Blues Concert Green Heart YAMIN One for The Road
พลังแห่งดนตรีมีอานุภาพในการส่งต่อความรู้สึกนึกคิดของศิลปินไปยังผู้ฟัง สำเนียงที่ผ่านทางหู ได้ดูด้วยตา แต่สัมผัสด้วยใจ เป็นเวทมนต์แห่งห้วงเวลาราวกับว่าต้องมนต์ขลัง
เมื่อดนตรีสามารถสื่อสารเรื่องราวไปยังผู้คนได้ หลายครั้งจึงใช้ในการถ่ายทอดข้อความบางอย่างเพื่อสร้างแรงกระเพื่อมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เช่นคอนเสิร์ตในครั้งนี้ YAMIN One for The Road @Parking Toys
YAMIN (ญามิน) หรือ “ภูวดล วีระเสถียร” เป็นศิลปินที่โลดแล่นในเส้นทางดนตรีมาอย่างยาวนาน สร้างสรรค์ผลงานมาแล้ว 4 อัลบั้ม จนมาถึงอัลบั้มที่ 5 ชื่อว่า One for The Road ซึ่งยังคงกลิ่นอายดนตรีสไตล์บลูส์ที่เขาชื่นชอบ และคนฟังก็ชื่นชมมาโดยตลอด
คอนเสิร์ต YAMIN One for The Road จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎคม 2566 ที่ Parking Toy ย่านเกษตร-นวมินทร์ เป็นคอนเสิร์ต Acoustic Blues ภายใต้บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง นอกจากจะเป็นการถ่ายทอดการเดินทางครั้งใหม่ของญามินผ่านลายเซ็นทางด้านดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ในครั้งนี้ยังเติมความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อโลกใบนี้ ด้วยกิจกรรมส่งต่อต้นไม้ให้โลก
เพราะโลกบอบช้ำมามาก ภาวะโลกร้อนเป็นปรากฎการณ์ที่ทุกคนรับรู้และสัมผัสได้ สาเหตุของภาวะโลกร้อน และ “โลกรวน” ล้วนมาจากการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นภาคพลังงาน ที่ปัจจุบันเราผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานฟอสซิล การเดินทางด้วยรถที่ใช้น้ำมัน เศษขยะและอาหารที่เหลือทิ้ง ฯลฯ
กิจกรรมเหล่านี้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และมีเทนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก ที่ทำให้โลกร้อนขึ้น หากปล่อยไว้แบบนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้อุณหภูมิโลกร้อนเกินที่มนุษย์จะอยู่อาศัยได้ และทำให้เกิดปรากฏการณ์อื่น ๆ ที่เป็นภัยตามมาไม่จบสิ้น
หนึ่งในแนวทางการลดปัญหาโลกร้อน ก็คือการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งไม่ว่าใครก็ทำได้ คอนเสิร์ตในครั้งนี้จึงถือเป็นการออกมาแสดงพลังของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่อยากจะชวนทุกคนให้ร่วมกันปลูกต้นไม้ เป็นการสื่อสารพลังแห่งดนตรี บวกกับพลังแห่งความรัก (ษ์) โดยศิลปินที่มาร่วมงานจะได้รับต้นไม้กลับไปปลูกกันทุกคน
งานนี้ยังมีกลุ่มคนที่มีความมุ่งหวังเดียวกันเข้ามาร่วมแสดงพลัง ประกอบด้วย Nho SNOBoq , Ap Thuwachit (แอ๊ป ธุวชิต) , Kitty AMath (คิตตี้ เอแมท) , I’MARM (แอม อาร์ม) จากค่าย 2 Degrees , โต๋ กำชัย และ ใหม่ สิบล้อ โดยมี เอ สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ , ครูรัก ศรัทธา ศรัทธาทิพย์ , เฮง โคตรอินดี้ , อาท Nobody สุพรรณบุรี และกลุ่มมิตรภาพสร้างสรรค์ Bike Finder ที่มาร่วมมอบต้นไม้ ร่วมส่งต่อความรัก ส่งต่อพลังดีๆ ร่วมกัน
