Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

Friends of Silk Road Club in Thailand ระดมสมองนักวิชาการ จัดสัมมนา “จีนยุคใหม่กับการผลักดันประเทศกำลังพัฒนาให้เติบโตอย่างทัดเทียม”

Friends of Silk Road Club in Thailand ร่วมกับ Siam Think Tank และ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ จัดเสวนาวิชาการภายใต้หัวข้อ “จีนยุคใหม่กับการผลักดันประเทศกำลังพัฒนาให้เติบโตอย่างทัดเทียม” พร้อมเผย โมเดลมังกรยุคใหม่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วง 40 ปี พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของไทย เดินหน้าสานความสัมพันธ์ไทย-จีนสู่ปีที่ 50

การสัมมนาในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก “นางเผิง เฟย” ที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และ “นายพรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล” รองอธิการบดีอาวุโส สายวิชาการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 10 ท่าน ทั้งจากประเทศไทย และจีน เข้าร่วมการสัมมนา ณ โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567

นายพรวิทย์  พัชรินทร์ตนะกุล รองอธิการบดีอาวุโส สายวิชาการ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า การพัฒนาของประเทศจีนในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน นับเป็นพัฒนาแบบก้าวกระโดด จากประเทศผู้ผลิตด้วยแรงงานราคาถูก สู่เจ้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีล้ำสมัยในระดับสากล ถือเป็นแบบอย่างที่น่าเรียนรู้สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย  โดยพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ คือ การพัฒนาคน ซึ่งหมายถึงการพัฒนาในภาคการศึกษา ที่จะช่วยบ่มเพาะให้คนมีศักยภาพมากกว่าวิชาความรู้ในสาขาที่เลือกเรียน และสามารถใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาพัฒนาต่อยอดสู่สิ่งใหม่ได้ และควรมีทัศนคติในการเรียนรู้แบบไม่จบสิ้นเนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การศึกษาต้องช่วยให้คนสามารถคิด วิเคราะห์ พร้อมการนำความรู้ไปสู่การใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

การมุ่งเน้นให้ความสำคัญด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือ จุดเปลี่ยนของประเทศ หลักสูตรการเรียนการสอนจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน อันนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถในด้านเศรษฐกิจ  ซึ่งรัฐบาลถือเป็นตัวกลางที่ควรหันมาให้ความสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาด้านการศึกษาของไทย เพื่อผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาประเทศ

“เมื่อคนได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้ที่สามารถนำความรู้ไปใช้งานได้จริง และต่อยอดสู่สิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจก็จะตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญ ปัจจุบันเด็ก ๆ ในจีน มีโอกาสคลุกคลีกับ AI ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา เพราะรัฐบาลต้องการให้ AI เป็นเรื่องใกล้ตัว ให้เด็ก ๆ ได้รู้จัก และเรียนรู้เพื่อการพัฒนาต่อไปในอนาคต” นายพรวิทย์ กล่าว

ด้านนางเผิง เฟย ที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย  กล่าวว่า โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด เนื่องมาจากแนวทางการที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจีนให้ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน  ทั้งด้านรายได้ของประชากร การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้ประเทศจีนได้เปลี่ยนผ่านจากระดับของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มาเป็นการพัฒนาในระดับสูง ก้าวทันความเปลี่ยนของสถานการณ์โลก

นอกจากการพัฒนาภายในประเทศแล้ว จีนยังมุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาได้อย่างทัดเทียมกัน จึงมีแนวคิดที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม รวมทั้งเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างกัน สามารถร่วมมือกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้การพัฒนาเป็นไปอย่างราบรื่น

“และในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ในปี 2568 นี้ จึงหวังว่าจะสามารถรักษาความร่วมมือและความสัมพันธ์ รวมทั้งการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกันให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป “นางเผิง เฟย กล่าว

ดร.หลี่ หมินซิน (Dr. Li Minxin) กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ Siam Think Tank กล่าวสรุปในงานสัมมนาครั้งนี้ว่า Siam Think Tank และ Friends of Silk Road Club in Thailand ได้ดำเนินการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างไทย-จีน ซึ่งเป็นมิตรประเทศกันมาอย่างยาวนาน โดยงานสัมมนาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาความสัมพันธ์ทั้งทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน สังคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และอื่นๆ  

“เป้าหมายกระชับความสัมพันธ์ก็เพื่อให้คนจีนและคนไทย ได้เรียนรู้และเข้าใจกัน สืบสานความสัมพันธ์อันดีงามได้อย่างราบรื่น และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน เพื่อการเติบโตไปพร้อมๆ กันของทั้งสองประเทศ” ดร.หลี่ หมินซิน กล่าว

Post a comment

7 + one =