“ภูวดี คุนผลิน” เผยเบื้องหลังเรือสำราญ ลอยลำเหนือน่านน้ำเจ้าพระยา
หากเอ่ยถึงกรุงเทพ ฯ เมืองหลวงของไทยนั้นถือเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวในความสวยงามของสถาปัตยกรรม และวิถีชุมชน จากกระแสความนิยมนี้ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯเพื่อเที่ยวชมวัดวาอาราม และบ้านเรือนสองฝากฟั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจำนวนมากจนทำให้กรุงเทพฯ ติดอันดับเมืองน่าเที่ยวของโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จากโอกาสทางการตลาดนี้เองทำให้ครอบครัวคุนผลินสร้างตลาดเรือสำราญขึ้นเพื่อท่องเที่ยวชมสองฝากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพฯ โดยมี คุณเอ๋ -ภูวดี คุนผลิน รับหน้าที่ดูแลกิจการของครอบครัวในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เรือเจ้าพระยาครุยส์ (Chaophraya Cruise) ในวันนี้ทีมงานมีโอกาสล่องเรือชมทิวทัศน์อันสวยงาม 2 ฝากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อนำชมธุรกิจของครอบครัวคุนผลิน
คุณภูวดี คุนผลิน กล่าวต้อนรับทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเอง หลังจากเดินนำหน้าขบวนรำกองยาวที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่เรือลำสวย ณ ท่าเรือ ห้างสรรพสินค้าริเวอร์ซิตี้ เธอกล่าวถึงธุรกิจว่า การทำการตลาดธุรกิจเรือสำราญนั้นไม่ง่ายเลย ในระยะแรกต้องเริ่มจากศูนย์ โจทย์ที่เธอได้รับ คือ ต้องหาความแตกต่างของเรือเจ้าพระยาครุยส์กับเรือลำอื่นๆ ที่วิ่งให้บริการอยู่ในขณะนั้น เธอและคุณแม่ ดร. มาลีรัตน์ จึงต้องหาลูกค้าเอง โดยได้เดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศ และทำการตลาดใหม่ทั้งหมด ด้วยการประสานงานเอเยนซี่ทัวร์ต่างๆ เพื่อให้แบรนด์ของ The Chaophraya Cruise เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งระยะแรกลูกค้าเป็นกลุ่มชาวไทยและชาวยุโรป แต่ก็ยังมีไม่มากนักทำให้ต้องให้บริการเพียงช่วงวัดหยุดเสาร์และอาทิตย์ ก่อนที่จะขยายมาให้บริการในเวลาช่วงค่ำของทุกวันอย่างเช่นปัจจุบัน
คุณภูวดีเล่าย้อนไปเมื่อ 14 ปีก่อนว่าแม้จะไม่ง่ายนักที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ด้วยความที่ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว โชคในทางธุรกิจเริ่มเข้าข้าง เมื่อทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้สนับสนุนธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงเวลานั้น ทำให้บริษัท นำเรือ Chaophraya Cruise เข้ารับการสนับสนุนด้านการเงิน การลงทุนในการดำเนินธุรกิจในขณะนั้น ทำให้มีโอกาสไปโรดโชว์หาลูกค้าในประเทศต่างๆ และเนื่องจากมีการประชุมกลุ่มรัฐมนตรีเศรษฐกิจเอเปคในประเทศไทย ทำให้โอกาสของธุรกิจเรือสำราญเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการโปรโมทด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและเอกชน
จากเรือเพียง 1 ลำในปี 2006 ที่ได้รับทุนสนับสนุนการต่อเรือจาก BOI และการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายหลังจากที่เรือเริ่มเปิดให้บริการล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาในยามค่ำคืนได้ระยะหนึ่งก็มีกระแสตอบรับจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้บริษัท Number One Ferry (ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของเรือเจ้าพระยาครุยส์) ตัดสินใจต่อเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่เพิ่มเติมขึ้น ได้แก่ “เรือเดอะแกรนด์เจ้าพระยาครุยส์” ขยายธุรกิจล่องเรือดินเนอร์แม่น้ำให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น มีทั้งบริการล่องเรือเป็นหมู่คณะ แบบส่วนตัว บริการเช่าเหมาลำ เหมาเฉพาะชั้น และล่องเรือดินเนอร์ชมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเทศกาลต่างๆ ทั้งวันปีใหม่ วาเลนไทน์ และลอยกระทง ฯลฯ
