Globish เผย “จีน” เป็นภาษาที่ 3 ที่คนทั่วโลกเลือก
การก้าวสู่ประเทศที่ทรงอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ทำให้ถนนแห่งการลงทุนมุ่งหน้าสู่จีน ขณะเดียวกัน จีนก็ได้ปูทางการลงทุนในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันจีนถือเป็นผู้ลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ในบ้านเรา นั่นหมายความว่า โอกาสของการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นทางทางตรงและทางอ้อม ทั้งการเข้าทำงานในบริษัทในจีน หรือการผลิตสินค้าและบริการเพื่อป้อนตลาดชาวจีน ทั้งในและต่างประเทศ
ที่ผ่านมา ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากลของโลก แต่เมื่อการขยายอำนาจทางเศรษฐกิจของจีนกระจายไปทั่วโลก ทำให้ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ทรงอิทธิพลตามไปด้วย จนกลายเป็นภาษาที่ 3 ของโลก
นายธกานต์ อานันโทไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ 3 ที่ผู้คนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเลือกเรียน โดยเฉพาะภาษาจีนกลาง (Mandarin) ซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 6 ภาษาราชการขององค์การสหประชาชาติ และปัจจุบันผู้คนทั่งโลกราว 1.3 พันล้านคนใช้ภาษาจีน จึงนับเป็นภาษาที่มีผู้คนใช้สื่อสารมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ประกอบกับปัจจุบันสาธารณรัฐประชาชนจีนถูกมองเป็นชาติมหาอำนาจที่น่าจับตา เนื่องจากได้ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยอัตรา GDP ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดปี 2562 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) เผยเศรษฐกิจจีนโตร้อยละ 6.1 และในด้านการค้าขายกับต่างประเทศ ก็มีมูลค่าเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์ เรือพาณิชย์ คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลายประเภท อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตร ยานยนต์ การท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ ฯลฯ ยังเป็นจุดยุทศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ประกอบกับประเทศจีนได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
จนล่าสุดในช่วงปี 2562 จีนได้กลายเป็นผู้ลงทุนต่างชาติที่ขอรับการสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทยสูงเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยกว่ามูลค่า 8.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท) แม้ประเทศจีนจะเป็นชาติที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นประเทศแรก แต่ก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศที่เข้มแข็งจนถูกมองว่าจีนจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้หลังวิกฤตโควิด-19 ปัจจัยทั้งหมดจึงส่งผลให้เกิดความต้องการเรียนรู้ภาษาจีนเพื่อใช้ในการทำงานและประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“Globish ในฐานะผู้พัฒนาทักษะทางด้านภาษาสำหรับคนไทย ที่ต้องการสร้างคนไทยให้พร้อมรับโอกาสประสบความสำเร็จในการทำงานและธุรกิจ ด้วยการให้บริการการเรียนผ่าน Online Live Classroom ในหลักสูตรการเรียนที่หลากหลาย จึงได้พัฒนาหลักสูตรภาษาจีน Live Chinese Classroom ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด สอดรับกับความต้องการตลาดแรงงานในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าเติบโตของสัดส่วนภาษาจีนจาก 2% เป็น10% ในปี 2563 ภาษาจีนกลางมีความจำเป็น และเป็นที่ต้องการมากโดยเฉพาะในวงการธุรกิจต่าง ๆ เนื่องจากบริษัท และองค์กรใหญ่ ๆ ต่างต้องการพนักงานที่สามารถฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาจีนกลางได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 35%” นายธกานต์กล่าว
ด้านนางสาวชื่นชีวัน วงษ์เสรี เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า Globish Chinese ได้พัฒนาหลักสูตรภาษาจีนสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่มีความต้องการในการพัฒนาภาษาจีนที่แตกต่างกัน สำหรับผู้ใหญ่ Globish Chinese เน้นหลักสูตรภาษาจีนเพื่อธุรกิจ ภาษาจีนเพื่อการสื่อสาร รวมถึงหลักสูตรภาษาจีนที่เน้นไวยากรณ์ และทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียนไปพร้อม ๆ กัน ในรูปแบบ Live Chinese Classroom เพื่อเพิ่มโอกาสการเรียนรู้และยกระดับความสามารถด้านภาษาให้คนไทยเตรียมพร้อมในอนาคต