3 วัน 2 คืน คึกครื้นใจ เส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธา พิจิตร-นครสวรรค์
ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็ชื่นตาชื่นใจ แต่ถ้าอยากเติมความสดใส เป็นพลังใจ+++ ให้กับชีวิต ชวนเดินทางไปกับเส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธา จังหวัดพิจิตร-นครสวรรค์ อีกช่วงเวลาที่สายมู สายชิล ได้โผตัวออกมารับพลังกันให้ชุ่มฉ่ำ เป็น 3 วัน 2 คืน ที่สนุก คึกครื้น กับหลากหลายรสชาติที่เกิดขึ้นในเส้นทางนี้
Day 1
คณะเดินทางออกจากอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปยัง จ.พิจิตร และได้แวะเยี่ยมชม “วัดโพธิ์ประทับช้าง” (หลวงพ่อโต) สัมผัสกลิ่นไอประวัติศาสตร์ถิ่นประสูติเจ้าเสือ ซึ่งเป็นเมืองโบราณสถานที่เก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2242-2244 ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นเป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง
หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่ง ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมากในจังหวัดพิจิตรเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยกรุงศรีอยุธยามีอายุได้ 300 ปีเศษ อิ่มบุญ อิ่มใจกันแล้วไปเลือกซื้อของฝาก ณ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสามัคคีโพธิ์ประทับช้าง ก่อนจะไปรับประทานอาหารเที่ยง ณ ล้านประจำ
เริ่มต้นช่วงบ่ายด้วยความสุขสดชื่น ไปเติมความมูอีกสักหน่อย กับการกราบสักการะขอพรหลวงพ่อเพชร ณ “วัดท่าหลวง พระอารามหลวง” ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพิจิตร
มาถึงไฮไลต์ที่สำคัญ เป็นช่วงเวลาแห่งความเร้าใจที่หลายคนชื่นชอบ กับบรรยากาศการแข่งขันเรือยาวจังหวัดพิจิตรชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประจำปี 2567
ช่วงเย็นต้องไม่พลาดการเข้าชมบรรยากาศที่ “บึงสีไฟ” สวนสาธารณะ Land Mark ของคนพิจิตร เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ นั่งชมพระอาทิตย์ตกสถานที่ท่องเที่ยวเช็กอินสำคัญของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนพิจิตร
Day 2
หลังจากรับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก เราก็ออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่ความเป็นสิริมงคลอีกแห่ง ณ “วัดพฤกษะวัน” ร่วมพิธีพุทธาภิเษกองค์หลวงพ่อเพชร โดยเกจิสายภาวนา หลวงพ่อพิมพ์-วัดพฤกษะวัน หลวงปู่ภู-วัดท่าฬ่อ หลวงตาหมู-วัดดงป่าคำ (ศิษย์ของหลวงปู่ศุข-วัดปากคลองมะขามเฒ่า) และชมการสักยันต์
จากนั้นออกเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าพ่อแก้ว” และเที่ยวชม “ตลาดบางมูลนาก”ตลาดชุมชนวิถีชาวบ้านที่ยังคงความเป็นดั่งเดิม เดินกันเพลิน ๆ ชิลไป ชิมไป ก่อนจะแวะไปเช็คอินที่ร้าน For’est Café คาเฟ่สวยใกล้สถานีรถไฟย่านบางมูลนาก
ช่วงบ่ายได้เวลาเปลี่ยนบรรยากาศการเดินทาง ด้วยการขึ้นรถไฟสถานีบางมูลนาก ผ่อนคลายกับการเดินทางชมบรรยากาศริมทางท้องทุ่งและสถานีต่างๆ โดยมุ่งเป้าหมายปลายทางที่สถานีนครสวรรค์
นั่งเล่นชมวิวกันเพลิน ๆ ก็มาถึงสถานีรถไฟนครสวรรค์ เดินทางต่อไปยัง “เขตห้ามล่าพันธ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด” เที่ยวชมบรรยากาศธรรมชาติของบึงบอระเพ็ด และชมจระเข้ธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในบึง และจะแวะเวียนขึ้นมาให้ถ่ายรูป แต่คงไม่ต้องขอเซลฟี่ ห่าง ๆ กันแบบนี้ก็ยินดีมากแล้ว
ช่วงเย็นไปเดินเล่น “พาสาน” ซึ่งเป็นอาคารสัญลักษณ์ต้นแม่น้ำเจ้าพระยา เก็บภาพบรรยากาศ ความสวยงามของจุดแลนด์มาร์คของนครสวรรค์ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมา จุดบรรจบของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีแม่น้ำทั้ง 4 สายปิง วัง ยม น่าน ที่ไหลมารวมกัน โดยคำว่า “พาสาน” หมายถึง “ผสาน” นั่นเอง
Day 3
เช้าวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมพิธีเทวภิเษก ณ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ – เจ้าแม่ทับทิม จ.นครสวรรค์ ก่อนจะออกเดินทางไปยัง “ศาลเจ้าแม่หน้าผา” มาแล้วต้องไม่พลาด แวะกินข้าวกลางวันที่ “ร้านหน้าผาปลาทอดมัน” หรือจะแวะไปชิลของว่างที่ ร้าน Chun
ช่วงบ่าย เดินทางไปยัง “วัดหนองโพ” ชมยันต์ ณ ประตูโบสถ์หลวงพ่อเดิม พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อเดิม โดยมีห้องจัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับหลวงพ่อเดิมและโบราณวัตถุที่ค้นพบบริเวณบ้านหนองโพตั้งแต่สมัยโบราณ
จากเมืองพิจิตรมาถึงนครสวรรค์ ดื่มด่ำความชิล ความชื่นใจ เติมพลังความสดใส จากความหลากหลายรสชาติแห่งการเดินทาง ใครสนใจเส้นทางนี้ ก็ชวนกันออกเดินทางกันได้เลย