Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

7 แลนด์มาร์กเชียงราย แอ่วเหนือฮีลใจ

การเดินทางไกล ให้อะไรกับเรามากมายนัก ขณะที่บางคนอาจคิดว่าเป็นการเสียเวลา กลับได้มาซึ่งความผ่อนคลายแบบไม่ได้ตั้งใจหวัง

ตลอดสองข้างทางระหว่างนั่งรถจากกรุงเทพฯ สู่เชียงราย ทำให้เราได้เก็บเกี่ยวภาพความเป็นไปของคนในแต่ละพื้นที่ ได้มองต้นไม้ใบหญ้าป่าเขาฉายภาพผ่านหน้าต่าง ได้แวะจุดพักไปเรื่อย ๆ แบบไม่ซ้ำ แม้ว่ารสชาติกาแฟร้านดังในปั๊มน้ำมันจะไม่ต่างกันมากนัก แต่บรรยากาศของเช้า สาย บ่าย เย็น ในแต่ละจังหวัดทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ดังว่าเป้าหมายของการเดินทางได้มาถึงแล้ว

ทริปท่องเที่ยวกับ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬากองทัพบก  เดินทางสู่ มณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย หนึ่งในเส้นทาง Army Land ท่องเที่ยวแดนทหาร ซึ่งเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ใกล้เคียงอีกหลายแห่ง


1.ตามรอยประวัติศาสตร์ รอยพระบาท ร.9

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใน “ค่ายเม็งรายมหาราช” คือ “ศาลารอยพระบาท รัชกาลที่ 9”  บนดอยโหยด ภายในค่ายฯ ใช้เวลาขับรถขึ้นไปเพียงไม่กี่นาทีก็จะพบกลุ่มศาลาที่ตั้งตระหง่านตัดกับแผ่นฟ้าสีสดใส

เข้าไปกราบ “รอยพระบาท ร.9”  หนึ่งเดียวในโลก  ตามประวัติระบุว่า เมื่อ พ.ศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงประทับรอยพระบาทลงบนปูนปลาสเตอร์ ณ ดอยยาว – ดอยผาหม่น อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ ในการสู้รบกับกองกำลังคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้น ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ทางค่ายฯ จึงอัญเชิญมายังศาลารอยพระบาทในปัจจุบัน

บริเวณที่ตั้งของศาลารอยพระบาทยังอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นวิวเมืองเชียงรายได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นซึ่งมีบรรยากาศดีไม่แพ้ที่ไหน


 

2.สายเขียวได้ใจ ไร่ชาฉุยฟง

ชวนไปฮีลใจแบบสายเขียวที่ “ไร่ชาฉุยฟง” ต.แม่จัน จ.เชียงราย แหล่งปลูกชาขนาดใหญ่ที่สุดในเชียงราย ลดหลั่นเป็นขั้นบันไดตามเนินเขา ด้วยความมุ่งมั่นในการปลูกชาที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนทั่วทุกมุมโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 พร้อมด้วยการันตีด้านคุณภาพ มาตรฐาน และรสชาติ ด้วยรางวัลจากเวทีต่าง ๆ มากมาย

นอกจากไร่ชาเขียว ๆ ที่มองแล้วเย็นตา ในไร่ยังมีคาเฟ่ให้เลือกชิลกันถึง 2 แห่ง 2 สไตล์ เสิร์ฟเมนูอร่อยดีต่อใจ เริ่มจากหน้าตาที่น่ากิน ไปถึงรสชาติที่อร่อย โดยเฉพาะเครื่องดื่ม และขนมที่มีส่วนผสมของชา โดยเฉพาะบรรดาเค้กชาเขียวที่เข้มข้นละมุนสุด ๆ


3.สกายวอล์กเหนือสุดแดนสยาม

มาถึงแดนเหนือแล้วต้องเหนือให้สุด ๆ และนี่คือ “พระธาตุเหนือสุดแดนสยาม” นามว่า “พระธาตุดอยเวา” อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งมีสัญลักษณ์อันเป็นที่จดจำคือ “แมลงป่อง” ซึ่งเป็นความหมายของคำว่า “เวา” โดย “พระองค์เวา” ผู้ครองนครนาคพันธ์โยนก เป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่งเมื่อ พ.ศ. 364 เป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่รองมาจากพระบรมธาตุดอยตุง บนวัดพระธาตุดอยเวาเป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีหอชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา

สำหรับ “สกายวอร์กวัดพระธาตุดอยเวา” ได้ชื่อว่าเป็น Sky Walk เหนือสุดแดนสยาม มีความยาว 150 เมตร สำหรับคนกลัวความสูงอาจจะไม่ชินในช่วงแรก ๆ แต่อยากให้ลองขึ้นไปให้ใจสั่นสักพัก เมื่อเห็นวิวแล้วอาจจะชิลจนลืมว่ายืนอยู่ตรงบนพื้นกระจก

จุดชมวิวอีกฝั่งของวัด สำหรับคนที่ไม่อยากขึ้นสกายวอล์ก

จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พบว่า สกายวอล์กแห่งนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ด้านบนตลอดเวลาทำการ และมีการทำประกันไว้กว่า 130 ล้านบาทต่อปี


