Meat Lovers…รักเนื้อ ต้องกินเนื้อให้เป็น!
สาวกคนกินเนื้อทั้งหลาย คราใดได้กลิ่นเนื้อย่างเยี่ยมกรายมาใกล้จมูก เป็นต้องน้ำลายสอทุกทีสิน่า ยิ่งนึกไปถึงว่าข้างๆ เนื้อย่างที่ใกล้จะได้ที่นั้น มีน้ำจิ้มรสเด็ด รสชาติจี๊ดจ๊าดเผ็ดเปรี้ยวที่ถูกใจ วางยู่ข้างเคียง เล่นเอาหิวขึ้นมาเลยทีเดียว เอาล่ะ ! ก่อนจะกินเนื้อกันอีกครั้ง เรามาดูข้อมูลว่าด้วยเนื้อกันอีกทีดีกว่า เผื่อจะได้ขึ้นชื่อว่า เป็นคนกินเนื้อเป็น จะได้ไม่เสียยี่ห้อ คนกินเนื้อ ที่บางทีมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่ เนื้อของสัตว์ใหญ่เท่านั้น
เราต่างก็รู้ว่าเนื้อสัตว์เป็นแหล่งของโปรตีนและรสชาติของเนื้อชั้นดีก็อร่อยเกินห้ามใจแต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญแนะว่าจะกินเนื้อสัตว์ให้ได้ประโยชน์ต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีควรกินเนื้อสัตว์ให้ถูกวิธีและกินในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายกินให้ดีก็ได้ประโยชน์ถ้ากินไม่ดีก็จะเป็นผลเสียกับร่างกายในระยะยาวอย่ากระนั้นเลยเหล่านักกินเนื้อทั้งหลายมาดูกันดีกว่าว่าเนื้อแต่ละชนิดเราควรเลือกกินกันอย่างไร
- เนื้อหมู เนื้อสัตว์ยอดนิยมของคนไทยส่วนใหญ่ เรียกว่ากินกันมาตั้งแต่เล็กจนโต แต่เรากลับไม่รู้ว่ากำลังกินเนื้อส่วนไหนอยู่นี่สิ นักโภชนาการกล่าวว่า เนื้อหมูส่วนที่มีคุณภาพโปรตีนมากที่สุดคือส่วนของ เนื้อหมูสันใน เป็นส่วนของเนื้อหมูที่มีความนุ่ม เนื้อเส้นใยเล็ก ไม่มีไขมันแทรก ส่วนเนื้อสันคอ จะเป็นเนื้อส่วนที่มีริ้วไขมันแทรก ทำให้เป็นส่วนของเนื้อหมูที่มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและเด้ง เนื้อมีความฉ่ำน้ำเมื่อนำไปประกอบอาหาร ซึ่งร้านอาหารบางแห่งนำเนื้อสันคอไปใช้ในการปิ้ง ทำให้ได้เนื้อที่นุ่มลิ้น ฉ่ำน้ำ รสชาติอร่อย ขณะที่ส่วนที่มีไขมันมากที่สุดคือ หมูสามชั้น คอหมู และซี่โครงหมู (แหม ของชอบทั้งนั้น) การเลือกกินเนื้อหมูที่ดีจึงควรให้ได้สารอาหารสมดุลกับปริมาณที่ร่างกายแต่ละคนต้องการ เพราะนอกจากโปรตีนแล้ว ในเนื้อหมูยังมีสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินบี 1 ช่วยลดอาการเหน็บชาวิตามินเอบำรุงสายตาฟอสฟอรัสและไนอาซีนช่วยลดการอักเสบของผิวหนังและบำรุงสมอง
- เนื้อวัว สำหรับนักกินเนื้อ การได้ลิ้มลองรสชาติเนื้อวัวชั้นดีจากแหล่งเลื่องชื่อระดับโลกคงเหมือนการได้เติมเต็มความฟินให้กับชีวิต แต่ถึงแม้เนื้อวัวจะมีปริมาณโปรตีนสูง ก็พ่วงมากับปริมาณไขมันที่สูงเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อโคขุนทั้งหลาย เพราะฉะนั้นใครที่กำลังลดน้ำหนัก ควรเลือกกิน เนื้อสันส่วนบน ซึ่งมีโปรตีนสูงแต่มีไขมันแทรกอยู่น้อย นอกจากนี้ในเนื้อวัวยังมีธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงเลือด และวิตามินบี 12 ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ และสมองเสื่อม แม้ว่าเนื้อที่ดีคือเนื้อที่มีไขมันน้อย แต่ในการปรุงเนื้อสัตว์ก็ควรมีไขมันติดปนอยู่กับชิ้นเนื้อบ้าง เพราะจะทำให้เนื้อนั้นไม่กระด้างเมื่อถูกความร้อนขณะปรุงอาหาร นอกจากนี้ เนื้อที่มีไขมันติดจะมีกลิ่นและรสชาติที่ดีกว่าเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดไขมันเลย ตรงนี้จึงอยู่ที่การเลือกกินให้สมดุลกับความต้องการของร่างกายอีกเช่นกัน
