ฟินฝนพรำ Green Season สุพรรณบุรี
ความแตกต่างของฤดูกาล บอกถึงความเป็นไปของชีวิต เพราะทุกอย่างหมุนวนไปตามวงจร หากเราเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ จะมองเห็นความงามที่แตกต่างของแต่ละฤดูกาลที่เกิดขึ้น
ในช่วงหน้าฝน การเดินทางไปไหนมาไหนย่อมมีอุปสรรคเป็นธรรมดา แต่สายฝนที่พร่างพรมลงมา ก็ได้ชะล้างให้ทุกสรรพสิ่งเยือกเย็นขึ้น เกิดภาพความสดใสเขียวชอุ่ม และการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ก็มีแง่มุมที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เช่นเดียวกับ Green Season ของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่เราเก็บมาเติมพลังความสดใสให้กับทุกคน
เขื่อนกระเสียว เที่ยวไหนก็ห้ามพลาด
หากขับรถมาถึง อ.ด่านช้าง แล้ว ต้องลองแวะเที่ยวชม “เขื่อนกระเสียว” อีกมุมดี ๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความผ่อนคลาย ทั้งบริเวณสันเขื่อนที่ทอดยาว ในยามเช้าและยามเย็นจะมีผู้คนเข้ามาวิ่งออกกำลังกายหรือปั่นจักรยาน เพื่อชมความงามของวิถีชีวิตบนผืนน้ำเหนือเขื่อน และถือเป็นอีกจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามของเมืองไทย
เขื่อนกระเสียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 เป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำสร้างกั้นลำห้วยกระเสียว ยาว 4,250 เมตร สูง 32.5 เมตร พื้นที่กักเก็บน้ำ 28,750 ไร่ เป็นเขื่อนดินที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
บ้านไร่ท้ายเขื่อนของผู้มีเพื่อนชื่อธรรมชาติ
นอกจากบริเวณสันเขื่อนแล้ว บริเวณท้ายเขื่อนกระเสียวก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบบรรยากาศแนวแค้มปิ้ง ใครที่ไม่ถนัดนอนเต้นท์ก็มีที่พักเล็กๆ ให้บริการ เช่นที่ “บ้านไร่ท้ายเขื่อน” รีสอร์ตขนาดย่อมท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่หมุนเวียนไปตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นวิวเขื่อนและขุนเขาได้แบบเต็มสายตา มีที่พักให้บริการทั้งแบบเต้นท์ หรือ ห้องพัก ซึ่งมีทั้งห้องพักแบบพัดลมและเครื่องปรับอากาศให้เลือก
ในช่วงนี้มีดอกดาวกระจายสีเหลืองอร่ามปกคลุมเป็นทุ้งกว้าง สายฝนที่ตกสลับในบางเวลายิ่งขับให้สีสันของต้นไม้ใบหญ้าดูสดใส เป็น Green Season ที่น่าอัศจรรย์ใจ อยากชวนให้ทุกคนไปสัมผัสร่วมกัน
(ทุ่งดอกไม้จะปลูกสลับหมุนเวียนไปตลอดทั้งปี)
ให้หุบเขาโอบกอดเราที่เขาวง
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง บ้านพุน้ำร้อน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าชุมชนเชิงนิเวศ บริเวณบ้านพุน้ำร้อน อ.ด่านช้าง ดินแดนทางตะวันตกสุดของสุพรรณบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เกิดจากความร่วมมือของชุมชน มุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สามารถเข้าพักในรูปแบบแพ และกางเต้นท์ ปกติจะเปิดให้เข้าพักตั้งแต่ 12 สิงหาคม ของทุกปี แต่ปี 2563 ยังคงปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้เราจึงแวะมาชมบรรยากาศเพื่อเติมแรงบันดาลใจกันไปก่อน
การเดินทางเข้าสู่อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง มีระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตรจากวัดพุน้ำร้อน เริ่มแรกจะเป็นเส้นทางลาดยางสะดวกสบาย แล้วจะเข้าสู่เส้นทางลูกรังที่อาจจะทำความเร็วได้ยาก บางช่วงก็มีวิบากเล็กน้อย รถเล็กจึงอาจจะไม่เหมาะนัก
นับเป็นอีกเส้นทางขับรถเที่ยวที่สวยงามผ่านเทือกสวนไร่นาชาวบ้าน ฉากหลังเป็นแนวเขาสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มแบบนี้
ผ้าซิ่นตีนจกโบราณภูมิปัญญาชาวลาวครั่ง
การทอผ้าซิ่นตีนจกโบราณบ้านพุน้ำร้อน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เป็นมรดกตกทอดของชาวลาวครั่งจากหลวงพระบางที่อพยพมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยมีไฮไลต์ของการทอผ้าที่ก่อให้เกิดลวดลายทั้งด้านในและด้านนอก จึงสามารถสวมใส่ได้ทั้งสองด้าน ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มทอผ้าราว 30 คน อายุตั้งแต่ 25 ปี ไปจนถึง 86 ปี เป็นคุณยายอารมณ์ดีที่มอบสีสันแห่งรอยยิ้มให้กับทุกคนที่มาเยือน
