Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

สัมผัสกลิ่นอายแห่งมิตรภาพ ผ่านวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียน ที่ Buonissimo  

ไม่ว่าคุณจะเคยไปประเทศอิตาลีหรือไม่ แต่คงเคยได้ยินชื่อเสียงของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า หรือ พาสต้า ซึ่งปัจจุบันเป็นอาหารที่แพร่หลายในเมืองไทย

แม้จะดูแล้วว่าเป็นอาหารที่เรียบง่ายใช้วัตถุดิบไม่มากนัก แต่สิ่งที่ซ่อนในอาหารอิตาเลียนกลับเปี่ยมไปด้วยความพิถีพิถัน โดยเฉพาะเรื่องของวัตถุดิบ ซึ่งอาศัยบริบทและความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ใครที่อยากจะทำอาหารอิตาเลียน บอกได้เลยว่าไม่หมู

เพราะอาศัยวัตถุดิบเฉพาะเป็นตัวกำหนดรสชาติที่สำคัญ ทำให้แหล่งวัตถุดิบที่ดียังต้องอาศัยการนำเข้าหรือความเชี่ยวชาญแบบชาวอิตาลีเท่านั้น ในเมืองไทยมีร้านอาหารอิตาเลียนอยู่มากพอสมควร แต่ส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรม ย่านกลางเมือง หรือแหล่งท่องเที่ยว ส่วนใหญ่มีราคาสูงตามโลเคชั่น แต่ไม่ต้องกังวลไป ใครที่อยากสัมผัสอาหารสไตล์อิตาเลียนอร่อย ๆ จากวัตถุดิบดี ๆ ในราคาที่จับต้องได้ ขอแนะนำ “Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria”

Adolfo Faccin (อดอลโฟ ฟาซิน) เจ้าของร้าน “Buonissimo” (บูนิชชิโม) เขาเป็นชาวอิตาเลียน อดีตวิศวกรนักชิมที่ทำอาหารเป็นงานอดิเรก เรื่องของอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมเมดจึงไว้ใจเขาได้

“อดอลโฟ” เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทยประมาณ 30 ปีแล้ว และเคยเปิดร้านอาหารอิตาลีในกรุงเทพฯ ทำจากชอบจนรัก ไม่นานมานี้เขาได้ทำเลเปิดร้านใหม่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในย่านใจกลางกรุง แต่ก็ยังคงดึงดูดนักชิมให้ไปถึง  แถมยังมีบริการเดลิเวอรี่อีกด้วย

Adolfo Faccin

เขาเล่าว่า ในช่วงโควิด-19 เขา ได้มาเจอกับอาคารในทำเลชานเมือง เป็นอาคารที่สามารถทำร้านอาหารได้ใหญ่กว่าเดิม  อยู่ในซอยศรีด่าน 6 ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นย่านที่กำลังพัฒนา โครงการรถไฟฟ้า  ทั้งยังเห็นว่าในย่านนี้ยังไม่มีร้านอาหารอิตาเลียนอยู่เลย

“ในย่านนี้ไม่มีร้านอาหารอิตาเลียนเลย แต่ชาวต่างชาติก็ไม่ได้คึกคักอย่างในกรุงเทพฯ ลูกค้าหลัก ๆ ของทางร้านจึงเป็น ชาวไทย และชาวเอเชีย อย่างชาวจีนและไต้หวัน รวมทั้งผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติและบรรยากาศของร้านอาหารอิตาเลียน  เพราะบางคนเคยไปอิตาลีมาแล้ว เคยกินแล้ว บางคนอาจจะเคยเห็นแค่ในโซเชียล”  อดอลโฟ เล่าด้วยภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว

Adolfo และ Mattia เพื่อชาวเวนิส ซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน

ร้านอาหาร “บูโอนิชชิโม” (Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria) ย่านบางพลี สมุทรปราการ เริ่มเปิดตัวขึ้นปลายปี 2020 โดยเริ่มจากให้บริการแบบเดลิเวอรี่ โดยมี  “อดอลโฟ” และ “แมทเธีย” (Mattia) เพื่อนชาวเวนิสที่เคยทำงานอยู่ภูเก็ตมาเป็นผู้จัดการร้าน

