เจาะอดีตอันเร้าใจ ผจญภัยในอุโมงค์เหมืองแร่
กาญจนบุรีในอดีตเคยเป็นแหล่งแร่นานาชนิด ภาพของเหมืองแร่ในวันวานยังสะท้อนผ่านเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังอย่างไม่จบสิ้น มีหลักฐานสำคัญที่ซ่อนความเร้นลับซับซ้อนเอาไว้ เป็นอุโมงค์ที่เจาะลึกเข้าไปใต้ภูเขา เส้นทางสั้นยาวหลายช่วงรวมแล้วมากกว่า 10 ถ้ำ แม้วันนี้ภายในจะเหลือเพียงความว่างเปล่า แต่กลับสะกดทุกความรู้สึกเมื่อได้มาเห็นกับตา
เมื่อเข้าจากทางปากถ้ำ ผ่านความมืดเข้าไป แสงสว่างที่ปลายทางอาจพาเราไปยังทางออกที่แตกต่างกัน และอาจจะย้อนภาพคืนและวันที่เหมืองแห่งนี้เคยคึกคักไปด้วยผู้คน เป็นมิติที่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึก
“อุโมงค์สามมิติ” หรือ หรือ “อุโมงค์ ดร.ผล กลีบบัว” ผู้ที่เคยสัมปทานเหมืองแร่แห่งนี้ อุโมงค์เหมืองแร่ เป็นส่วนหนึ่งของเหมืองสองท่อ ใน อ.ทองผาภูมิ แหล่งผลิตแร่ตะกั่วใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เส้นทางในอุโมงค์มีหลายช่วง เชื่อมต่อถึงกันอยู่ภายใต้ภูเขาหินปูน
เดินทางออกจากจุดชมวิวเนินสวรรค์
จุดแรกเป็นอุโมงค์ระยะสั้น เดินทะลุได้
สภาพในอุโมงค์แรกที่แวะชม ยังพอมีแสงสว่าง เนื่องจากมีระยะเพียงสั้น ๆ
เมื่อมาถึงที่ทำการบริเวณจุดชมวิวเนินสวรรค์ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อจะพาเราลัดเลาะแนวป่าเข้าไปในเส้นทางขึ้นภูเขา อันเป็นที่ตั้งของเหมืองแร่ในอดีต ทางเข้าจะมีไม้กั้นขนาดใหญ่ที่ล็อกกุญแจไว้ เพื่อกันคนขับรถเข้าไปจนอาจจะหลงหรือได้รับอันตราย ระยะทางทุลักทุเทพอสมควร ดังนั้นควรแต่งกายให้รัดกุม พกพาสัมภาระที่จำเป็นเท่านั้น
ลัดเลาะขึ้นมาบนภูเขาเหมืองแร่
ส่วนของถ้ำที่เดินเข้าไปชมได้ มีแอ่งน้ำที่ไหลรวมอยู่ในซอกหิน
ความอลังการของโถงถ้ำ
เส้นทางเที่ยวชมเต็มไปด้วยความขรุขระ นอกจากเข้าถ้ำแล้วต้องไต่เนินเขาขึ้นไป เป็นการผจญภัยเล็ก ๆ ในภูเขาเหมือง รถยนต์โดยทั่วไปจึงไม่เหมาะกับการขับเข้ามา ช่วงของอุโมงค์ที่มีความยาวมากที่สุดคือ 2 กิโลเมตร บางช่วงเพดานหินปูนที่เจาะไว้เตี้ยมาก คนนั่งท้ายกระบะต้องก้มตัวหลบ สภาพความหวาดเสียวคล้ายกับถ้ำเลเขากอบ จ.ตรัง
ในโถงนี้มีลานหินลาดชันขนาดใหญ่สวยงามไปอีกแบบ
ออกจากถ้ำมาชมความงามภายนอกกันบ้าง
ดอกหญ้าที่อ่อนไหวภายใต้ผาหินอันแข็งแกร่ง
มองไปรอบ ๆ เป็นผืนป่า
การเข้าชมอุโมงค์เหมืองแร่จะต้องมีเจ้าหน้าที่พาเข้าไปเท่านั้น ด้านในไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ แต่ละถ้ำไม่มีแสงไฟ หากเป็นถ้ำระยะสั้นสามารถเดินผ่านเข้าไปได้ ส่วนถ้ำระยะยาว ซึ่งมีน้ำไหลผ่านซอกหินตลอดเวลา จะมีความชื้นสูง อากาศจะเย็นลง เกิดเป็นหินงอกหินย้อย แต่ละช่วงจะระบุหมายเลข 1-14 มีถ้ำแยกซ้ายขวาอีกเยอะมาก ด้วยระยะทางที่ยาวมาก บางช่วงจึงมีการเจาะช่องลมเพื่อระบายอากาศ
มาถึงถ้ำที่ยาวที่สุดราว 2 กิโลเมตร
มาถึงถ้ำที่ยาวที่สุด มีความเร้นลับ เร้าใจมากที่สุด
หินงอกหินย้อยภายในถ้ำ
ภายในถ้ำเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ แสงไฟจากสปอร์ตไลท์ของรถส่องสว่างได้เพียงไม่กี่เมตร ทุกนาทีแห่งการขับเคลื่อนเต็มไปด้วยความเร้าใจ รถจะจอดให้ชมหินงอกหินย้อยในบางจุด และมีช่วงหนึ่งที่ดับเครื่องยนต์ ปล่อยให้ทุกคนอยู่ในความมืดของตัวเอง ก่อนจะพาเราออกไปสู่ปลายทางที่แสงสว่างรออยู่ บนมุมสูงของภูเขาหิน ที่รายล้อมด้วยผืนป่า
ออกมาแล้ว รออีกคันตามมา
มาแล้ว
กลับแล้วล็อกกุยแจไว้แนวกั้นทางเข้าปอุโมงค์เหมืองแร่
ไม่ว่าขาไปหรือขากลับ นักท่องเที่ยวจะต้องผ่าน “จุดชมวิวเนินสวรรค์” จากสภาพป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี เปิดมุมมองกว้างไกลสุดสายตาให้กับผู้เข้ามาเที่ยวชม แม้จะมองไม่เห็นเทวดาหรือนางฟ้า แต่ชื่อก็บอกแล้วว่าชิลขนาดไหน
จุดชมวิวเนินสวรรค์ ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ บริเวณที่ตั้งสำนักงานและแปรรูปเหมืองตะกั่วในอดีต ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวบนเนินเขา รถทุกชนิดสามารถขับมาถึงได้ ใครที่จะไปเข้าถ้ำ 3 มิติ จะต้องขับรถมาจอดบริเวณนี้ เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมผู้นำทาง
ทึม ททท. ออกสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี
บนเนินสวรรค์มีลานกางเต็นท์ขนาดย่อม กางได้ประมาณ 50 หลังกำลังพอดี กลางวันมีลมพัดเบา ๆ อากาศเย็นสบาย กลางคืนก็หนาวลงมากน้อยตามฤดูกาล ฤดูฝน-ฤดูหนาวก็จะมีทะเลหมอกปกคลุมยามเช้า สายแคมป์ปิ้งคงชอบใจเพราะเงียบสงบมาก มีเพียงห้องน้ำ ไฟส่องสว่าง และเจ้าหน้าที่คอยดูแล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ชมรมท่องเที่ยวสหกรณ์นิคม โทร.08 1362 8857
