ช่วงเวลาแห่งความผูกพัน The Cup Restaurant & Tea Room

อาหารคือเรื่องราวหนึ่งในชีวิตของผู้คน ที่แสดงออกถึงสไตล์ที่แตกต่างของคนในแต่ละวัฒนธรรม แม้ว่าวันนี้ประเทศไทยจะมีร้านใหม่ๆ จากหลายชนชาติเข้ามาเปิดให้บริการ แต่ร้านอาหารระดับตำนานที่ยืนหยัดอยู่ในความทรงจำของคนแต่ละรุ่นก็ยังไม่ได้หายไปไหน

เพราะสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสัมผัสได้นอกจากรสชาติของอาหารแล้ว “ความผูกพัน” ที่มีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือ คนรัก ต่างเป็นช่วงเวลาที่เราต่างอยากให้ย้อนกลับคืนมา หรือไม่… แค่เพียงได้ระลึกถึงมัน ก็อบอุ่นใจแล้ว

หากกล่าวถึงร้านอาหารสไตล์อังกฤษซึ่งเรามีความรู้อยู่ไม่มากนัก แต่มีโอกาสได้พูดคุยกับ “สุมัณฑนา โมกขะเวส” ซึ่งเคยใช้ชีวิตในอังกฤษจนเรียนจบแล้วกลับมาเมืองไทย เธอและเพื่อนๆ ทั้งเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันที่อังกฤษและเพื่อนที่ไปเรียนสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้รวมตัวกันเปิดร้านอาหารที่ชื่อว่า “The Cup Restaurant & Tea Room” สถานที่แห่งความทรงจำดีๆ ของเธอและครอบครัว รวมทั้งเพื่อนๆ ที่เคยใช้ชีวิตในอังกฤษและยังคงคิดถึงบรรยากาศแห่งความสุขนั้นเสมอ

ในปี 2563 ร้านอาหาร The Cup Restaurant & Tea Room จะเดินทางมาถึงปีที่ 40 นั่นหมายความว่า จากจุดเริ่มต้นของการรวบรวมความทรงจำดีๆ  ได้สานต่อสู่ความทรงจำอันน่าประทับใจให้ผู้คนอีกมากมาย จากรุ่นพ่อ มารุ่นลูก จนถึงรุ่นหลาน

เราได้รู้จักกับ The Cup Restaurant & Tea Room หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า The Cup ร้านอาหารและ Tea Room สไตล์อังกฤษ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น  เป็นพื้นที่สร้างรอยยิ้มและย้อนคืนความทรงจำดีๆ ให้กับผู้ที่หลงใหลในรสชาติอาหารอังกฤษแบบดั้งเดิม ช่วงเวลา 4 ทศวรรษ นับเป็นเส้นทางแห่งความอร่อยที่ตราตรึงอยู่ในใจของผู้คนมาอย่างยาวนาน โดยในวันนี้ยังส่งต่อรสชาติแท้ของอาหารสไตล์อังกฤษไปสู่คนรุ่นใหม่ เปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่พร้อมมิตรภาพที่ขยายวงกว้าง

The Cup ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคารเลครัชดา สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสบายๆ จากผนังกระจกที่คำนึงกับความกลมกลืนกับธรรมชาติ ทำให้มองเห็นวิวอันร่มรื่น โต๊ะที่มองเห็นทะเลสาบของสวนเบญจกิติในฝั่งตรงข้าม จึงเป็นมุมที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหน หรือ ช่วงเวลาใด ก็รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่ไม่หยุดนิ่งของเมืองหลวง

“สุมัณฑนา โมกขะเวส” หรือ คุณเป๊าะ เล่าให้ฟังว่า “สมัยที่เรียนจบจากอังกฤษแล้วกลับมาอยู่เมืองไทย ก็รู้สึกคิดถึงอาหารที่เคยรับประทานตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อได้คุยกับเพื่อนๆ ที่เรียนจบจากอังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ จึงได้มองหาสิ่งที่ทำให้หายคิดถึงได้ จึงได้รวมหุ้นกับเพื่อนๆ  เปิดร้านอาหารสไตล์อังกฤษแบบดั้งเดิม เพื่อย้อนช่วงเวลาแห่งความสุขให้หายคิดถึงและให้ลูกค้าทั่วไปได้รู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษแท้”

ในช่วงแรก The Cup ตั้งอยู่ที่ “โอเรียนทัล พลาซ่า”  หลังจากนั้นได้ย้ายไปที่ “เพนนินซูลา พลาซ่า” จนเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ย้ายมาอยู่ที่อาคารเลครัชดามาจนถึงปัจจุบัน  ด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นสไตล์ Homy & Friendly ที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่นัดพบปะของเพื่อนฝูง รวมทั้งมีมิตรภาพใหม่ๆ เกิดขึ้น จากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ จากรุ่นหนึ่ง สู่รุ่นหนึ่ง ปัจจุบันมีความสนิทสนมกันมากขึ้นจนมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว

“ร้านที่เพนนินซูล่าจะมีชื่อเสียงมาก หนุ่มสาวจะนิยมมานัดพบกัน บางคู่ก็ได้แต่งงานกัน หลายคนมาเป็นลูกค้าตั้งแต่สาวๆ จนวันนี้มาทายาทโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว” คุณสุมัณฑนา กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ความโดดเด่นของ The Cup คือ ความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบและความละเมียดละไมในขั้นตอนการปรุงอาหารสไตล์อังกฤษ พรั่งพร้อมด้วยความอร่อยทั้งของคาวหวาน รวมทั้งการคัดสรรไวน์ชั้นเยี่ยมสำหรับมื้อพิเศษ และยังคงเป็นสถานที่แห่งความสุข ด้วยกิจกรรมสร้างรอยยิ้มในโอกาสพิเศษต่างๆ เสมอ โดยในช่วงนี้ ทางร้านอาหาร The Cup เตรียมเสิร์ฟเมนูต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ พร้อมเทศกาลของขวัญจากผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นจากทางร้าน เป็นอีกทางเลือกให้กับลูกค้าในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน

 

หลายคนที่เคยเข้ามารับประทานอาหารที่ The Cup ต่างสัมผัสถึงรสชาติและความอร่อยมีสไตล์ แต่ละคนมีเมนูในใจแตกต่างกันออกไป  โดยเมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ “Roast Pork with Homemade Apple Sauce” หมูอบหนังกรอบรสเลิศ ส่วนเมนูของหวานหลายคนต่างเทใจยกให้ “Apple and Cherry Crumble served with Custard” ที่ได้รับการกล่าวกันว่าอร่อยที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว

วันนี้เรามีโอกาสได้มาลิ้มลองความอร่อยในสไตล์อังกฤษ เริ่มต้นจาก “French Onion Soup” ซุปที่มีทั้งความหอมและรสชาติเข้มข้น ต่อด้วย “Warm King Prawn on Bed of Artichoke Heart with Orange Butter Sauce” สลัดกุ้งเนื้อแน่น เข้ากันได้ดีกับน้ำสลัดอมเปรี้ยวรสชาติโดนใจ ทราบว่าเป็นหนึ่งในน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้านซึ่งมีวางจำหน่ายแบบขวดให้เลือกไปอร่อยต่อที่บ้าน  จึงไม่พลาดซื้อติดไม่ติดมือกลับไปฝากครอบครัว

 

สายเนื้อต้องหลงรัก “Paprika Goulash” สตูเนื้อวัวเนื้อนุ่มรสเข้มกำลังดี หรือจะเป็นสเต็กเนื้อพร้อมสลัด ที่รับประกันความนุ่มละมุนลิ้นจนต้องเก็บเนี๊ยบจนเกลี้ยงจาน หรือจะลองอีกเมนูที่ได้รับความนิยมอย่าง “Grilled Lamb Chop, Mint Sauce, Redcurrant Jelly” ส่วนใครอยากสัมผัสการผสมผสานสไตล์เอเชียและยุโรป  “Lamb Curry served Rice & Mango Chuyney” ข้าวหน้าแกงกะหรี่เนื้อแกะ รสชาติหอมละมุนที่เสิร์ฟมากับซอสมะม่วง เป็นอีกเมนูแห่งการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารของอินเดียและอังกฤษในยุคล่าอาณานิคม รสชาติเข้มข้น หอม นุ่ม กำลังดี เป็นที่ถูกใจ กระทั่งผู้ที่ไม่ชื่นชอบแกงกะหรี่ยังออกปากชมเชย

The Cup จึงเป็นสถานที่แห่งความผูกพัน ที่ช่วยสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัว เพื่อนฝูง  คนรัก หรือเป็นอีกมื้อพิเศษสำหรับการต้อนรับแขกจากแดนไกลก็ได้ และไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนที่หลงใหลในกลิ่นอายของอาหารอังกฤษมาก่อน ก็เข้ามาสัมผัสกับรสชาติแห่งความอร่อยนี้ได้

 

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารสไตล์อังกฤษซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเนี๊ยบและพิถีพิถัน แต่บรรยากาศที่ได้รับการถ่ายทอดจากมุมมองของมิตรภาพ นำเสนออาหารสไตล์ Homy ที่ทำเพื่อรับประทานในบ้าน จึงไม่ได้เน้นความหรูหรามากนัก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเมนูที่คุ้นเคย

เพื่อนๆ และคุณสุมัณฑนา ยังคงเดินหน้าส่งต่อความสุข ผ่านการเสิร์ฟอาหารอังกฤษรสชาติดั้งเดิม พร้อมมิตรภาพที่ยังคงขยายตัว จนทำให้ความประทับใจนี้ยังคงตราตรึงไปอีกนานแสนนาน

คริสมาสต์นี้ที่ The Cup

เทศกาลคริสมาสต์ปีนี้ ร้านอาหาร The Cup จัดเมนูเซ็ตพิเศษ เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม 2562 ประกอบด้วยเมนูพิเศษที่หารับประทานได้ยาก พลาดไม่ได้กับ “คริสต์มาสต์ พุดดิ้ง” นำเข้าจากอังกฤษ นอกจากนั้นยังได้เตรียมของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสต์  อาทิ “คุกกี้โฮมเมด” บรรจุในแพ็กเกจสวยงาม “คริสมาสต์เค้ก”   น้ำสลัดสูตรของทางร้าน House Dressing และ Balsamic Dressing  แอบกระซิบว่าเป็นน้ำสลัดขวัญใจเซเลบด้วยนะ

The Cup Restaurant & Tea Room

The Cup ชั้น 3 อาคารเลครัชดา ตรงข้ามสวนเบญจกิติ ถนนรัชดาภิเษก เปิดบริการเวลา 10.30 – 18.00 น. ทุกวัน เว้นวันอาทิตย์  พิเศษในเดือนธันวาคม เปิดบริการทุกวัน โทร 0 2264 – 0247-50 Facebook : TheCup1980

(Roast Pork เป็นอาหารพิเศษสำหรับวันจันทร์และวันพฤหัส ส่วนวันพุธจะเสริฟความอร่อยด้วย Roast Beef)