“ผมทำอาหารออกมาจากใจ มาจากความชอบของเราจริง ๆ ทำทุกอย่างตั้งแต่ทำอาหาร เสิร์ฟ คุยกับลูกค้า แนะนำไวน์ รวมถึงการบริหารงาน และการมองหาเมนูใหม่ ๆ เข้ามา อาหารอิตาเลียนกับอาหารไทยมีรสชาติแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงมีการปรับพอสมควร แป้งพาสต้าของอิตาลี อาจจะคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยวของไทย แต่ไม่ใช่เลย เพราะมันเป็นแป้งคนละชนิด พาสต้าจะมีความเหนียวกว่า จนคนไทยที่ไม่คุ้นเคยบอกว่ามันยังไม่สุก จึงต้องมีการปรับ แต่ยังคงมาตรฐานตามสไตล์อิตาเลียน เมนูไหนที่ลูกค้ายังไม่รู้จักแพร่หลายมากนัก ก็จะจัดให้ทดลองชิมฟรีเพื่อเป็นการแนะนำ”

“อดอลโฟ”  เล่าต่อว่า แม้ประเทศอิตาลีจะมีขนาดเล็กกว่าประเทศไทยถึงสี่เท่า แต่ในแต่ละเมืองของอิตาลีก็มีความแตกต่างกัน และมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

“ไส้กรอกที่เรานำเข้ามาจากอิตาลีตอนใต้ วัตถุดิบหลายอย่างนำเข้าจากอิตาลี เริ่มจากชีส พริกก็ใช้ของอิตาลีเพราะมีความหอม แม้จะไม่แรงเท่าพริกไทย แองโชวี่ก็ต้องสั่งจากอิตาลีเท่านั้น เพราะแองโชวี่จากอิตาลีจะมีกลิ่นที่ไม่แรงเท่าของไทย”

พิซซ่าอิตาเลียน นำร่องออนไลน์ 600 ถาดต่อเดือน

ย้อนไป 4 เดือนแรกหลังจากเปิดร้าน แม้จะเข้าสู่ยุคโควิด  แต่  “อดอลโฟ” ก็จับทางได้ถูก เป็นการนำเสนอความตั้งใจ ที่ตรงเข้าสู่ใจผู้บริโภค โดยเฉพาะเมนูพิซซ่า ซึ่งถือเป็นใบเบิกทางของร้าน ลูกค้าทั้งในละแวกใกล้ไกลได้ลองแล้วติดใจ ชนิดที่เรียกว่า “ขายดีตั้งแต่วันแรก”

“คนไทยคุ้นเคยกับการกินพิซซ่า แต่พิซซ่าที่ขายในเมืองไทยจะมีลักษณะที่แตกต่างจากพิซซ่าอิตาลี แป้งพิซซ่าของอิตาลีจะมีความคล้ายคลึงกับขนมปัง มีความบางกำลังดี กรอบนอก นุ่มใน พิซซ่าของเราถือเป็นเมนูเดลิเวอรี่ที่ขายดีมาก แต่ละเดือนเราขายทางออนไลน์ได้กว่า 600 ถาด”

นอกจากรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ จากวัตถุดิบคุณภาพ ถูกปากถูกใจคนกินแล้ว ด้วยทำเลที่ไม่ได้อยู่ในทำเลทอง ทำให้จัดการต้นทุนได้ดีกว่า ทางร้านจึงขายในราคาที่จับต้องได้มากกว่าเช่นกัน

“เราอยู่ในโลเคชั่นที่สามารถทำราคาให้เข้าถึงได้ง่าย แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะใกล้เคียงกัน แต่ร้านในเมืองจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม  สำหรับวัตถุดิบผมจะเลือกรสชาติที่ดีก่อน เช่น ไส้กรอกซึ่งมีหลายราคา ผมจะเอามาทั้งหมด แล้วให้ทุกคนชิม ทั้งลูกน้อง และลูกค้าก็ให้ชิมด้วย แล้วอันไหนที่ส่วนใหญ่ชอบก็จะเลือกอันนั้น”

