5 สิ่งที่ฮีลใจ ในวนอุทยานเขานางพันธุรัต
วนอุทยานเขานางพันธุรัต มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลากหลายแง่มุม ทั้งในแง่ของวรรณคดีโบราณ ทั้งด้านธรณีวิทยา รวมทั้งประวัติศาสตร์อันเป็นที่มาของผืนป่าอันชุ่มเย็นในปัจจุบัน
1.ฟื้นผืนป่า ด้วยพระบารมี
นับเป็นเรื่องราวที่สร้างความปลาบปลื้มให้ทุกคนเป็นอย่างมาก จากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี พ.ศ.2541
ในตอนนั้น ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้แม่ทัพภาคที่ 1 ฟื้นฟูบริเวณที่เกิดการถล่มของภูเขาแห่งนี้ และทำการอนุรักษ์พื้นที่ป่าให้เป็นมรดกของชาติ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงตำนานตามวรรณคดีไทย
จากภูเขาหิน ที่ผ่านการใช้งานในอุตสาหกรรมจนทรุดโทรม มาสู่ผืนป่าที่ร่มเย็น ให้เราได้เข้ามาสัมผัสอย่างชื่นใจ และร่วมอนุรักษ์ไว้สืบไป
2.ตามรอยวรรณคดีโบราณ ตำนานนางพันธุรัต
ชื่อของ “นางพันธุรัต” เป็นที่คุ้นชินจากวรรณคดีเรื่อง “สังข์ทอง” เช่นเดียวกับชื่อของ “วนอุทยานเขานางพันธุรัต” ซึ่งมีที่มาจากวรรณคดีเรื่องนี้ ในตอนที่พระสังข์หลบหนีนางพันธุรัตจนเป็นเหตุให้นางต้องอกแตกตาย เพราะความรักในตัวพระสังข์ หากมองจากมุมไกล ๆ จะเห็นเทือกเขาที่ทอดยาวมองดูคล้ายคนนอนหงายอยู่ ซึ่งบางครั้งชาวบ้านก็จะเรียกว่า “เขานางนอน”
นอกจากรูปลักษณ์ของภูเขาแล้ว ภายในวนอุทยานยังมีเรื่องราวที่สอดคล้องกับวรรณคดี เป็นจุดเที่ยวชมในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว
จุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติระยะสั้น เริ่มต้นจาก “ศาลแม่นางพันธุรัต” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปจะเข้ามาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพรกันได้แทบทุกด้าน ยกเว้นเรื่องความรัก
“กระจกนางพันธุรัต” เป็นช่องเขาที่สามารถเดินผ่านได้ ตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่นางพันธุรัตเลี้ยงดูพระสังข์เป็นลูก นางได้แปลงกายเป็นมนุษย์เพื่อไม่ให้พระสังข์รู้ว่าเป็นยักษ์ นางจึงใช้ช่องกระจกแห่งนี้ส่องดูรูปร่างหน้าตา
“เมรุนางพันธุรัต” เป็นแท่งหินลักษณะคล้ายเมรุเผาศพ ตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่นางพันธุรัตอ้อนวอนพระสังข์จนอกแตกตาย จึงได้ทำศพนางพันธุรัตที่นี่
3 จุดนี้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ที่ต้องเดินขึ้นบันไดในระยะที่ไม่ไกลมากนัก แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็มีขาสั่นและต้องแวะพักกันบ้าง
3.ยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ สืบสานตำนานป่า
เมื่อไปถึงจุดชมวิวด้านบน สามารถยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์เพื่อเติมแต่งความเขียวชอุ่มของผืนป่า ใครที่สนใจกิจกรรมนี้สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ โดยมีค่าใช้จ่ายในการเตรียมกระสุนคนละ 50 บาท
ก่อนขึ้นเขาจะมีการสอนปั้นกระสุนเมล็ดพันธุ์ โดยมีส่วนผสมของดินเหนียว แกลบ ขุยมะพร้าว มูลสัตว์ และเมล็ดพันธุ์พืช อาทิ ตะโกป่า หางนกยูง คูน ฯลฯ ปั้นแล้วต้องนำไปตากแดดจัด ๆ อีก 2รอบ ก่อนจะนำมาใช้งาน
แม้ว่ากระสุนที่ยิงออกไป จะมีโอกาสรอดเป็นต้นไม้ได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังเป็นอาหารให้สัตว์อย่างเจ้าฝูงลิง รวมทั้งค่างแว่น ได้กัดกินเป็นอาหาร
4.แหล่งธรณีวิทยากว่า 250 ล้านปี
ความน่าสนใจของวนอุทยานฯ ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ด้วยสภาพทางธรณีวิทยาปรากฏให้เห็นหลักฐานว่าในอดีตกาลที่นี่เคยเป็นทะเลมาก่อน บริเวณลานกางเต็นท์จะมีกลุ่มหินที่จัดแสดงหลักฐานทางธรณีวิทยา เช่น แนวปะการังและพืชพันธุ์ทางทางทะเลที่อยู่ในชั้นหิน
กรมทรัพยากรธรณี ได้ทำการสำรวจซากดึกดำบรรพ์ (ฟอสซิล) ภายในวนอุทยานเขานางพันธุรัต จังหวัดเพชรบุรี พบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (invertebrate fossils) อายุประมาณ 250-290 ล้านปี ประกอบด้วย
1.ปะการังกลุ่ม (Coronial corals) เป็นปะการังที่อยู่เป็นกลุ่ม colony มีหลายลักษณะเกาะรวมกันเป็นก้อนขนาดใหญ่หรือเชื่อมต่อคล้ายกับกิ่งไม้
2.ปะการังเขาสัตว์ (Rogose corals) เป็นปะการังที่อยู่ตัวเดียวลักษณะคล้ายเขาสัตว์ ซึ่งปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปเเล้ว
3.พลับพลึงทะเล (Crinoid) เป็นสัตว์ในกลุ่ม เอไคโนเดริม (Echinoderm) มีก้านลักษณะเป็นวงเเหวนยอดเป็นช่อคล้ายดอกไม้
4.ฟิวซูลินิด (Fusulinid) สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในทะเลและสูญพันธุ์ไปแล้ว สามารถมองเห็นได้ง่ายด้วยตาเปล่าและอาจยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร
5.ยินดีต้อนรับคนรักธรรมชาติ
ลานหญ้าขนาดกว้างใหญ่ภายในวานอุทยานเขานางพันุรัต เป็นสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวสายกรีนที่หลงรักในความเป็นธรรมชาติ โดยเปิดให้นำเต็นท์มากางได้ฟรี หรือจะใช้บริการเช่าเต็นท์กับทางวนอุทยานฯ โดยมีบริการห้องน้ำเพียบพร้อม นอกจากนั้นยังมีร้านกาแฟให้บริการ
วนอุทยานเขานางพันธุรัต และโครงการฯเขานางพันธุรัต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
โทร. 098 686 0989