัก และปักหมุดเป็นความทรงจำดีๆ อีกอย่างหนึ่งในทริปนี้

นอกจากการได้มารับทราบเรื่องราวดีๆ สำหรับทิศทางธุรกิจของเคทีซีแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศที่งดงาม ยังได้พบกับมิตรภาพครั้งใหม่ที่สวยงามตามพื้นที่ไปด้วย

ไกด์ว่าไว้ ใครที่ได้มาดาลัดแล้ว ต้องได้กลับมาอีก เพราะการมาเที่ยวดาลัดก็จะได้อะไรดีๆ กลับไปเสมอ

อาจจะเป็นความรู้สึกดีๆ ที่เป็นตัวเป็นตน หรืออาจจะหมายถึงความทรงจำดีๆ ก็เป็นได้

คิดถึงแล้วนะ “ดาลัด”

ผู้สนใจสามารถติดตามแคมเปญการตลาดด้านการท่องเที่ยวได้ที่ www,ktcworld.co.th  เฟซบุ๊ค ktcworld หรือ KTC Line Official  หรือติดต่อ KTC World Travel Service โทรศัพท์ 02 123 5050