โฮมสเตย์กลางทุ่ง พอเพียงแต่เก๋ไก๋ บ้านไร่ไชยคิ้ม
คำว่า “สะดวก” กับ “สบาย” มักอยู่คู่กัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อมีความสะดวก ทุกคนจะต้องสบาย บางคนเลือกใช้ชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องสะดวกสบายมากนัก แต่พวกเขาก็รู้สึกพอใจที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ แถมยังไม่สร้างกระทบทางลบให้กับใครอีกด้วย
เทรนด์ของที่พักรักษ์โลก ที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในแนวทางการบริหารจัดการที่ได้รับความสนใจจากธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ตทั่วโลก หากย้อนไปก่อนหน้านี้ ที่พักแนว “โฮมสเตย์” ก็ถือว่าเข้าข่ายหลักการของที่พักรักษ์โลกอยู่พอสมควร ทั้งการให้แขกผู้เข้าพักได้ใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น กินอยู่แบบเดียวกับเจ้าบ้าน ได้อุดหนุนผลผลิตหรือสินค้าจากชุมชน ลดการใช้ทรัพยากรที่มากเกินไปแบบที่โรงแรมทั่วไปให้บริการ
ไม่นานมานี้เราได้เดินทางไปจังหวัดสระบุรี เพื่อติดตามการทำงานในโครงการพลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน ปีที่ 9 ซึ่งได้เห็นเส้นทางของการก่อร่างโมเดลการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทำได้จริง สอนกันได้ เรียนรู้กันได้ และใช้ชีวิตอยู่ได้จริง แบบที่มีกิน มีแบ่ง มีขาย
พื้นที่ในจังหวัดสระบุรี เป็นพื้นที่แรกที่โครงการนี้ได้เริ่มต้นขึ้น ปีที่ 9 ของการสรุปความสำเร็จของโครงการจึงย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้นตรงนี้ ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายคนมีใจที่แข็งแกร่ง และในครั้งนี้ เรามีโอกาสได้เข้าพักที่ “บ้านไร่ไชยคิ้ม” ที่พักแบบโฮมสเตย์ขนาดกำลังดี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของโครงการเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
“คุณเหน่ง” ผู้จัดการของ “บอย พิษณุ นิ่มสกุล” เจ้าของ “บ้านไร่ไชยคิ้ม” ย้อนความให้ฟังว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้ซื้อที่ดิน 2 ไร่เศษ เพื่อพัฒนาให้เป็นที่พักส่วนตัว โดยเป็นหนึ่งในพื้นที่ 20 ไร่ ที่เจ้าของแบ่งขายเพื่อให้ผู้ที่สนใจในโครงการพลังคนสร้างสรรค์ ตามรอยพ่อของแผ่นดิน โดยให้ชื่อว่า “หมู่บ้านสุขสมบูรณ์” ต้นแบบแห่ง “ชุมชนกสิกรรมวิถี” โดยเป็นหมู่บ้านที่น้อมนำศาสตร์ของพระราชามาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ มีคนจากหลากหลายอาชีพรวมตัวกันราว 15 ครอบครัว ทั้งนักธุรกิจ นักวิเคราะห์แผนงาน นักแสดง นักบิน รวมทั้งเจ้าของที่ดินเดิม หนึ่งในนั้นคือ “บอย พิษณุ”
ทางคุณเหน่งจึงตัดสินใจเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และเลือกแนวทางที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเองคือการสร้างโฮมสเตย์ในไร่ที่มีพันธุ์ไม้หลากหลาย โดยมีพี่น้องในโครงการฯ มาช่วยกันวางรูปแบบการจัดการพื้นที่และร่วมลงมือลงแรงปลูกต้นไม้ใบหญ้าจนกลายเป็นบ้านสวนที่ร่มรื่น ลมพัดโชยตลอดทั้งวัน
“เดิมตั้งใจว่าจะปลูกบ้านไว้อยู่คนเดียวก็น่าจะพอ แต่ก็อยากเปิดโอกาสให้คนที่ชื่นชอบธรรมชาติเข้ามาใช้ชีวิต อย่างน้อยได้มาพักสักคืน เพื่อได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง”
ส่วนประกอบหลักในพื้นที่ 2 ไร่ของบ้านไร่ไชยคิ้ม ประกอบด้วยตัวบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนชั้นบน ซึ่งเป็นห้อง 2 เตียง (สามารถเสริมที่นอนได้ 2-3 เบาะ) มีวิวเปิดโล่ง หน้าต่างกว้างขวาง เพื่อรองรับการไหลเวียนของสายลม ห้องนี้มีเครื่องปรับอากาศ แต่เปิดได้เฉพาะช่วงค่ำไปถึงแปดโมงเช้า เนื่องจากที่นี่ไม่มีไฟฟ้า แต่อาศัยเครื่องปั่นไฟ ซึ่งปัจจุบันสามารถเปิดแอร์ได้ครั้งละ 2 ตัวเท่านั้น
