ไปเที่ยว ไปกิน วิถีถิ่นนครหลวง
กล้วยเป็นพืชอาหารของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนานนาน เมืองไทยเรามีกล้วยหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งที่ปลูกไว้กิน ใช้ หรือประดับเพื่อความสวยงาม
นอกจากผลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หยวกกล้วยยังเป็นทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ นิยมนำมาต้มหรือแกง หัวปลีก็นำมาทำอาหารหรือกินแนมได้ ใบยังนำมาเป็นทำหีบห่อที่ย่อยสลายได้ง่าย ลำต้นส่วนที่แข็ง ๆ ยังนำมาทำเป็นเชือกกล้วย ปัจจุบันยังพัฒนาไปทำเป็นกระเป๋าได้ด้วย
ทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทยมีต้นกล้วยเป็นพืชล้มลุกที่ปลูกกันอย่างแพร่หลาย เป็นทั้งพืชบ้าน ๆ และพืชเศรษฐกิจที่ปลูกเพื่อส่งขายกันทั้งผลและใบ
หลายคนรู้จักการกินกล้วยสุก แต่ก็อาจจะไม่รู้จักการกินกล้วยดิบ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านที่กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ รวมทั้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
วิถีแห่งสายน้ำ บ้านนา บ้านไร่ หล่อหลอมเป็นเรื่องราวของการกินอยู่แบบชาวนครหลวง ไม่ว่าจะเป็นปลาแม่น้ำที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล ยังมีวัตถุดิบบ้านจากท้องนาอย่าง กบ ปลาไหล ให้หากินได้ตามธรรมชาติ พร้อมด้วยพืชผักสมุนไพรที่ปลูกไว้ อยากกินเมื่อไหร่ก็มาเก็บไปปรุงกันสด ๆ
ที่ร้าน “ครัวสวรรค์บ้านไร่” เป็นร้านอาหารของครอบครัว ดูแลโดย “คุณเมย์” ถ่ายทอดเมนูบ้าน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ให้ผู้มาเยือนได้ลิ้มลอง ผลคือติดอกติดใจ ทั้งรสชาติ ความสด และที่มาที่ไปของวัตถุดิบ
ปัจจุบันมีคนเดินทางมาท่องเที่ยว อ.นครหลวงกันมาก ด้วยความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อองค์พระพิฆเนศ ณ ปราสาทนครหลวง นอกจากนั้นยังมีวัดวาอาราม โบราณสถานต่าง ๆ อีกหลายแห่ง ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก อาทิ วัดใหญ่เทพนิมิต วัดมเหยงค์ วัดกลาง วัดใหม่ชุมพล ซึ่งแต่ละที่เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ควรค่าแก่การเข้ามาศึกษาเที่ยวชม
มาแล้วก็อยากให้ทุกคนแวะชิมลิ้มรสอาหารถิ่น ซึ่งก็มีอยู่หลาย ๆ ร้าน วันนี้ Fam Trip โดย ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้พาเรามาที่ครัวสวรรค์แห่งนี้
ทันทีที่มาถึง เจ้าบ้านก็พาเราเข้าสวน ไปตัดกล้วยดิบมามาทำอาหาร เมนูสาธิตวันนี้คือ “แกงกะทิเนื้อใส่กล้วย” หากจะลงลึกถึงรสชาติบ้าน ๆ จริง ๆ เชฟเมย์แนะนำ “แกงกะทิปลาไหลใส่กล้วย” หรือจะใส่ปลาดุก ปลาช่อนก็ได้
เมื่อได้กล้วยดิบสด ๆ มาแล้วก็ปอกเปลือกเขียว ๆ ออกไป หั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปต้มเพื่อใช้แกงเนื้อกับพริกแกงสูตรของทางร้าน เติมกระชาย ใบมะกรูด เพิ่มความหอม
ก่อนที่จะไปลองชิม ทาง “เชฟลี พิจิกา โรจน์ศตพงศ์” ผู้จัดทำเส้นทาง “พรแห่งความรัก ดอกไม้แห่งศรัทธา” อ.นครหลวง ยังนำเสนอไอเดียสวย ๆ งาม ๆ จากกล้วยสุกให้เราได้ชม
ปกติกล้วยที่สุกงอมจนเกินไป อาจจะไม่เป็นนิยมสักเท่าไหร่ บางบ้านก็เก็บไว้จนเปลือกดำดูไม่น่ากิน แต่ก่อนจะทิ้งลองทำตามที่เชฟลีแนะนำกันดูก่อน