สำหรับบรรยากาศในค่ำคืนของ YAMIN One for The Road พร้อมศิลปินที่มาร่วมโชว์ เต็มไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น และพวกเขาก็หวังว่าการส่งต่อต้นไม้ให้โลก จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่สามารถขยายผลไปสู่วงกว้าง อย่างน้อยในคืนนี้ก็มีต้นไม้ที่รอการเติบใหญ่แล้ว 200 ต้น
และก็เป็นอีกอีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่เคยผิดหวัง กับลวดลายลีลาของ YAMIN ชายผู้สะกดทุกสายตา เมื่อเขาอยู่กับกีตาร์และเปล่งเสียงร้องออกมา
สามารถติดตามผลงานและคิวการแสดงของเขาได้ที่ Facebook/YAMIN และนี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งที่เขาได้บอกเล่าเกี่ยวกับตัวเขาไว้
สไตล์ญามิน
“ผมถูกหล่อหลอมมาจากเพลงหลายรูปแบบ แต่โดยพื้นฐานก็มาจากเพลงบลูส์ เหมือนได้ถูกตอกเสาเข็ม มีรากฐานมั่นคง จากนั้นก็เริ่มขวนขวายหาเพลงฟังเท่าที่จะหาได้ในยุคนั้น แต่มันก็แปลกที่ผมฟังเพลงของคนอื่นแต่ไม่อยากเล่นตาม ผมเปิดเพลงแล้วหยิบกีตาร์มาดีดคลอไปกับเพลงในแบบที่ผมอยากเล่น นั่นคงเป็นต้นกำเนิดของไสตล์ญามิน”
ดนตรีแนวปุถุชน
“เพลงของผมไม่ได้ซับซ้อนซ่อนนัยยะ มันเป็นความรู้สึกตรงไปตรงมา ด้วยเพราะชอบฟังเพลงบลูส์กับเพลงยุคเก่าๆ รวมถึงเพลงลูกทุ่งบ้านเราด้วย มันชัดเจนไม่อ้อมค้อม แต่สวยงาม เพลงของผมจึงมีหลากหลายอารมณ์แต่ก็เป็นเรื่องปกติเท่าที่มนุษย์ปุถุชนจะเป็นได้ จึงขอนิยามดนตรีในแบบของผมว่าดนตรีแนวปุถุชน
เพลงของผมมีทั้งทะลึ่งตึงตังจีบสาว มีทั้งปรัชญาเล็ก ๆ มีทั้งให้กำลังใจให้พลัง ซึ่งมันก็เป็นธรรมชาติในสันดานผมนั่นแหละ อย่างเพลง “ไม่เจ้าชู้” นี่ก็เป็นที่รู้กันถ้าได้ฟัง ว่าสำเนียงการร้องมันฟ้องถึงอะไร เพลง “รองเท้ากับเธอ” เป็นการควบรวมทั้งปรัชญาการใช้ชีวิตของคาวบอย และการใช้ชีวิตคู่แบบเต๋าเข้าด้วยกัน เพลง “โชคดี” หรือเพลง “เป็นกำลังใจให้กัน” ก็ตามชื่อเพลงเลย”
One For The Road
“เป็นความฝัน ความตั้งใจที่ซ่อนใว้ในจุดที่ลึกที่สุด แรงลมและเสียงคลื่นของทะเลที่หาดแสงจันทร์ ซัดมันออกมา ก็ตอนที่ไปเปิดร้านกาแฟเล็กๆอยู่ริมหาดนี้ที่ระยอง ผมตั้งใจกับการทำอัลบั้มนี้ไว้นานมากๆ หวังว่าวันนึงมันคงเกิดขึ้น อยากมีอัลบั้มนึงที่เล่นคนเดียว ง่าย ๆ อัดง่าย ๆ ไม่ใช้สตูดิโอในที่สุดก็ได้เกิดเป็นอัลบั้มนี้ขึ้นมา”
ต้นไม้กับญามิน
“เวลาเดินทางผมชอบมองข้างทาง มองต้นไม้ใหญ่ๆแผ่กิ่งก้านใบให้ร่มเงา มองแล้วเย็นตาเย็นใจ ชีวิตผมปลูกต้นไม้นับครั้งได้ ไม่เคยรู้เรื่องการปลูกต้นไม้ เพราะไม่มีที่มีทางให้ปลูก มีแต่ต้นไม้ที่ไปซื้อมาไว้บังแดด บังตา แต่ก็ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์
ด้วยความรู้สึกของมนุษย์คนนึงที่สัมผัสได้ว่า โลกมันดูแย่ๆเหมือนคนป่วย วิปริตผิดฤดูไปหมด หายใจแต่ละครั้งก็ไม่รู้ว่าได้อะไรเข้าไปมั่ง
ผมนึกถึงต้นไม้ที่เคยปลูกไว้นานมากแล้วที่งานโรงเรียนบุญวัฒนาที่โคราช ป่านนี้มันคงโตใหญ่ให้ออกซิเจนแก่ผู้คน
ผมเลยคิดว่าจะชวนคนที่มางานคอนเสิร์ตวันที่ 19 กค นี้ ปลูกต้นไม้กันคนละต้น อย่างน้อยก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี แล้วค่อยเรียนรู้ขั้นตอนกันไป
ถ้าเรามีอากาศดีๆ จิตใจแจ่มใส เราจะมีอารมณ์ที่ดี และมันจะส่งเริมให้ชีวิตดี คนรอบข้างมีความสุข สังคมมีความสุข โลกใบนี้จะมีความสุข”