ตามปกติแล้วชาวบ้านจะทอผ้ากันตามบ้านเรือน แต่หากมีงานหรือมีแขกมาเยือนเป็นหมู่คณะก็จะมารวมตัวกันที่วัดพุน้ำร้อน ซึ่งช่วงหน้าฝนนี้ นอกจากการทำนาทำไร่หรือการทอผ้าแล้ว ชาวบ้านบอกว่า เป็นช่วงของการเข้าป่าเก็บเห็ดเก็บหน่อไม้อีกด้วย
(ติดต่อกลุ่มทอผ้าซิ่นตีนจกโบราณ บ้านพุน้ำร้อน “วันเพ็ญ กาฬภักดี” โทร.089-5238146 ประธานกลุ่ม)
ชิลล์ “นารวม” ร่วมใจชาวพุน้ำร้อน
นอกจากการทอผ้าแล้ว ด้วยแนวคิดของเจ้าอาวาสวัดพุน้ำร้อน ยังสนับสนุนให้กลุ่มชาวบ้านร่วมกันทำ “นารวม” แปลงนาข้าวหอมมะลิปลอดสารเคมี ในบริเวณพื้นที่ว่างของวัด ได้ผลผลิตแล้วก็นำมาแบ่งปันกัน สัมผัสได้ทั้งสีสันของนาข้าวที่กำลังสดใส บวกกับรอยยิ้มอันน่าชื่นใจของชาวบ้านพุน้ำร้อน
อิ่มนี้ (คิดถึง) อีกนาน ที่บ้านดงเย็น
ที่ “บ้านดงเย็น” อ.อู่ทอง ก็ได้ชื่อว่าเป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ที่มีความเข้มแข็ง แต่ละบ้านจะมีการปลูกพืชผักต่าง ๆ แบบปลอดสารเคมี ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยวันนี้ “ป้าแวว สว่างแจ้ง” ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจวนเกษตรดงเย็น อาสาพาเราไปเดินชมในจุดต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งการทำเกษตรแบบแปลงในโรงเรือน และการส่งเสริมการปลูกพืชด้วยวิธีการอย่างง่าย ไม่ว่าจะเป็นผักริมรั้ว หรือการนำวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงเป็นกระถาง ได้กิน ได้แบ่งปันกัน แถมยังมีพอขายเพื่อสร้างรายได้ ใครไปใครมาก็สามารถนัดแนะเพื่อมาชิมอาหารจากวัตถุดิบตามฤดูกาล บอกได้คำเดียวว่า “เด็ด”
ไล่เรียงมาด้วยสารพัดเมนูจากผักปลอดสารเคมี อาทิ ผัดกะเพราไก่ ซึ่งใช้ ผัดกะเพราป่าผัดมาแบบบ้านๆ รสชาติจัดจ้านหอมฟุ้ง น้ำพริกกะปิปลาทูทอด กินแกล้มกับผักสดนานาชนิด ผักน้ำผัดน้ำมันหอย ถั่วฝักยาวผัดหมูกรอบ เป็นถั่วกรอบๆ สดจากต้น กินแล้วได้รสชาติถั่วฝักยาวที่แท้จริง ฯลฯ จึงเป็นมื้อที่ทุกคนเจริญอาหารเป็นยิ่งนัก
ใครมาดูงานหรืออยากมารับประทานอาหาร ต้องนัดล่วงหน้า (ประมาณ 10 คนขึ้นไป) โทรหาป้าแววได้ที่ โทร.083-3088144
เยือนตำนานดินถิ่นอบเชย
อีกมุมของสุขภาพดี ๆ ในสุพรรณบุรีอยู่ที่ ที่บ้านเขาพระ อ.อู่ทอง ซึ่งเป็นแหล่ง “อบเชยเถา” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตำนานดิน” พืชสมุนไพรกลิ่นหอมที่มีอยู่มากในบริเวณนี้ นอกจากจะนำมาบด ตาก และคั่วจนได้ที่ เพื่อต้มน้ำดื่มเหมือนชา ยังนำมาขัดหรือพอกเพื่อบำรุงผิวได้อีกด้วย อีกทั้งยังนำมาเป็นส่วนผสมเพิ่มความหอมให้กับกาละแม
การกวนกาละแมถือเป็นงานหนักไม่ใช่เล่น เพราะในช่วงเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จะหยุดกวนไม่ได้เลย เพราะจะทำให้เนื้อกาละแมไหม้ จึงต้องอาศัยไม้พายหลายอันช่วยกวนสลับกันไป ถือเป็นอีกกิจกรรมสร้างสายสัมพันธ์ของคนในหมู่บ้านอีกด้วย
(ติดต่อเยี่ยมชม “ธนกิจ แสวงหา” หัวหน้ากลุ่มบ้านตำนานดิน โทร.06198263987)
พระพุทธรูปแกะสลักบนหินผากับคุณค่าที่ยืนยาว
ปิดท้ายกันที่แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ “วัดเขาทำเทียม” อ.อู่ทอง ซึ่งมีการแกะสลักหน้าผาหินเป็นพระพุทธรูป ขนาดหน้าตักกว้าง 65 เมตร สูง 84 เมตร ชื่อว่า “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” หรือ “หลวงพ่ออู่ทอง” ส่วนของพระพุทธรูปแกะสลักได้ดำเนินการเสร็จสิ้นพร้อมให้เข้าชมแล้ว แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการปรับพื้นที่โดยรอบเพื่อให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองหินเก่า
ถือเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่แฝงไว้ด้วยแนวคิดดี ๆ เพราะจากนี้ไป ทุกคนก็จะร่วมใจกันรักษาภูเขาแห่งนี้ไว้ ให้เป็นทรัพยากรอันมีคุณค่าไปอีกยาวนาน
ติดตามภาพบรรยากาศของ Green Season สุพรรณบุรี ได้ในรายการ “เที่ยวเป็น travel intrend” วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม 2563 เวลา 14.00 น. ทาง PPTV HD ช่อง 36 หรือชมรายการย้อนหลังได้ใน Youtube : เที่ยวเป็น travelintrend ช่อง 36 หรือ Facebook : เที่ยวเป็น travelintrend by P smile