สุขครบเครื่องเมืองสายน้ำสามเวลา ชวนเที่ยวงาน “เสาร์สราญ ณ อุทยาน ร.2”
แม้จะมีโอกาสไปเที่ยวอัมพวาอยู่หลายครั้งหลายครา แต่ก็เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมความงดงามของอุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวา ซึ่งมีความงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าสนใจ อีกทั้งยังทราบว่า ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกด้วย
ครั้งนี้ MeetThinks ได้พบกับเรื่องราวน่ารู้หลายแง่มุม ไม่เฉพาะความน่าสนใจของ อุทยาน ร.2 แต่หมายรวมถึงความเป็นไปของจังหวัดสมุทรสงครามในปัจจุบัน ในงานแถลงข่าวการจัดงาน “เสาร์สราญ ณ อุทยาน ร.2 เมืองน่าลองต้องห้ามพลาด” เมื่อไม่นานนี้ โดยมีนายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พ่อเมืองที่รู้เรื่องเบื้องลึกของสมุทรสงครามได้เป็นอย่างดีมาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
อย่าบอกว่าวันเดียวเที่ยวแล้วกลับ
แม้ว่าอัมพวาจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียง ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวชม แต่บริเวณตลาดน้ำอัมพวา ก็ไม่ได้เป็นจุดเดียวที่เป็นเป้าหมายของการท่องเที่ยว เพราะยังมีอะไรที่รู้ น่าดู น่าชม อีกมาก แบบไม่ต้องรีบกลับ
เราได้ยินว่า คนมาเที่ยวอัมพวาในวันเสาร์-อาทิตย์ ราว 70,000-80,000 คน เป็นคนที่มาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับราว 20,000 คน เป็นคนผ่านทางมาแวะกินข้าวประมาณ 10,000 คน ที่เหลือ 30,000-40,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวที่มาแล้วพักค้างคืน เฉพาะต่างชาติเป็นกลุ่มที่เข้ามาอัมพวาราว 5,000 คนต่อวัน เป้าหมายหลักคือ ตลาดน้ำอัมพวาและตลาดร่มหุบ
ทั้งนี้ในอัมพวา มีที่พักให้บริการ ตั้งแต่ไม่มีดาวไปจนถึง 6 ดาว นับ 400 แห่ง หรือราวๆ 6,000 ห้อง
เส้นทางหรรษาของนักปั่น
เราทราบกันว่าพื้นที่ในจังหวัดสมุทรสงครามจะประกอบด้วย สามน้ำ ทั้ง น้ำเค็ม น้ำกร่อย และน้ำจืด ทำให้เกิดการผสมผสานของแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องของการปั่นจักรยาน ซึ่งแต่ละปีที่สมุทรสงครามมีรายการปั่นจักรยาน (เฉพาะรายใหญ่ที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ) 8-9 รายการ นั่นเพราะความสมบูรณ์ของแหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้เมืองกรุง แถมยังมีเส้นทางที่น่าสนใจ โดยใน อ.อัมพวา มีโค้งในเส้นทางถนนประมาณ 8,000 โค้ง ขณะที่อำเภอบางคนทีมีอยู่ประมาณ 7,000 โค้ง (สมุทรสงครามมี 3 อำเภอ อีกอำเภอคือ อำเภอเมืองสมุทรทงคราม ที่มักจะเรียกกันว่าแม่กลอง)
เมืองแห่งมะพร้าวและการแปรรูป
ที่สมุทรสงครามมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวทั้งหมดประมาณ 70,000 ไร่ แบ่งเป็นมะพร้าวใหญ่ (มะพร้าวสำหรับคั้นกะทิ) 40,000 ไร่ ที่เหลืออีก 30,000 ไร่เป็นมะพร้าวเล็กอย่างมะพร้าวน้ำหอม แม้ว่าจะมีปริมาณเยอะแต่ก็ยังมีโอกาสในการขยายตลาด โดยในสมุทรสงครามเองก็มีโรงงานแปรรูปกะทิ ซึ่งท่านผู้ว่าก็บอกว่า น่าจะเป็นโอกาสให้กับเกษตรกร ถึงแม้ว่าราคาของมะพร้าวจะไม่ดีมากนัก แต่ก็มีเสถียรภาพกว่าพืชเศรษฐกิจอย่างยางพาราอย่างแน่นอน
เมืองแห่งอาหารทะเล
คนที่มาเที่ยวสมุทรสงคราม นอกจากจะมาสัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารการกินของท้องถิ่นแล้ว อาหารทะเลเป็นอีกเป้าหมายหลักที่ทำให้ทุกคนมุ่งหน้ามา โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจะมีปริมาณความต้องการอาหารทะเลแบบพุ่งปรี้ด เฉพาะปูต้องใช้ราว 20,000 ตัว หมึก 20-30 ตัน กุ้ง 30-40 ตัน
สมุทรสงครามเที่ยวได้ทุกวันเที่ยวได้ทั้งปี
ด้านนางสาวยุพา ปานรอด ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า จังหวัดสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยว ทั้งวิถีชุมชน ธรรมชาติ อาหาร ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าไปเที่ยวชม เช่น ตลาดน้ำอัมพวา อุทยาน ร.2 โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ วัดอัมพวันเจติยาราม วัดบางกุ้ง วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดน้ำท่าคา ตลาดน้ำดอนมะโนรา อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ดอนหอยหลอด คลองโคน เป็นต้น
