กระบี่ ลา พลาญ่า บรรยากาศ 4 ดาว ที่เราคว้าได้
เพราะทุกคนต้องเดินต่อไป ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใด เราก็ต้องไปต่อ แม้ว่าจะอยู่ในธุรกิจที่บาดเจ็บสาหัสอย่างการท่องเที่ยว แต่วันนี้การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เราทุกคนมีโอกาสคว้า 4 ดาวได้ง่ายขึ้น
“กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท” ( Krabi La Playa Resort ) เป็นที่พักระดับ 4 ดาว เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นเดียวกับเพื่อนผู้ประกอบการทั้งหลายในประเทศไทย แต่หลังจากรัฐบาลเปิดให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้ และมีแคมเปญ “เราเที่ยวด้วยกัน” มากระตุ้น ก็ทำให้อ่าวนางเริ่มกลับมาคึกคักขึ้น แม้จะไม่ 100% แต่ก็ถือว่าเริ่มมีทิศทางที่ดี
เราได้ฟังเรื่องนี้จาก นางสาววิไล บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมกระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท ( Krabi La Playa Resort ที่บอกกับเราว่า นี่คือหนทางของการต่อสู้และปรับตัว เพราะนอกจากตัวเองแล้ว ยังมีพนักงานอีกกว่า 100 คนที่ต้องดูแล อีกทั้งยังมีคนในชุมชนที่เคยพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นเหตุผลให้ กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท ปรับแนวการทำธุรกิจใหม่ โดยหันมาจับกลุ่มคนไทย พร้อมจัดโปรโมชั่นที่ทุกคนจับต้องได้ ภายใต้มาตรฐานการบริการในระดับ 4 ดาว ที่เคยสร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน
กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท มีจำนวนห้องพัก 123 ห้อง มีขนาดของห้องพักกว้างขวาง เริ่มต้นที่ขนาด 39 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในมุมสงบใจกลางอ่าวนาง ห่างจากชายหาดเพียง 200 เมตร คือ อ่าวนางและหาดนพรัตน์ธารา ซึ่งเป็นบริเวณท่าเรือที่นำนักท่องเที่ยวไปท่องทะเลกระบี่อันงดงาม
นอกจาก กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท พรอพ เจ จำกัด ยังมีโรงแรมในเครืออีก 3 โรงแรม อาทิ เดอะ สมอลล์ กระบี่ ( The Small Krabi ) จำนวน 38 ห้อง, เดอะ สมอลล์ เชียงใหม่ ( The Small Chiangmai ) จำนวน 35 ห้อง และรับบริหารโรงแรมอ่าวนาง เมาเท่นวิว ( Mountain View Ao Nang,Krabi ) มีจำนวน 35 ห้อง
โดยในปลายปีนี้ได้เตรียม Re-branding โรงแรมในเครือจากชื่อเดิม The Small เป็น “นวินดา” ( Navinda ) แทน เพื่อปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความทันสมัย สร้างจุดยืนที่แตกต่างระหว่างโรงแรมทั่วไปในจังหวัดกระบี่ และมุ่งสู่จุดหมายสร้างการจดจำและเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ใหม่ภายในช่วงต้นปี 2564
โฉมใหม่ของ “นวินดา” เริ่มต้นจากการปรับรูปแบบห้องพัก เน้นความเรียบง่ายเหมือนอยู่บ้าน ด้วยสีสันสบายตา ปรับเมนูอาหาร ด้วยการเพิ่มเมนูวีแกน และมังสวิรัติ รองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตรงกับความต้องการคนไทยโดยเฉพาะ และเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงเพิ่มการบริการอื่น ๆ เน้นให้ผู้เข้าพักสัมผัสธรรมชาติและวิถีชุมชน เช่น จัดนำทัวร์ชุมชน สอนทำผ้ามัดย้อม-ผ้าบาติค เป็นต้น
แนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมของกระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2562 และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าชาวต่างชาติ อาทิ การจำหน่ายกระบอกน้ำในโครงการ Trash Hero เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ระหว่างการเข้าพักหรือเดินทางท่องเที่ยว รายได้นำกลับเข้าสมทบทุนโครงการ โดยทางโรงแรมจะมีตู้บริการน้ำดื่มตั้งไว้ในจุดต่างๆ ของโรงแรม
นอกจากนั้นยังริเริ่มโครงการรีไซเคิล อาทิ การนำผ้าปูที่นอนเก่ามามัดย้อมและนำมาทำเป็นถุงผ้า ให้ผู้เข้าพักได้นำไปใช้ซื้อของ การทำกระเป๋าจากถุงขนม การทำรองเท้าแตะจากเศษขยะริมชายหาด การทำจานจากใบไม้ ฯลฯ บางอย่างก็นำมาใช้แล้ว แต่บางอย่างยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและพัฒนา
ความโดดเด่นที่เชื่อว่านักท่องเที่ยวชาติไหนก็ต้องชอบคือ ขนาดห้องที่กว้างขวาง ห้องพักบริเวณชั้น 1 ติดสระว่ายน้ำ เปิดประตูริมระเบียงออกมาก็กระโดดลงไปได้ทันที ที่นี่มีสระว่ายน้ำให้เลือก 2 แบบ จากที่พัก 2 โซน สระหลักมีขนาดใหญ่ถึง 854 ตารางเมตร อีกสระหนึ่ง “Emeral Pool” หรือ “สระมรกต” ขนาด 170 ตารางเมตร ได้แรงบันดาลใจมาจาก “สระมรกต” แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของกระบี่
นอกจากห้องพักสบาย ยังมีบริการที่ครบครันสมกับความเป็น 4 ดาว มีส่วนของร้านอาหารที่นับว่าเด็ดทั้งบรรยากาศริมสระน้ำ และเด็ดด้วยรสชาติ อีกทั้งยังมีห้องประชุมให้บริการอีกด้วย
ในตอนนี้ทาง กระบี่ ลา พลาญ่า รีสอร์ท มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจกับกลุ่มลูกค้าทุกประเภท อาทิ 1.ห้องพักราคาพิเศษเริ่มต้น 1,100 บาทต่อคืน รวมถึงมีข้อเสนอพิเศษ เช่น Free minibar , Free Early check in, Free late check out , Free upgrade, แคมเปญ เด็กพักฟรี สำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัว, การรับกรุ๊ปที่ยืดหยุ่นได้ตามงบประมาณ รวมทั้งเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่ทำให้ได้ราคาห้องพักในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ
ถึงเวลาเที่ยวทะเลกระบี่ วันนี้นอกจากสีสันของเกาะแก่งอันงดงามแล้ว ยังมีจุดเช็คอินใหม่ที่น่าสนใจมาฝากกันด้วย
ไฮไลท์ที่สำคัญของการท่องเที่ยวกระบี่ คือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ทั้งบนบกและทางทะเล โดยสามารถเลือกใช้บริการเรือนำเที่ยวทั้งแบบสปีดโบ๊ทและเรือหางยาว แบบ One Day Trip ซึ่งจะรวมค่าเรือและอาหารเที่ยง และสามารถใช้บริการของ กระบี่ ลา พลาญ่า ในการติดต่อท่องเที่ยวทางทะเลหรือแหล่งท่องเที่ยวทางบกได้อีกด้วย
ซึ่งทริปนี้ นอกจากการเที่ยวชมตามเกาะต่างๆ อาทิ เกาะผักเบี้ย เกาะลาดิง เกาะปอดะ ทะแลแหวก และเกาะห้อง เรายังได้เยือนกระบี่ในมุมมองใหม่ ผ่านจุดชมวิวที่เกาะห้อง จากบันได 419 ขั้น ที่ท้าทายพลังไม่เบา แต่เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาก็จะรู้ว่าคุ้มค่ามากแค่ไหน
ติดตามเส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิวเขาเกาะห้องได้ที่ Link นี้ https://www.meetthinks.com/koh-hong-view-point-2020/
เห็นภาพแล้วบอกได้เลยว่า ใครอยากสัมผัสบรรยากาศดีๆ ของกระบี่ เวลานี้ถือว่าเหมาะมาก