หมอกใกล้กรุง ที่ ‘เขาพะเนินทุ่ง’

ธรรมชาติไม่ต้องการให้ใครมาคาดหวัง

แต่ก็ไม่เคยทำให้คนที่รักต้องผิดหวัง

….

ฤดูหนาวในช่วงปลายปี คือเวลาที่หลายคนอยู่นิ่งไม่ได้ ในบางครั้งดูเหมือนต้องดิ้นรนค้นหา เพียงเพื่อจะพบกับช่วงเวลาที่ทำให้พวกเขาได้สงบนิ่ง

พื้นที่สูงตามภูเขา เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี หากมีเวลาไม่มากนัก เขาที่อยู่ใกล้ ๆ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี

เรากำลังพูดถึง “เขาพะเนินทุ่ง” ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี อุทยานที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำเพชรบุรีและปราณบุรี

ดินแดนมรดกโลกแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวเพียง 2 วัน 1 คืน ก็รื่นรมย์สมใจได้แล้ว

The Tree Riverside ริมแม่น้ำเพชร

ใครที่อยากขึ้นเขาพะเนินทุ่ง สามารถเลือกพักค้างแรมได้ทั้งบนจุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง และบ้านกร่างแคมป์ ทั้งสองจุดอยู่ในเขตอุทยานฯ มีลานกางเต็นท์ให้บริการพร้อมห้องน้ำห้องท่า

สำหรับคนที่เลือกพักตามรีสอร์ต ก็อยู่ในรัศมีไม่ไกลจากทีทำการอุทยานฯมากนัก ทั้งย่านสันเขื่อน ริมอ่างเก็บน้ำ หรือที่พักที่เรียงรายไปตามลำน้ำเพชรบุรี

วันนี้เราเข้าพักกันที่ “The Tree Resort @แก่งกระจาน” ที่พักขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายริมลำน้ำเพชรบุรี ซึ่งมีห้องพักหลากรูปแบบให้เลือก ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ โดยเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น รถสองแถวของชาวบ้านจะมารับถึงที่พัก นัดหมายกันในเวลาตี 5

การเดินทางสู่เขาพะเนินทุ่ง

การเดินทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง สามารถใช้บริการรถสองแถวของชาวบ้านซึ่งมีความชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี หากเป็นรถส่วนตัวจะต้องมีสมรรถนะที่เพียงพอต่อการไต่เขาขึ้นไปบนทางที่ลาดชัน

เพื่อเป็นการจัดระเบียบและลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายเล็ก ๆ ที่ลัดเลาะไปบนภูเขา ทางอุทยานฯ จึงกำหนดเวลาการขึ้นลงเขาพะเนินทุ่งเพียงวันละ 2 รอบเท่านั้น ขาขึ้น ในช่วงเช้า เริ่มตั้งแต่เวลา 5.30 -7.30 น. ช่วงบ่าย 13.00 – 15.00 น. ขาลง รอบเช้า 9.00 – 10.00 น. ช่วงเย็น 16.00 – 17.00 น.

เช้าวันนี้เราออกจากรีสอร์ตตั้งแต่เช้ามืด ฝ่าความมืดมุ่งหน้าสู่อุทยานฯ ก่อนจะไต่เส้นทางขึ้นไป หลังจากผ่านบ้านกร่างแคมป์แล้ว ถนนจะเล็กลง ผ่านธารน้ำตก 3 แห่ง รวมทั้งจุดชมผีเสื้อ (ต้องรอแดดออก) จากนั้นเส้นทางก็จะเริ่มขรุขระและเคดเคี้ยวมากขึ้น รถสวนทางกันได้ยาก จึงเป็นเหตุผลที่ต้องจัดระเบียบเวลาการขึ้นลง พร้อมการนับจำนวนนักท่องเที่ยว ไม่ให้เกิดความแออัดมากเกินไป

จุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง

จากรีสอร์ตมาถึงจุดชมวิวเขาพะเนินทุ่ง ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง เมื่อมาถึงก็พบกับเหล่านักท่องเที่ยวสายแคมป์ที่มาปักหลักค้างแรมกันเต็มพื้นที่ จากนั้นก็เดินเข้าสู่ลานกว้างของจุดชมวิว ในเวลาเจ็ดโมงเศษ ๆ กลุ่มหมอกยังคงเกาะกลุ่มเป็นผืนกว้างอยู่กลางหุบเขา

ไม่ว่าจะพบกลุ่มหมอกอยู่ในสภาพใด เพราะธรรมชาติไม่เคยบอกให้เราคาดหวัง แต่ทุกคนก็ไม่เคยผิดหวัง บรรยากาศที่เย็นสบาย กับความเวิ้งว้างกว้างไกลของภูเขาที่สลับซับซ้อน บางครั้งเราอาจจะได้เห็นสัตว์น้อยใหญ่ออกมาโชว์ตัว  นี่คือความอิ่มเอมที่ตะโกนดัง ๆ ภายในใจ