“สิ่งสำคัญในการให้บริการธุรกิจเรือสำราญ คือ ความใส่ใจในบริการ ทั้งพนักงาน การแสดงโชว์ต่างๆ และอาหารการกินบนเรือที่มีความหลากหลาย และมีอาหารฮาลาลไว้บริการนักท่องเที่ยวชาติมุสลิม การมีการบริการที่ดีเหล่านี้เพื่อสร้างความประทับใจตลอดการเดินทาง 2 ชั่วโมงบนเรือและเป็นการสร้างการบอกต่อไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ เรือของบริษัท ฯ ออกแบบด้วยเอกลักษณ์ที่สวยงาม เป็นเรือสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องแอร์ ชั้นบนเป็นบรรยากาศเปิดโล่ง ลมพัดเย็นสบาย สามารถนั่งชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของสถานที่สำคัญเชิงประวัติศาสตร์ ที่มีการตกแต่งประดับประดาด้วยไฟและสีสันอันงดงาม อาทิ วัดกัลยาณมิตร, วัดอรุณราชวราราม, วัดพระแก้ว, พระบรมมหาราชวัง, สะพานพระราม 8 และป้อมพระสุเมรุ รวมทั้งแสงสีที่สวยงามตระการตาของโรงแรมต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา”
ปัจจุบันการแข่งขันตลาดเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ในจุดนี้ คุณภูวดี ได้ให้ความเห็นว่า การขยายตลาดและโปรโมรชั่นต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากการทำการตลาดกับกลุ่มเอเยนซี่ทัวร์และโรงแรมต่างๆ การทำการตลาดร่วมกับสายการบิน บริษัทที่บริการจัดงานแต่งงาน บริษัทจัดอีเว้นท์ บริษัทบัตรเครดิต ค่ายโทรศัพท์มือถือ ค่ายเพลง ล้วนมีความจำเป็นมากเช่นกัน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้สามารถมาใช้บริการเช่าเหมาลำในการจัดงานต่างๆ หรือจัดโปรโมรชั่นส่วนลดร่วมกับบัตรเครดิต และบัตรอื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
“ลูกค้าเราส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป ชาวรัสเซีย ชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง และมีชาวญี่ปุ่นและชาวตะวันออกกลางที่มาท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 70-80 % และขณะนี้มีลูกค้าต่างชาติที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ ตลาด AEC ซึ่งในตลาด AEC มีการทำโปรโมชั่นกับเอเยนซี่และโรดโชว์เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่วนลูกค้าที่เหลือคือลูกค้าชาวไทย ”
การสร้างตลาดใหม่และการขยายฐานลูกค้าสู่ตลาด AEC นั้นเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบท่องเที่ยว มีกำลังซื้อสูง เช่น อินโดนีเซีย นอกเหนือจากตลาดใหม่ในกลุ่มนักเดินทาง การสร้างแบรนด์โดยการหาพันธมิตรธุรกิจใหม่ในการโปรโมทเรือและการร่วมสนับสนุนงานระดับชาตินั้นเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยเพราะในตลาดพรีเมี่ยม ในปี 2560 ที่ผ่านมา เรือเจ้าพระยาครุยส์ได้ให้ความสำคัญในการเข้าไปสนับสนุนกิจกรรมงานต่างๆ เช่นในปี 2560 คือ การสนับสนุนการเดินทางทางเรือผู้ร่วมงาน Le Dîner en Blanc เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560 โดยงานจัดขึ้นที่บริเวณหอประชุมกองทัพเรือ โดยการร่วมมือกับทางผู้จัดงาน คือ คุณไอริณ ฤกษะสาร และ คุณพรรณวิลาส ชัยเชาวรัตน์ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารมากกว่า 10 ปี สร้างงานอีเว้นท์ Le Diner En Blanc- Bangkok ให้น่าสนใจ และทำให้เป็นค่ำคืนที่น่าประทับใจในการดินเนอร์
การบริการที่ดีและการใส่ใจในลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการให้บริการเรือสำราญเฉกเช่นเดียวกับความมีเอกลักษณ์ที่ชวนจดจำในตัวสินค้าซึ่งการทำงานของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคนทุกตำแหน่งของ The Chaophraya Cruise ในจุดนี้ไม่ใช่แค่การทำงานเพื่อรักษามาตราฐาน แต่ต้องใส่ใจและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นแบรนด์ผู้นำตลาดธุรกิจเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยา และต้องรักษาคุณภาพการบริการในระดับพรีเมี่ยม เช่นเดียวกับโรงแรมหรือรีสอร์ทห้าดาว มีมาตราฐานที่เหมาะสมกับแบรนด์ The Chaophraya Cruise Luxury 5 Star Cruise on Chaophraya River ที่เป็นผู้นำตลาดธุรกิจเรือสำราญมานานกว่า 10 ปี คุณภูวดี กล่าว
เรือเจ้าพระยาครุยส์ (Chaophraya Cruise)
อัตราค่าบริการสำหรับคนไทยและต่างชาติ ผู้ใหญ่ท่านละ 1,700 บาท และเด็กท่านละ 1,000 บาท
เวลาออกเรือ คือ 19:30 – 21:30 น. ณ ห้างสรรพสินค้าริเวอร์ซิตี้ ซอย เจริญกรุง 24
เรื่อง : เมธาจิตร์ ไตรยภาพ ภาพ : วิชิต ก้องเสียงสังข์