สุขกลางใจ ใกล้แค่เอื้อม กับ เมืองสายน้ำสามเวลา
จังหวัดสมุทรสงคราม มีนิยามงามๆ ของตัวเองว่า “เมืองสายน้ำสามเวลา” สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสมุทรสงครามที่มีความผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่เช้า คือ การใส่บาตรพระที่มารับบิณฑบาตทางเรือ เวลากลางวัน คือ วิถีการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การทำสวน การขายของทางน้ำ เวลาเย็น คือ การล่องเรือชมหิ่งห้อย นอกจากนี้ จังหวัดสมุทรสงคราม ยังมีการประกอบอาชีพผ่าน 3 นา คือ นากุ้ง นาเกลือ นาข้าว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้คือเสน่ห์และเอกลักษณ์ในแบบฉบับของสมุทรสงคราม ที่อยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เห็นว่า จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของนักท่องเที่ยว ที่ยังรอให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสในหลากหลายแง่มุม ทาง ททท. จังหวัดสมุทรสงคราม และมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงได้กำหนดจัดงาน “เสาร์สราญ ณ อุทยาน ร.2 เมืองน่าลองต้องห้ามพลาด” เพื่อกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” ส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวผ่านการสัมผัสเสน่ห์แห่งวิถีไทยเฉพาะถิ่น (Unique Thai Local Experience) ของภาคกลางตามสโลแกน “สุขกลางใจ ใกล้แค่เอื้อม” รวมทั้งแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว “12 เมืองต้องห้ามพลาด” ที่ ททท.ทำการส่งเสริมการกระจายการเดินทางสู่เมืองรอง
สำหรับกิจกรรมการจัดงาน “เสาร์สราญ ณ อุทยาน ร.2 เมืองน่าลองต้องห้ามพลาด” จะจัดขึ้นในวันที่ 7-8 กรกฏาคม 2561 บริเวณอุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งหลายๆ อย่างเราก็ได้พบในงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
- การแสดงของศิลปินดัง กัน นภัทร The Star และ ก้อง ห้วยไร่ พร้อมด้วยการแสดงทางวัฒนธรรม เช่น ลิเก หุ่นกระบอกและการแสดงของศิลปินรุ่นใหม่
- กิจกรรมตลาดในวัง ชมการสาธิตและจำหน่ายอาหารคาว-หวาน จากกาพย์แห่ชมเครื่องคาวหวาน ในบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาภัย รัชกาลที่ 2 ในรูปแบบอาหารชาววัง เช่น มัสมั่น หรุ่ม ล่าเตียง ขนมลำเจียก ขนมจีบนก เป็นต้น
กิจกรรมตลาดท้ายวัง (ตลาดบก-ตลาดน้ำ) ชมการสาธิตและการจำหน่ายอาหารคาว-หวานในท้องถิ่น รวมถึงสินค้าในชุมชนทั้งของกินของใช้ เช่น น้ำตาลมะพร้าว ผัก-ผลไม้ อาหารต่างๆ ผลิตภัณฑ์แปรรูป อาหารท้องถิ่นของชาวสมุทรสงครามและสมุทรสาคร
- กิจกรรมการสาธิตหัตถศิลป์ในระดับราชสำนัก เช่น การร้อยมาลัย น้ำอบน้ำปรุง เครื่องเบญจรงค์ หัวโขนจำลอง พร้อมร่วมกิจกรรม DIY เช่น เขียนลายเบญจรงค์ เขียนลายหัวโขนจิ๋ว การทำขนมต่าง ฯลฯ
- กิจกรรมสาธิตศิลปหัตถกรรมชุมชนท้องถิ่น เช่น การแกะสลักกะลาซอ การทำว่าวจุฬา เครื่องประดับจากกะลา ผ้ามัดย้อม เป็นต้น พร้อมร่วมกิจกรรม DIY ผลิตภัณฑ์จากใบมะพร้าว เช่น หมวก ตะกร้า ปลาตะเพียน
- กิจกรรมถ่ายภาพในบรรยากาศที่แสดงวิถีชีวิตของพื้นที่ พร้อมร่วมแชร์ภาพถ่ายภายในงาน พร้อม #เมืองสายน้ำสามเวลา เพื่อรับของที่ระลึกภายในงาน
ใครที่สนใจก็ไปเที่ยวชม ชิม ช้อป กันแบบชิลล์ๆ ได้ที่งาน “เสาร์สราญ ณ อุทยาน ร.2 เมืองน่าลองต้องห้ามพลาด” ในวันที่ 7-8 กรกฏาคม 2561 เวลา 10.00-18.00 น. บริเวณอุทยานพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสถานที่อันงดงาม และถ้าจะให้ดี และงามขึ้นไปยิ่งกว่า ก็เชิญชวนกันแต่งกายด้วยผ้าไทยเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศอันงดงามในครั้งนี้ แล้วอย่าลืมจองที่พักกันด้วยล่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672 หรือดูรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ www.thaifest.org