- เนื้อไก่ จัดเป็นเนื้อชนิดแรกๆ ที่คนรักสุขภาพจะนึกถึง เพราะนอกจากจะเป็นเนื้อที่ให้โปรตีนคุณภาพสูง ยังมีปริมาณไขมันที่น้อยมากๆ (เมื่อเลาะหนังออกแล้วนะ) โดยเฉพาะ เนื้ออก ซึ่งมีไขมันเพียงร้อยละ 8.2 ส่วนสะโพก ปีก และส่วนตูดไก่ คือส่วนที่มีไขมันมากที่สุด นอกจากนี้ไก่ยังมีสารอาหาร เช่น วิตามินบี 3 หรือไนอาซิน ซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 12 ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือด รวมทั้งกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย แถมยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อแดง จึงไม่ต้องแปลกใจที่เนื้อไก่จะเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาและคนรักสุขภาพนั่นเอง ส่วนของน่องสะโพกก็เป็นที่โปรดปรานของใครหลายคนไม่แพ้กัน จึงมีการเลือกนำส่วนนี้ไปสร้างสรรค์เมนูอาหารที่หลายรูปแบบ โดยเฉพาะการนำเนื้อไก่มาหมักซอสต่างๆ ก็ทำให้เนื้อไก่มีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- เนื้อแกะ คนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยนัก แต่สำหรับอีกหลายประเทศทั่วโลก เนื้อแกะ คือหนึ่งในเนื้อยอดนิยมที่ต้องมีติดเมนูในเกือบทุกร้านอาหาร โดยเนื้อแกะจัดว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันและคอเรสเตอรอลต่ำ มีเลซิติน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหาร และลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ วิตามินบี กรดโฟลิค ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม สังกะสี และอีกมากมาย แต่หลายคนอาจกังวลว่าเนื้อแกะจะมีกลิ่นสาบตามธรรมชาติติดมาด้วย ซึ่งเนื้อแกะที่ดีจะขจัดกลิ่นดังกล่าวด้วยการหมัก ไม่ว่าจะหมักด้วยไวน์แดงแบบยุโรป หมักด้วยโยเกิร์ตแบบแขก หรือหมักด้วยน้ำมันงาแบบเกาหลี ซึ่งนอกจากกลิ่นสาบจะลดลง ยังช่วยให้เนื้อนุ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ เวลาเสิร์ฟสเต็กเนื้อแกะ หรือซี่โครงแกะ ก็มักจะเสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมินต์ เพื่อลดกลิ่นและเพิ่มรสชาติ
- เนื้อปลาและซีฟู้ด มาถึงเมนูตัวท็อปที่อยู่บนยอดพีรามิดของแทบทุกร้านอาหาร นั่นคือบรรดาอาหารทะเลต่างๆ โดยเฉพาะ เนื้อปลา นอกจากจะมีโปรตีนชนิดที่ย่อยง่ายแล้ว ในเนื้อปลายังมีโอเมกา 3 ซึ่งเป็นไขมันชนิดดี มีส่วนช่วยบำรุงสมอง สายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคหัวใจ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี และดี มีแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย อย่างเช่น ไอโอดีน ช่วยป้องกันโรคคอพอก ธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด และแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก ส่วนกุ้ง หอย ปู ปลา และหมึก ก็เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี แคลเซียมจากเปลือกกุ้งช่วยเสริมสร้างกระดูก และยังมีโอเมกา 3 เช่นกัน
สาระมาเต็มขนาดนี้ สาวกผู้รักการกินเนื้อแต่ไม่ลืมดูแลสุขภาพอย่างเรา ต้องกินให้มีความสุข และหัดกินให้เป็นกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเพื่อนจะกี่คน หรือเพื่อนจะชอบเนื้อแบบไหน ก็จบได้ที่บาร์บีคิวพลาซ่า กับชุด รีฟิล มาราธอน ได้กินครบทุกเนื้อแน่นอน เติมสารอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มโปรตีนไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายกันซักหน่อยเป็นไร