“พาว” ยกระดับสมุนไพรไทยสู่สากล ดันยอดขาย 1 พันล้านบาท

พาว โชว์วิสัยทัศน์ธุรกิจ มุ่งยกระดับสมุนไพรไทยขึ้นแท่นสู่สากล หวังกลุ่มผู้บริโภคลดพึ่งพาสารเคมี ใช้สมุนไพรเป็นทางเลือกดูแลสุขภาพ หนุนสร้างอาชีพ-รายได้เกษตรกรท้องถิ่นร่วมเติบโตไปพร้อมกัน ชูผลงานการวิจัยกว่า 5 ฉบับ รองรับมาตรฐานความเชื่อมั่นผลิตภัณฑ์  ผนึกซีเอ็มเอช ไลฟ์ ไซเอ็นซ์ โรงงานผลิตชั้นนำด้วยแนวคิดการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพร่วมพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมเปิดตัว อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เจาะตลาดคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าปี 2567 เติบโต 1,000 ล้านบาท

ดร.รัฐวิชญ์ สิริอมรสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด เปิดเผยว่า กระแสความนิยมในการดูแลรักษาสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีของผู้บริโภค โดยหันมาใช้สมุนไพรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพ เพื่อลดการพึ่งพาสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย เป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ส่งผลให้เป็นโอกาสที่ประเทศไทยเห็นช่องทางในการพัฒนาต่อยอดสมุนไพรไทย ซึ่งมีกว่า 1,800 ชนิด เดินหน้าก้าวเข้าสู่การทำประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม สร้างมูลค่าเพิ่ม และความยั่งยืน ให้กับสมุนไพรไทย

ซึ่งจากเทรนด์ และการเห็นประโยชน์จากพืชสมุนไพรดังกล่าวส่งผลให้ บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด ได้เห็นถึงความสำคัญของสมุนไพรไทย พร้อมสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นร่วมสร้างอาชีพ สร้างรายได้ จากการปลูกพืชสมุนไพร เดินหน้าวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์พาว (POW) ที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีงานวิจัยรองรับ จากสถาบันชั้นนําของประเทศไทยและการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับ GHP มาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยสู่ระดับสากล 

“พาว ถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสมุนไพร (Innovation herbs) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น พาวเอสเซนส์ สมุนไพรพลูคาวสกัดเข้มข้น, พาว ชูการ์คิว, พาวเดอร์ลา ฯลฯ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ได้รับงานวิจัยในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาพัฒนา เพื่อสร้างความมั่นใจ ตอกย้ำคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค   มุ่งส่งเสริมการมีสุขภาพดีแบบยั่งยืนด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน และเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย เพื่อส่งต่อสุขภาพที่ดีให้กับคนไทย ด้วยสมุนไพรไทย” ดร.รัฐวิชญ์ กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมากว่า 3 ปี ของการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ POW ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย ด้วยยอดขายรวมกว่า 700 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มที่มีปัญหาและความเสี่ยงจากกลุ่มโรค NCDs เบาหวาน ความดัน ซึ่งเมื่อกลุ่มดังกล่าวมีการทานผลิตภัณฑ์พาว อย่างต่อเนื่องส่งผลให้สุขภาพที่ดีขึ้น และสามารถช่วยลดปริมาณการทานยาได้ ซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ครองยอดขายอันดับหนึ่งคือ พาวเอสเซนส์ สมุนไพรพลูคาวสกัดเข้มข้น ที่มียอดจำหน่ายรวมกว่า 800,000 ขวด

รองลงมาคือชูก้าร์คิว (Zukar Q) คิดเป็น 15% ของยอดขาย และตามมาด้วยกลุ่มสินค้าโปรตีน พาว อัพ (POW UPZ) และ พาว เดลี่ (POW Daily) คิดเป็น 13% ของยอดขาย และกลุ่มอื่นตามลำดับ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจกว่า 12 ปีกว่าจะมาเป็น พาว และการให้ความสำคัญกับงานวิจัย การตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานให้อยู่ในระดับสากล  ทำให้บริษัทมั่นใจว่า จากความมุ่งมั่นพัฒนาและต่อยอดงานวิจัยจนกลายเป็นระดับอุตสาหกรรม ด้วยนวัตกรรมสมุนไพรทีได้มาตรฐาน จะช่วยผลักดันให้พร้อมก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างแน่นอน