เราใช้เวลาดื่มด่ำภาพความทรงจำนี้อยู่นาน นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มวนเวียนกันขึ้นมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนจะถึงเวลาเก้าโมง เราแวะไปจิบกาแฟ และกินข้าวเช้ากันที่ร้านค้าสวัสดิการ นั่งทอดสายตาไปกับภาพของขุนเขาที่รายล้อม มื้อนี้….อร่อยเหลือเกิน

เมื่อถึงเวลา 9.00 น. รถทุกคัน (ยกเว้นคันที่แจ้งไว้แล้วว่าจะค้างคืน) จะมาจอดเรียงกันเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว จากนั้นก็เดินทางลงจากเขา โดยจะใช้เวลาน้อยกว่าขาขึ้นอยู่มาก แต่ก็สามารถแวะชมผีเสื้อตามโป่ง แวะเดินเล่นที่บ้านกร่าง หรือจะแวะชมอุโมงค์ต้นไม้บนถนนใกล้ปากทางอุทยานฯก็ได้

เขามหาสวรรค์ “พระนครคีรี”

ก่อนหรือหลังจากขึ้นไปชมหมอกที่เขาพะเนินทุ่งแล้ว ยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวในเมืองเพชรได้อีกหลายจุด ทั้งใน อ.แก่งกระจาน และในตัวเมือง

“อุทยานประวัติศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ พระนครคีรี” เป็นพระราชวังบนภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีมาตั้งแต่สมัย ร.4 มีกระเช้าพาเราขึ้นไปชมโบราณสถานที่น่าสนใจ เช่น  “พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์” ซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์แรกที่สร้างขึ้นบนพระนครคีรีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2402

 “พระที่นั่งปราโมทย์มไหศวรรย์”​ ประกอบด้วยห้องทรงพระสำราญ ห้องพระบรรทม และห้องแต่งพระองค์ (ห้ามถ่ายภาพ)

จุดเที่ยวชมยังมีอีกหลายส่วน อาทิ พระธาตุจอมเพชร พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท พระที่นั่งราชธรรมสภา หอชัชวาลเวียงชัย ฯลฯ

ถ้ำเขาหลวง

“ถ้ำเขาหลวง” อยู่ที่ “เขาหลวง” ตัวเมืองเพชรบุรี ถ้ำแห่งนี้มีมาตั้งแต่สมัย ร.4  ทรงโปรดฯ สร้างบันไดยาว 10 เมตรลงไปในถ้ำ พร้อม พร้อมทั้งบูรณะพระพุทธรูปโบราณที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำนี้มาอย่างยาวนาน จนมาถึงสมัย ร.5 ทรงมีพระราชประสงค์สร้างอารามขึ้นภายใน ปัจจุบันยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่หลายจุด

ใครอยากเห็นไฮไลต์ของปรากฎการณ์ลำแสงลอดถ้ำ ต้องมาวันที่แดดจ้า เวลาประมาณ 9.30 – 10.30 น. แต่วันนี้อากาศค่อนข้างปิด แสงน้อย แต่ความงดงามภายในถ้ำก็ยังไม่เสื่อมคลาย

ร้านระเบียงริมน้ำ

ทริปนี้เจอร้านอาหารอร่อย ๆ  ที่ประทับใจมากคือมื้อเที่ยงที่ “ร้านระเบียงริมน้ำ”​ ในตัวเมืองเพชรบุรี  เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว นำเสนอเมนูอาหารไทยรสกลมกล่อม เป็นที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คนมานาน อย่าง แกงหัวตาล แกงเขียวหวานปลากรายไส้ไข่เค็ม เนื้อย่างกระเทียมโทน ฯลฯ

ที่โดดเด่นสุด ๆ คือ  “ขนมตาล” สูตรของทางร้าน  เนื้อเนียน แน่น นุ่ม หอมหวานลงตัว เพราะพิถีพิถันตั้งแต่ส่วนผสมของเนื้อตาลในปริมาณกำลังดี ตั้งใจใช้ใบตองและไม้กลัดเล็ก ๆ จากไผ่มาช่วยเติมความหอมแบบดั้งเดิม

ออกจากร้านแล้วแนะนำให้ออกไปเดินเล่นในย่านตลาดเก่าเมืองเพชร แล้วแวะไปไหว้พระที่ “วัดมหาธาตุวรวิหาร” ที่ยังคงงดงาม

ชวนกันไปชมหมอกใกล้กรุงที่เขาพะเนินทุ่ง แล้วเที่ยวต่อในเพชรบุรี ซึ่งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลากหลาย เชื่อว่าจะได้เจอแง่มุมแห่งความประทับใจกลับมา โดยเฉพาะผู้ที่รักธรรมชาติ เพียงได้เห็นป่าเขายังยืนหยัดอยู่อย่างนั้น มันก็ดีมาก ๆ แล้ว

---

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี

032-471005-6

ถ้ำเขาหลวง #บ้านกร่างแคมป์, TheTreeRiverside, ขับรถขึ้นเขาพะเนินทุ่ง, เที่ยวแก่งกระจาน, พระนครคีรี, ร้านระเบียงริมน้ำ, วัดมหาธาตุวรวิหาร, อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุด, อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน, เขาพะเนินทุ่ง, เที่ยวเมืองเพชร, หมอกใกล้กรุง, หมอกแก่งกระจาน