Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

คะน้า-ค่ะน้า

ในความทรงจำของใครหลายคนบอกว่า กว่าจะกินผักคะน้าเป็นก็แสนยากเย็น ด้วยรสชาติที่อาจจะเหม็นเขียว หรือแอบขม สำหรับเด็กๆ ที่ยังคุ้นเคยกับรสชาติหวานมันที่กินได้ง่ายกว่า

แต่หากถามว่า กว่าจะปลูกคะน้าได้แต่ละต้น มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ได้ยินมาว่าอาจต้องใช้เวลาเกือบ 10 ปี เพราะแม้จะใช้เวลาเพียง 50 วันต่อรอบการเติบโตของคะน้า แต่ก็ไม่ได้การันตีว่า เราจะได้กินคะน้าดังใจหวัง

เราได้เรียนรู้หลักสูตรเร่งด่วน จากประสบการณ์ล้วนๆ ของ คุณธานินทร์ เทพสุรินทร์ เจ้าของ “หอมค่ะน้า คาเฟ่” และ โรงคั่วกาแฟกาญจนบุรี  สถานที่พักผ่อน ชิม แชะ ชิลล์ ชมวิวสวยเมืองกาญจน์ที่บอกได้ว่าห้ามพลาด

เพราะความสงสัยนำมาซึ่งการจดจำ “หอมค่ะน้า” จึงตั้งใจเติมไม้เอกลงไปตรงคำว่า “คะ” เพื่อสื่อสารถึงตัวของเจ้าของร้านซึ่งมีหลานๆ หลายคน จึงควบเสียงคำว่า “คะน้า” เป็น “ค่ะน้า” สร้างกิมมิคเล็กๆ เพื่อให้จำได้ง่าย มีความเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้น

หากมองด้วยสายตา เราคงไม่สามารถคาดคะเนได้ว่า แปลงคะน้าที่ละลานตานี้นี้ยิ่งใหญ่เพียงไหน คุณธานินทร์ อธิบายว่า นี่อาจจะเป็นแปลงคะน้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการปลูกคะน้าบนพื้นที่กว่า 100 ไร่  ซึ่งทุกคนต่างบอกว่า ไม่เคยเจอที่ไหน แถมยังอลังการและทรงพลังมากๆ ด้วยฉากหลัง “เขาสิงห์โต” ที่มีรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นที่มาของโลโก้ HOM KHA NA CAFE

ทุ่งคะน้าวิวเขาสิงโตอันสวยงามนี้ อยู่ในความดูแลของพี่ชายของคุณธานินทร์ โดยมีชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลตั้งแต่เตรียมดิน ปลูก ดูแล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งคุณธานินทร์ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

เวลาเกือบ 10 ปี ที่ใช้ไปกับการทดลองปลูกคะน้า เพราะก่อนหน้านี้เกษตรกรชาวกาญจนบุรี ซึ่งมีที่ดินทำกินก็มักจะเลือกปลูกอ้อย ซึ่งลงทุนน้อย ไม่ต้องดูแลมาก แต่ราคาผลผลิตก็ไม่ได้หอมหวานเหมือนน้ำอ้อย ปีที่ผ่านมาราคาลงไปตันละ 500-600 บาท เก็บอ้อยได้ปีละครั้ง ก็ต้องมานั่งช้ำอีกเป็นปี

การเรียนรู้ความเป็นไปของธรรมชาติ คือ หัวใจหลักของการปลูกคะน้าแปลงใหญ่ เขาบอกว่า คะน้าเป็นพืชยั่วแมลง ด้วยความหอมหวานเกินอดใจได้ การปลูกแบบเปิดโล่งจึงเป็นเรื่องยาก อาจเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แต่ก็พยายามใช้ให้น้อยที่สุด โดยทำการผสมผสานวิธีการทั้งด้านเคมี อินทรีย์ และการใช้คน ช่วยดูแลเรื่องโรคและแมลง เฉลี่ยแล้ว อาจจะฉีดยาฆ่าแมลงเพียงเดือนละครั้ง ครั้นจะฉีดเพื่อเอาชนะแมลงให้อยู่หมัดแบบวันเว้นวันเหมือนบางแห่งที่มีจำนวนไม่มากนัก ค่ายาก็คงบานเบอะ และไม่ดีต่อผู้บริโภคอย่างแน่นอน