“นอกจากการสร้างความมั่นใจในผลิตภัณฑ์พาวทุกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับงานวิจัย และ พัฒนา ‘ระบบนิเวศน์นวัตกรรม’ โดยเริ่มตั้งแต่ วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพของคนไทย ศึกษาวิจัยสมุนไพรร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง และ เพิ่มศักยภาพงานวิจัยร่วมกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สํานักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์จริง พิสูจน์ผลลัพธ์ได้ด้วยงานวิจัย ให้คุณค่าแก่ผู้บริโภค และสังคม แล้วสิ่งที่สำคัญอีกประการคือการร่วมกับซีเอ็มเอช ไลฟ์ ไซเอ็นซ์ โรงงานผลิตชั้นนำด้วยแนวคิดการใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพร่วมพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย เป็นส่วนหนึ่งในการสรรสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี ในการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยมีบุคลากรคุณภาพคอยควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นทีมเภสัชกรและนักวิชาการที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร รวมไปถึงนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร มีการคัดสรรวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยมีการควบคุมวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่เข้มงวดเพื่อป้องกันสิ่งเจือปน รวมถึงมีมาตรฐานการควบคุมวัตถุดิบตามมาตรฐาน อย. จึงมั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน” ดร.รัฐวิชญ์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ ในปี 2567 ดร.รัฐวิชญ์ ระบุว่า วิสัยทัศน์ขององค์กรยังคงมุ่งเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคด้วยงานวิจัย โดยล่าสุดเปิดงานวิจัยฉบับที่ 5 ในการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ และพร้อมทุ่มเท คิดค้น พัฒนาสมุนไพรไทยให้เติบโตและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ตั้งเป้ายอดขายในสิ้นปี 2567 ที่ 1,000 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ขยายกลุ่มเป้าหมายในประเทศ ที่รักสุขภาพ พร้อมดึง อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ให้กับผลิตภัณฑ์ พาวเอสเซนส์ (POW Essence) สะท้อนภาพลักษณ์ของคนที่พิถีพิถันในทุกๆ เรื่องในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพเสมอ และ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ พร้อมด้วยคุณแม่นวลนงค์ จามิกรณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ พาว อัพ (POW UPZ) และผลิตภัณฑ์ พาวเอสเซนส์ (POW Essence)

“ในปีนี้เราได้เลือกคุณอั๋น-ภูวนาท คุนผลิน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ พาวเอสเซนส์ โดยมองว่าคุณอั๋นจะเป็นคนกลางมาร่วมถ่ายทอดการดูแลสุขภาพที่ดีจากการใช้ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากที่ผ่านมาคุณอั๋นได้ทดลองผลิตภัณฑ์จริงด้วยตัวเอง ประกอบกับเป็นคนที่ใส่ใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก

ขณะที่ในส่วนของคุณแพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และคุณแม่นวลนงค์ จามิกรณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ พาว อัพ และผลิตภัณฑ์ พาวเอสเซนส์ เน้นเจาะกลุ่มการดูแลสุขภาพของคู่แม่ลูก ต้องการดูแลคนในครอบครัวให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สำหรับการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ในครั้งนี้แล้วเรายังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ พาวเอสเซนส์ ขนาดใหม่ 375 ml. เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจลองทานได้ง่ายขึ้น ทานได้ทุกวัน พร้อมจัดกิจกรรมโปรโมชั่นตลอดทั้งปี ผ่านตัวแทนจำหน่าย และ ทุกช่องทางการจัดจำหน่ายของพาวอีกด้วย” ดร.รัฐวิชญ์ กล่าว

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกสิทธิ์ จงเจริญรักษ์ สาขาวิชาวิศวกรรมอาหาร คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่าได้ร่วมกับ บริษัท พาว มิราเคิล จำกัด เปิดงานวิจัยลำดับที่ 5 ในการพัฒนาเทคนิคกระบวนการสกัดเพื่อผลิตสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากใบพลูคาวที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อต่อยอดในเชิงพาณิชย์ด้านการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมสร้างความแตกต่างและจุดยืนของผลิตภัณฑ์ที่เข้มแข็งจากผลงานวิจัย ด้วยการประยุกต์ใช้เอนไซม์ช่วยในการสกัดสารจากสมุนไพร เป็นผลให้สารออกฤทธิ์ ภายในเนื้อเยื่อสมุนไพรถูกสกัดออกจากเซลล์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณของสารสกัด และทำให้คุณภาพของการสกัดดียิ่งขึ้น

นอกจากนั้นการใช้เอนไซม์ช่วยในการสกัดยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นกระบวนการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำไปประยุกต์เป็นส่วนประกอบเชิงฟังก์ชันในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของพาวต่อไป

“ตลอดระยะเวลาที่ร่วมกันศึกษางานวิจัยกับพาว มิราเคิล ทำให้เห็นว่าแต่ละผลิตภัณฑ์ของพาว มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะพัฒนาโปรดักส์ที่ใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบหลัก มาสร้างคุณภาพชีวิต และสุขภาพร่างกายที่ดีให้กับผู้บริโภค ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้วิจัยเราก็พร้อมที่จะเดินก้าวไปพร้อมๆ กับพาว พร้อมผลักดันสมุนไพรไทยไปสู่สากลอย่างยั่งยืนต่อไป” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เอกสิทธิ์ กล่าว