ช่วงเวลาแห่งความสุข ที่ Buonissimo

หลังจากพูดคุยกับพอหอมปากหอมคอ ท่ามกลางเสียงบรรเลง “แมนโดลิน” จาก “Carlo Sundo” นักดนตรีชาวอิตาลี เติมเต็มบรรยากาศแห่งความสุข พร้อมสำหรับการออกสตาร์ทไปในเส้นทางของอาหารอิตาเลียน ซึ่งวันนี้รายเรียงมาให้ชิม พร้อมกรรมวิธีการผลิต ที่เห็นได้ถึงความพิถีพิถันจริง ๆ

ออกสตาร์ทด้วย  “สลัดบูราต้าชีส พาร์มาแฮม” (BURRATA E PROSCIUTTO DI PARMA) เมนูแรกที่แอบซ่อนความลับแสนอร่อยไว้ภายใน เป็นบูราต้าชีสถุงกลมเหมือนลูกโป่งน้อย ๆ ด้านในซ่อนชีสครีมเนื้อเนียนนุ่มละมุน  ล้อมด้วยพาร์มาแฮมเกรดดี ร็อกเก็ตสลัดและมะเขือเทศเชอรี่ เหยาะเบซามิกโฮมเมดหอม ๆ เปรี้ยวกำลังดีสูตรของทางร้าน เปิดปุ่มรับรสได้เหมือนเด็ก ๆ ที่กำลังย่างเข้าสู่สวนสนุก

MIXED BRUSCHETTA ไล่เรียงตั้งแต่  Parma Ham / Smoked Salmon and Ricotta Cheese/ Rocket Salad, sliced Parmesan and balsamic caviar/Gorgonzola with nuts and honey/Caprese ( tomatoes, mozzarella, balsamic caviar)

ต่อด้วยของทางเล่นหรืออาหารเรียกน้ำย่อยหน้าตาดี “มิกซ์ บรูสเก็ตต้า” (MIXED BRUSCHETTA) ขนมปังโฮมเมดปิ้ง ท้อปปิ้งสไตล์อิตาเลียนที่สามารถเลือกหน้าได้ถึง 5 แบบ จาก 12 รายการ

นอกจากสีสันและหน้าตาที่สวยงามชวนลิ้มลองแล้ว รสชาติยังสะท้อนวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ตั้งแต่ตัวขนมปังที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ ทำจากแป้งสาลีคาร์โบไฮเดรตต่ำ สดใหม่ทุกวัน

ไปต่อด้วย “ซีฟู้ดซุปไวท์ไวน์ซอส”  (SAUTE AI FRUTTI DI MARE) ซุปรสชาตินุ่ม ๆ หอมละมุน ด้วยความสดจากอาหารทั้งทะเล ทั้งกุ้ง หอย และหมึก หอมกลิ่นกระเทียมจาง ๆ และพาร์สลีย์

มาถึงเมนูพาสต้า ที่มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย เป็นพาสต้าโฮมเมดที่เห็นขั้นตอนแล้วเข้าใจถึงความพิถีพิถันได้เป็นอย่างดี วันนี้เชฟยังโชว์การทำแป้งและรีดเส้นพาสต้าให้ชมกันด้วย

อย่างที่รู้ว่าพาสต้าของอิตาลี ไม่ได้มีแค่สปาเก็ตตี้ แถมยังมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปหลายร้อยแบบ ปรุงได้หลากหลายเมนู วันนี้ทางร้านมี 3 เมนูจากพาสต้าโฮมเมดมาแนะนำ

เริ่มจาก “พาสต้ากุ้งและซูกินี่” (GAMBERI E ZUCCHINE) ที่เลือกใช้เส้นพาสต้าทาญเลียเตลเล่ (TAGLIATELLE) ผัดกับมะเขือเทศเชอรี่และซูกินี่ ที่มีลักษณะคล้ายบวบลูกเล็ก แต่ความกรุบกรอบต่างกัน เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี

