มีที่ควรมี ที่ที่มีใจ ทุ่งหญ้าท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ก็มี…ทุ่งหญ้า มีโคลน มีน้ำ มีวิวภูเขา มีแพะ มีวัว มีคนมานั่งเล่น ปิกนิก บางวันก็มีร่มบิน
สิ่งที่ตอบได้ว่า เราจะตามหา #ทุ่งหญ้าท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไปทำไม
เพราะบางคนก็ถาม ไปทำอะไร ตกปลาได้ไหม มีที่พักหรือไม่ มีร้านอาหารหรือเปล่า พอบอกว่าไม่มีอะไรที่ว่านั้นเลย แถมยัง ไม่มีกระทั่งสิ่งก่อสร้างใดๆ สุขาอยู่หนใด ก็ไม่รู้
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อยู่ใน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี แต่ก็มีพื้นที่เชื่อมต่อกับสระบุรี เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาตามพิกัดท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในพื้นที่ บริเวณบ้านท่าฤทธิ์ อ.วังม่วง จ.สระบุรี ก็จะนึกภาพออกว่ามันเป็นยังไง เหตุใดเราต้องขับรถออกจากจุดชมวิวบริเวณสันเขื่อน “ขับออกไปเลยนะ ออกไปเลย เจอตลาดนัดเลี้ยวซ้ายไปเรื่อยๆ”แม่ค้าในเขื่อนป่าสักฯพยายามอธิบายทาง
การหลงทางไม่ใช่เรื่องแปลกของพวกเรา เลี้ยวผิดก็ถามชาวบ้านไปเรื่อยๆ GPS แต่ละตัวก็ระบุจุดหมายต่างกัน เพราะนอกจากตัวเขื่อนป่าสักฯ แล้ว ยังมีจุดท่องเที่ยวในมุมอื่นๆ ของเขื่อน เช่นจุดที่มีรถไฟวิ่งผ่าน และ บริเวณท้ายเขื่อน ที่มีทุ่งหญ้า ป่าโคลน มีชาวบ้านพาวัว แกะ แพะ มาเล็มหญ้า ยามเย็นก็จะมีคนมานั่งรอชมพระอาทิตย์ตก
ในวันนั้นมีคนขับรถเดินทางมาจอดนั่งเล่นไม่มากนัก มีทั้งกลุ่มเพื่อนฝูง ครอบครัว คู่รัก และเดินทางมาเพียงคนเดียว รวมทั้งสายรีวิวที่แต่งตัวสวยๆ มาพร้อมกับช่างภาพมืออาชีพ พวกเขาเลือกปักหลักกันห่างๆ ด้วยเนื้อที่กว้างขวางจึงทำให้เลือกมุมส่วนตัวได้ตามใจ น่าจะเป็นคำตอบข้อแรกว่า ทำไมต้องมาที่นี่
อาจจะมีอาหารหรือเครื่องดื่มที่นำมาปิกนิกกันเองบ้าง แต่บางคนก็เลือกวางเก้าอี้สนาม หรือ ปูเสื่อ เพื่อนั่งเฉยๆ มองฟ้า มองน้ำ มองเขา มองเรา เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
มีบ้างบางกลุ่มที่นำเต็นท์มากาง แต่ที่นี่ไม่ใช่ลานกางเต็นท์มาตรฐาน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีใครดูแล ตกค่ำก็มีเพียงเสียงเงียบและราตรีที่หลับไหล ก็อยากจะอยู่ชมความมืดอันอลังการนั้นเหมือนกัน แต่กังวลกับการขับรถออกไปในเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยว ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีไฟส่องสว่างเพียงพอหรือไม่ แต่เดาว่าไม่มี อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลคือฝนฟ้า อยู่บนลานกว้างๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าหรรษานัก
ออกจากกรุงเทพบ่ายแก่ๆ แวะโน่นแวะนี่ รวมเวลาหลงทางแล้ว ก็มาถึงพื้นที่ท้ายเขื่อนราวหกโมงเย็นกว่าๆ ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย
พื้นที่มันกว้างมากจนเดินไปไหนต้องนึกถึงตอนเดินกลับ ตอนเข้ามาเราเห็นบรรดาร่มบินทั่วฟ้า แต่จุดที่เราแวะจอดรถยังไม่ใช่จุดที่ขึ้นบิน เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในพื้นที่ทุ่งหญ้าริมน้ำ ซึ่งเกิดจากน้ำที่ลดลงในช่วงหน้าแล้ง ขับเข้าไปจนเกือบถึงริมน้ำ จนเกือบถึงช่วงที่เป็นโคลนทำให้ทุกคนหยุดเพื่อรักษาระดับการปักหลักให้ห่างไว้
เล่าย้อนไปว่า ตอนที่เลี้ยวจากถนนใหญ่ เข้าสู่ถนนเส้นเล็กๆ ขับไปเรื่อยๆ จนเห็นวิวท้ายเขื่อนก็ต้องเลี้ยวและขับเข้าไปอีก ตอนนั้นเจอกับฝูงแพะท้ายเขื่อนที่เจ้าของกำลังต้อนกลับ เลยจอดเก็บภาพกันก่อน และนั่นน่าจะเป็นฝูงเดียวที่เราได้เห็น
เจ้าแพะที่โดนต้อนมุ่งหน้ามาเป็นกลุ่ม พอเห็นคนกับกล้อง พวกมันก็เลี้ยวหลบหนีออกนอกเฟรมตลอดเวลา แต่ก็ยังดีใจว่า “ที่ที่มีแกะ” ที่เราตามหา และได้สอบถามแม่ค่าในเขื่อนมาก่อนหน้า ได้เจอแล้ว รวมๆ เหมือนจะมีเพียงแพะเท่านั้น แต่พวกมันก็น่ารักดี แถมยังมีวิวภูเขาเป็นฉากหลัง….เป็นยามเย็นในความทรงจำที่งดงามอีกภาพหนึ่ง
บนลานกว้างทุกคนต่างมีพื้นที่ส่วนตัว และจ้องมองไปข้างหน้า ดังว่าโลกนี้ไม่มีใคร ร่มบินที่โฉบเฉี่ยวเพิ่มสีสันให้กับท้องฟ้า เด็กน้อยเริงร่าออกหน้าออกตา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสีจากการสร้างสรรค์ของวันเวลาก็ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด แม้ก่อนหน้านี้เมฆดำหมู่ใหญ่จะเริ่มปกคลุม แต่ไม่นานพลังแห่งแสงก็เปิดม่านการแสดงให้ทุกคนได้ชม
เราเดินไปเดินมาอย่างเงียบเชียบ เฝ้ามองความเคลื่อนไหวท่ามกลางสายลมคลอเคล้า เสียงเพลงแห่งคืนวันบรรเลงอย่างไพเราะ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
นี่ก็คือพื้นที่ของคนมีใจ
เพราะจริงๆ แล้ว ไม่มีอะไร แต่มากมายด้วยสิ่งที่ควรมี
นั้นอาจเป็นเพราะว่า บางเวลา เราก็ไม่ต้องการอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่มี ที่เห็น ที่เป็นอยู่เลย
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
อยู่ในพื้นที่ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี และ ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี (ส่วนท้ายเขื่อน) เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงาม มีโอกาสเที่ยวลพบุรี มาพิสูจน์ได้
พิกัด
ปักหมุด : หาดเล็บยาว / หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์/บ้านท่าฤทธิ์/วัดท่าฤทธิ์
พิกัดทางลง 14.898556348672612, 101.09523840983464
ทริปนี้เราปักหมุดว่า #ทุ่งหญ้าท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
แล้วไปตามพิกัด https://goo.gl/maps/oBuU79HJUZbsj2AX8
ไปชมกันต่อ>>>บรรยากาศและเรื่องราวของ ร่มบิน : paramotor ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์