พื้นที่ชั้นบนเป็นเหมือนเรือนไทยโบราณที่เปิดโล่ง มีลมพัดโชยตลอดทั้งวัน มีมุมนั่งเล่นน่ารัก ๆ อีกห้องจะเป็นห้องของคุณเหน่งเอง ซึ่งจะมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
ชั้นล่างของตัวบ้านเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีครัวสำหรับประกอบอาหาร และมุมรับประทานอาหาร มีห้องนอน 1 ห้อง เตียงเดี่ยว 1 เตียงพร้อมห้องน้ำในตัว และมีห้องน้ำแยกอีก 1 ห้อง
ออกจากตัวบ้านด้านหลัง เป็นมุมนั่งเล่น มีทางเดินยกระดับเชื่อมระหว่างตัวบ้าน และบ้านพัก อีก 2 หลัง หลังเล็ก เป็นห้องพัดลม มีลานระเบียงด้านหน้าสามารถกางเต้นท์ได้ ห่างออกไปเป็นบ้านพักอีกหลังมีระเบียงเกือบรอบตัวบ้าน เป็นอีกห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
ส่วนของหน้าบ้านเป็นบึงน้ำที่ขุดขึ้น ลึก 4-5 เมตร ปัจจุบันเลี้ยงปลาคาร์ฟกว่า 100 ตัว มีเรือให้พายเล่น หรือให้อาหารปลา เมื่อหันมองรอบ ๆ ตัวบ้าน ก็จะเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ ทั้งไม้ยืนต้น ไม้ผล ไม้ดอก ในอนาคตคุณเหน่งเตรียมขยายพื้นที่เพิ่มอีก 1.5 ไร่ เพื่อสร้างพื้นที่สวนเพิ่มเติม ให้แขกผู้เข้าพักมาแล้วได้เก็บพืชผักไปปรุงเอง
ทุกพื้นที่ของบ้านไร่ไชยคิ้ม มีความสวยงามสะอาดตา เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะกับบรรยากาศแห่งการอยู่อาศัยและการพักผ่อน มีความเรียบเก๋ในแต่ละมุม ให้อารมณ์เหมือนมาพักบ้านเพื่อนอย่างไรอย่างนั้น
ใครที่เคยอาศัยบ้านในชนบทหรือบ้านต่างจังหวัดแบบดั้งเดิม จะคุ้นเคยกับบรรยากาศของธรรมชาติจริง ๆ เคยนึกย้อนไปเมื่อตอนเด็ก ๆ เรากินนอนในบ้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่เราก็อยู่อย่างสุขสบาย แถมยังหายใจได้สดชื่น พอมาอาศัยในเมืองหลวง ทุกคนเปิดแอร์แล้วพ่นไอร้อนออกมา ไหนจะความร้อนจากการจราจร ความหนาแน่นของผู้คน ในป่าคอนกรีตที่เหลือพื้นที่สีเขียวเป็นหย่อม ๆ ช่างไม่สมดุลเอาเสียเลย
คุณเหน่งยังพาเดินชมพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีบ้านพักเล็ก ๆ อีกหนึ่งหลัง เป็นบ้านไม้ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่ริมบึงน้ำและไร่สวนเช่นกัน
ในครั้งนี้เรามีเวลาสำหรับบ้านไร่ไชยคิ้มไม่มากนัก หลังจากเดินชมสถานที่ในระยะเวลาสั้น ๆ ก็ต้องออกไปทำภารกิจอื่น ๆ ต่อ กลับมาอีกทีก็ดึกแล้ว แต่ช่วงนี้แหละ ที่ได้สัมผัสความสดชื่น เย็นสบาย ชื่นใจสุด ๆ ตัวบ้านที่ปลูกสร้างห่างกัน คั่นด้วยไร่นา ยังสร้างความเป็นส่วนตัวมาก ๆ
จะเข้าปีที่ 5 แล้ว จนถึงบัดนี้ ที่บ้านไร่ไชยคิ้มก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เครื่องปั่นไฟที่เคยใช้ตั้งแต่เริ่มปลูกสร้างบ้านก็ยังถูกใช้งาน แต่มีส่วนของแผงโซลาร์เซลล์ ที่ติดไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อช่วยสร้างแสงสว่างในตอนกลางคืน
ก็เหมือนกับรีสอร์ตตามเกาะทั้งหลายที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ต้องอาศัยเครื่องปั่นไฟ และพลังงานแสงอาทิตย์ การใช้พลังงานไฟฟ้าจึงต้องจำกัดปริมาณ ใช้ตามความเหมาะสมเท่านั้น แต่หากใครได้ลองอยู่กับธรรมชาติจริง ๆ จะรู้ว่า ต้นไม้ และสายลม เป็นตัวสร้างบรรยากาศเย็นชื่นใจให้กับเราได้
แม้ไม่สะดวกมากนัก แต่ก็สบาย ทั้งสบายตัว และสบายใจจริง ๆ
บ้านไร่ไชยคิ้ม
ต.หนองควายโซ อ.หนองแซง จ.สระบุรี
ราคา 800-1,200 บาท พร้อมอาหารเช้า
รายละเอียดเพิ่มเติมที่
Facebook/ baanraichaikim
IG : baanraichaikim
โทร. 08 5479 5642
Maps : https://goo.gl/maps/quEreZvuDG4JPYsB6