“ราวิโอนี่ครีมซอสเห็ดไส้กรอกอิตาเลียน” (BOSCAIOLA) ใช้ตัวพาสต้าราวิโอลี่ (RAVIOLI) ที่มีลักษณะคล้ายเกี๊ยวรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งต้องชื่นชมว่าทำตัวราวิโอลี่ได้หนึบกำลังดี ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป ซอสครีมหอมละมุน เมื่อกัดเข้าไปในไส้ชีสด้านในแป้งยิ่งทำให้ได้สัมผัสรสที่เต็มไปด้วยชั้นเชิง

พาสต้าโฮมเมดอีกตัว คือ MEDAGLIONI มาในเมนู “พาสต้าไส้ผักโขมและแองโชวี่”  (PUTTANESCA PICCANTE ) จานนี้จะมีรสเข้มข้น จากส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ แองโชวี่ และมะกอกดำ เป็นอีกตัวที่แสดงถึงวิธีการรังสรรค์อาหารสไตล์อิตาลี ในรสชาติที่นักชิมเข้าถึงได้ไม่ยาก

ทางร้านมีเมนคอร์สให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งเมนูเส้น เมนูเนื้อ และเมนูซีฟู้ด วันนี้เชฟขอเสนอ “สเต๊กเนื้อปลากะพง เลม่อนซอส” (FILETTO DI BRANZINO SERVITO CON SALSA AL LIMONE ) น่าจะเป็นเมนูที่คุ้นลิ้นคนไทยอีกรายการหนึ่ง แต่ด้วยกรรมวิธีที่ไม่ทำให้เสียรสชาติปลามากเกินไป ดูภายนอกเนื้อปลาจึงดูเสมือนไร้การปรุงแต่ง แต่ลองได้ชิมแล้ว จะมีความปะแล่มของรสเค็มมาเสริมแต่งความสดของเนื้อปลาที่มีความหวานในตัว เมื่อราดเลม่อนซอสลงไป ได้สัมผัสที่แตกต่าง แน่นอนว่าอร่อยได้สุขภาพ

ระหว่างที่เรานั่งในร้านก็เห็นไรเดอร์มารับพิซซ่าไปส่งลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เป็นอย่างที่บอกไว้จริง ๆ

มาถึงเมนูเด็ดที่คนไทยคุ้นเคย เพราะบ้านเรากินพิซซ่ากันจนคุ้นลิ้น  วันนี้เราเกาะเตาพิซซ่าตั้งแต่ขั้นตอนการนวดแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ ทาด้วยซอสมะเขือเทศ แล้ววางท้อปปิ้งลงไป โดยวันนี้เชฟนำเสนอพิซซ่าแบบ 2 หน้า เพื่อจะได้ชิมกันทั้งสองแบบ โดยพิซซ่าสองหน้าจะคิดราคาตามหน้าที่แพงกว่า

พิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาลี ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็หอมกรุ่นออกจากเตา วางลงเพื่อเติมรสชาติบางอย่าง วันนี้ครึ่งหนึ่งเป็น พิซซ่า “ดิอาโวล่า” (DIAVOLA) ชื่อ DIAVOLA ภาษาอิตาลีมาจาก “Devil” ซึ่งหมายถึงปีศาจ จึงเป็นพิซซ่าปีศาจที่มีรสร้อนแรงแบบฉบับอิตาลี ใช้ซาลามี่รสเผ็ด เมื่ออบเสร็จแล้วก็จะเหยาะด้วยน้ำมันพริกอีกเล็กน้อย ให้ความเผ็ดร้อนกำลังดี เป็นอีกเมนูที่คนไทยชอบมาก

พิซซ่าถาดใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบราคากับแบรนด์ใหญ่ ๆ แล้ว ถือว่าคุ้มค่ามาก ไหนจะวัตถุดิบดี ๆ รสชาติโดน ๆ ไม่แปลกเลยที่จะเป็นที่ถูกใจของลูกค้า