การใช้คนดูแลตั้งแต่การเตรียมดินที่ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน หลังจากหว่านเมล็ดแล้ว ก็ยังต้องอาศัยแรงคน คอยเดินจัดระเบียบ ตรงไหนหนาแน่นเกินไป ก็ต้องถอนออกเพื่อให้เกิดความถี่ที่พอเหมาะ เจอโรคเจอแมลงก็ถอนทิ้ง ฯลฯ เอาเป็นว่าเขาเองก็มีกระบวนการอันเป็นเคล็ดลับ ที่ทำให้คะน้าของที่นี่มีผลผลิตที่น่าพึงพอใจ ได้มากินถึงที่ก็จะสัมผัสถึงความสด กรอบ หวาน ไม่ว่าจะเมนูไหน ก็ใช่จริงๆ

นักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่น้ำตกไทรโยค ขึ้นไปปิล็อค หรือ สังขละบุรี ก็จะสังเกตเห็นภูเขาสิงห์โต  เสริมด้วยความงามของแปลงลูกคะน้าขนาดใหญ่ที่มีวิถีของเกษตรกรชาวไร่มาเสริมเสน่ห์  คุณธานินทร์จึงตั้งใจเปิดร้านกาแฟ เป็นที่พักผ่อนให้กับนักเดินทางได้แวะชมความงามของธรรมชาติ พร้อมบริการแบบ “กาแฟหลักสิบ อาหารหลักร้อย วิวหลักล้าน” บนพื้นที่ที่เรียกได้ว่า “ภูทับเบิกแห่งกาญจนบุรี”

นอกจากตัวร้านที่มีทั้งส่วนของห้องแอร์ และมุมพักผ่อนอิงธรรมชาติแล้ว ยังมีส่วนของระเบียงชั้นบน หรือ สะพานไม้ที่ทอดตัวออกสู่ท้องทุ่ง ให้เลือกชมวิว แชะภาพ กันอย่างจุใจ แต่ไม่แนะนำให้เข้าในแปลงคะน้า เพราะอาจจะสร้างความเสียหายให้กับเจ้าคะน้าทั้งหลายได้  อยากกินคะน้าก็มีให้เลือกชิม เมนูแนะนำ คือ ยำคะน้ากุ้งสด โชว์ความหวานกรอบของคะน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเมนูขาหมูทอดสูตรเด็ด ก๋วยเตี๋ยวโจรสลัด (ชามยักษ์)  สปาเก็ตตี้ ฯลฯ

ปัจจุบันในช่วงเก็บเกี่ยวคะน้า จะมีผลผลิตราว 40 ตันต่อวัน ซึ่งต้องระดมคนมาช่วยเก็บเกี่ยวกันอย่างคึกคัก โชคดีว่าวันนี้เราเข้ามาในช่วงสายๆ ซึ่งชาวบ้านกำลังเก็บคะน้ากันอย่างสนุกสนาน

ได้พบทั้งความงดงามของธรรมชาติ และ แนวทางการเกษตรที่สามารถกระจายได้ให้กับชาวบ้าน แถมยังนำเอามาต่อยอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาลิ้มลองกันอย่างมีความสุข แค่นี้ก็สนุกแล้วค่ะน้า และในโอกาสต่อไปเราจะเล่าถึงเรื่องกาแฟของร้าน “หอมค่ะน้า” ให้ฟังกันต่อ

📍 “หอมค่ะน้า คาเฟ่” ก่อนถึงไร่เจียไต๋ ทางขึ้นไทรโยคน้อย อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิด-ปิด จันทร์-ศุกร์ 08.00-18.00น. เสาร์-อาทิตย์ 07.00-18.00 น. โทร. 08 6666 3826

Post a comment

nineteen − 8 =