4.สามเหลี่ยมทองคำ จุดชมวิว 3 ประเทศ

สามเหลี่ยมทองคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นชื่อเรียกบริเวณสามเหลี่ยมที่มาบรรจบกัน โดยมีแม่น้ำโขงตัดผ่าน เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาคซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม

ปัจจุบันการเติบโตทางเศรษฐกิจในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (ฝั่งไทย) ยังคงมีความคึกคัก เช่นเดียวกับฝั่งเพื่อนบ้าน  (สปป•ลาว)  ซึ่งมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก สะท้อนภาพความหมุนเวียนของโลกที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา


5.“หอฝิ่น” เปิดฉากอย่างเร้าใจ จบแบบให้คิด

หากเป็นหนังสักเรื่อง นี่คงเป็นหนังที่มีทุกสไตล์ ฉายทุกมิติได้อย่างน่าติดตาม กับเรื่องราวของ “หอฝิ่น”อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

“หอฝิ่น” เป็นศูนย์นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่นอย่างครบวงจร  จากพระราชปรารภของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อันประกอบด้วย ดินแดนประเทศลาว เมียนมา และไทย จึงเกิดเป็นโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ที่สามารถลดการผลิตและค้าฝิ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างดี และทรงมีพระราชดำริที่จะให้ประชาชนได้เรียนรู้เรื่องมหันตภัยอันเกิดจากฝิ่นและสารเสพติด มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จึงได้ดำเนินการจัดสร้าง หอฝิ่น ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542

เริ่มจากการก้าวเข้าสู่อุโมงค์มุขที่เต็มไปด้วยภาพหลอน ก่อนจะพบเรื่องราวของฝิ่นในอีกหลาย ๆ ห้อง บอกได้เลยว่าเดินเพลิน น่าชม น่าคิด น่าติดตามมาก ๆ นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยากให้มาชมสักครั้งในชีวิต


6.ด้วยแรงแห่งศรัทธา วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว

แหล่งท่องเที่ยวอัน “สงบงาม” ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเชียงราย นั่นคือ “วัดพระธาตุดอยเวียงแก้ว”อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ก่อสร้างขึ้นโดยดำริของ “พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ”

จุดไฮไลต์หลัก ๆ คือ “อุโบสถบุญชุ่มรัตนปุรี ศรีธรรมราชา”  ศิลปะตามแบบล้านนาบริสุทธิ์  เป็นสถานที่ประชุม ทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ จัดกิจกรรมและกิจต่าง ๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ภายประดิษฐานพระพุทธเมตตามหาจักรพรรดิรัตนปุรีศรีเชียงแสน เป็นพระประธานประจำอุโบสถ

พลตรีพลศักดิ์ ศรีเพ็ญ ผอ.สง.ททก.ทบ. และผู้ร่วมเดินทางในทริปนี้

ภายในวัด ยังมีการจัดแสดงภาพประติมากรรมฝาผนัง พุทธประวัติ ทศชาติ และชีวประวัติ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ

ใกล้กับอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐาน “สมเด็จพระคันธาระองค์ปฐม” พระพุทธรูปองค์สำคัญ  ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และอาจาริยบูชาแด่ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ เพื่อสืบสานและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีความเจริญมั่นคงสืบไป


7.“วัดร่องขุ่น” อีกกี่ครั้งก็ยังว้าว

คงเป็นวัดเพียงไม่กี่แห่งที่เข้ามาแล้วได้เจอกับอาการ “ว้าว ๆ ๆ” อยู่เต็มพื้นที่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ระบุไว้แล้วว่านี่คือ Must See แห่งแดนสยาม ศิลปะแห่งความศรัทธาอันงดงาม แม้แต่ห้องน้ำยังโดนเข้าใจผิดว่าเป็นสถานที่สำคัญ (จริง ๆ ก็สำคัญมาก)

“วัดร่องขุ่น” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย แต่เดิมเป็นเพียงวัดเก่าขนาดเล็กและสภาพค่อนข้างทรุดโทรม ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2540 “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ได้มีแนวคิดในการบูรณะและออกแบบใหม่ โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างนานถึง 13 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เดินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ เริ่มตั้งแต่ “พระอุโบสถ” สีขาว วิจิตรตระการตาด้วยลวดลายและการประดับกระจกสีเงิน  มีสะพานทอดยาวข้ามวัฏสงสารสู่พุทธภูมิ  “อุทยานพระพิฆเนศ”  อาคารสีทองอร่าม  จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระพิฆเนศ และมีหอพระพิฆเนศสีทองตั้งอยู่กลางน้ำ “ถ้ำศิลป์” เป็นผลงานประติมากรรมสร้างสรรค์ตามแนวคิดของพระพุทธศาสนา ใช้เวลาสร้างกว่า 6 ปี  ห้องนิทรรศการภาพวาด หอศิลป์ และห้องแสดงภาพ ของอาจารย์เฉลิมชัย นอกจากนั้นยังมีโซนจำหน่ายของที่ระลึก ช่วยอุดหนุนผู้ประกอบการและคนในชุมชน  

ไปเที่ยวเขตทหาร Army Land เชียงราย >>Army Land แดนเหนือ เชียงราย-เชียงใหม่

ขอขอบคุณแบบในภาพทุกท่าน

meetThinks

Post a comment

seventeen + 20 =