อีกครึ่งเป็น “พิซซ่าบูโอนิชชิโม” (BUONISSIMO) ซิกเนเจอร์ของทางร้าน หน้าชีส แฮมเห็ด ซาลามี พริกหวาน และมะกอกดำ ถาดใหญ่จัดเต็มมาพร้อม ๆ กันจนล้น ทั้งตัวแป้งที่นุ่มหนึบได้ที่ กรอบนอกนุ่มในจริง ๆ ทั้งยังหอมกลิ่นเตาถ่าน ผสานกับรสชาติของวัตถุดิบที่อร่อยลงตัว ไม่ต้องเรียกร้องซอสเพิ่มเติมใด ๆ หลายคนคงทราบแล้วว่า อาหารอิตาเลียนไม่นิยมปรุงเพิ่ม โดยเฉพาะพวกซอสต่าง ๆ ซึ่งที่ร้านก็ไม่มีซอสให้บริการจริง ๆ

ตบท้ายด้วยเมนูของหวานสไตล์อิตาลีที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ “เซมิเฟรโด” (SEMIFREDDO) เป็นของหวานสไตล์อิตาเลียนที่มีความเป็นเอกลักษณ์มาก ด้วยลักษณะ Half Cold หรือเย็นครึ่ง ๆ ตัวขนมเหมือนมูสแช่แข็ง แต่มีความฉ่ำนุ่มละมุนคล้ายไอศกรีม รสกาแฟอ่อน ๆ ตัดกับความกรอบของเนื้อคุ้กกี้เล็ก ๆ กินไปสงสัยไป เหมือนจะเป็นไอศกรีมแต่ก็ไม่ใช่ แต่อร่อยจริง ๆ

อีกเมนูชื่อว่า “CANNOLI” (CANOLI WITH ICE CREAM TOPPING-200) คาโนลี เป็นขนมแป้งทอดสไตล์อิตาเลียน ตัวแป้งจะกรอบมากภายในอัดแน่นไปด้วยครีมชีสรีคอตต้ารสหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีม โรยช็อกโกแลต  เป็นของหวานที่ชวนฝัน เชฟบอกว่าไม่นิยมตัดด้วยช้อน ให้ใช้มือยกขึ้นมาเข้าปากได้เลยจะได้รสชาติอย่างเต็มปากเต็มคำ

“HOMEMADE ORANGE BALSAMIC REDUCTION” บัลซามิกที่ผ่านการหมักอย่างดี เปรี้ยวกลมกล่อม

รสชาติแห่งความสุข ยังได้รับการเติมแต่งจาก “Carlo Zundo” นักดนตรีชาวอิตาลี ซึ่งวันนี้ได้แวะมาโชว์สำเนียงแมนโดลิน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีท้องถิ่นของอีตาลี

สัมผัสแห่งรสชาติของความสุข ส่งผ่านความรักความตั้งใจ ออกมาเป็นอาหารอิตาเลียนที่พร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้า แม้รายละเอียดจะไม่ได้ลึกลับซับซ้อน แต่ซ่อนไว้ด้วยความพิถิพิถัน

บรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรไมตรี ไม่ใช่แค่เพียงประสบการณ์ในการลิ้มลองความอร่อยจากวัฒนธรรมที่แตกต่าง แต่หมายรวมถึงกลิ่นอายของมิตรภาพแบบชาวอิตาลีที่คุกรุ่นอยู่ในร้านแห่งนี้

ร้านอาหารอิตาเลียน “บลูโอนิชชิโม” (Buonissimo)

เลขที่ 29/8 ซอยศรีด่าน 6 (เข้าซอยเพียง 100 เมตร)

ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

เปิดให้บริการ 11.00-22.00 น.

(มีดนตรีสดทุกคืนวันศุกร์และโอกาสพิเศษต่าง ๆ)

บริการเดลิเวอรี่ ROBINHOOD, GRAB และ LINEMAN

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook/ Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria

โทร. 0 2004 4741, 09 6370 0749

Post a comment

17 − 4 =