เชฟลีสาธิตการทำสปาผิวด้วยกล้วยให้ได้ชม โดยการนำกล้วยสุกบด มาผสมกับน้ำตาล น้ำผึ้ง และน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย ใช้สครับผิวให้ขาวนวลขึ้น เป็นอีกกิจกรรมท่องเที่ยวที่นำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่นให้เกิดมิติที่หลากหลาย นอกจากมาเดินสายมูตามวัดต่าง ๆ แล้ว ก็แวะมากินข้าว เรียนรู้วิถีชุมชนไปด้วยกัน
สวยกันพอหอมปากหอมคอแล้วไปต่อที่โต๊ะอาหาร ได้พบกับอีกเมนูที่มีความน่าสนใจ เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่คือ “แกงขาว” วันนี้เชฟปรุงเมนูนี้เสิร์ฟเป็นมื้อเที่ยง ย้ำว่าเป็นเมนูแกงเผ็ด ไม่ใช่แกงจืดอย่างหน้าตาที่เห็น โดยจะไม่ใช้พริกแกง แต่ใส่กระเทียมพริกไทยโขลกลงไปให้มีความเผ็ดร้อน ใช้เนื้อแดดเดียว แกงกับหน่อไม้ดอง เป็นอีกรสชาติที่เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับทุกคน
วันนี้ยังได้ลิ้มลองเมนูจากปลาแม่น้ำอีกหลายรายการ อาทิ ปลาหลดแดดเดียวทอด แกงกะทิปลากดคัง ต้มโคล้งปลาหลด ฯลฯ
ยังมีเมนูเด็ดอีกหลายรายการที่ยังไม่ได้สั่งมาชิม ทั้งไก่บ้านรวนปลาร้า ยำกบนาหรือกบบ้าน ซึ่งเชฟเมย์เล่าวว่ามีกระบวนการซับซ้อน ต้องเอากบมาลวกก่อน แล้วตากพัดลมให้แห้ง ฉีกเอาแต่เนื้อ นำไปยำกบแบบไร้กระดูก
กฎข้อหนึ่งของการกินที่อิงกับธรรมชาติ คือ ฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน นำมาซึ่งวัตถุดิบที่แตกต่างกันไป จึงควรสอบถามหรือสั่งจองกับทางร้านมาก่อน
เชฟลี กล่าวว่า นอกจากการนำนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์เสริมสิริมงคลใน อ.นครหลวง แล้ว ยังอยากต่อยอดประสบการณ์อาหารถิ่นเพื่อยกระดับเชฟชุมชน ด้วยการพัฒนาวัตถุดิบร่วมกัน อย่างกล้วยดิบ ซึ่งนิยิมนำมาทำเป็นเมนูอาหารทางอเมริกาใต้เช่นกัน
ดังนั้นจึงมีความน่าสนใจว่า กล้วยหรือวัตถุดิบต่าง ๆ สามารถพัฒนาเป็นเมนูใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ จากประโยชน์ของพืชผักสมุนไพรต่าง ๆ ตอบโจทย์ความสวยความงาม กับการทำสปากล้วย
รวมทั้งโจทย์ใหญ่ของโลก ด้านความยั่งยืน เชฟลีมุ่งหวังว่าจะนำแนวทางของ Zero Waste มาประยุกต์ใช้กับเส้นทางท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวและคนในชุมชนได้มีส่วนร่วม เช่นการใช้วัตถุดิบกล้วยอย่างคุ้มค่าที่สุด เป็นการตอบโจทย์เทรนด์โลกโดยไม่ทิ้งความเป็นไทย
ใครสนใจอยากแวะมารับประทานอาหารที่ครัวสรรค์บ้านไร่ก็แวะกันมาได้ ร้านนี้เขาทำอาหารแบบจานต่อจาน จะเมนูเดียวกันก็ทำทีละจาน และอาศัยวัตถุดิบที่มีเป็นหลัก จึงอยากให้โทรมาสั่งจองล่วงหน้า จะได้ไม่พลาดหวัง
หากมากันเป็นหมู่คณะ 8 คนขึ้นไป จะแวะไปไหว้พระก่อน หรือตรงดิ่งมาเรียนรู้เรื่องอาหาร และทำสปากล้วย สามารถติดต่อทางเชฟลีได้
รสชาติที่ครัวสวรรค์บ้านไร่ เล่าวิถีเรียบง่ายแต่ได้ใจ สะท้อนภาพของชาวนครหลวง ชอบมากเป็นพิเศษสำหรับ “แกงกะทิเนื้อใส่กล้วย” ที่เห็นกันตั้งแต่ต้นทางของวัตถุดิบจนนำมาเสิร์ฟ อร่อยด้วยรสชาติบวกกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจริง ๆ
เดินสายไหว้พระ มูเตลู 5 วัด อ.นครหลวง>> “พรแห่งความรัก” เดินสายไหว้พระ มู 5 วัด อ.นครหลวง
ครัวสวรรค์บ้านไร่
โทร. 092 983 2313
เปิด 9.00-20.00 น.
(หยุดวันอาทิตย์)