เศษเหล็ก เสก…?

การได้ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วรับผลตอบแทนเป็น “รายได้” ก็ถือว่า “คุณเป็นผู้โชคดี” มากแล้ว แต่หากการได้ทำในสิ่งที่ชอบ แล้วสามารถสร้างรายได้ พร้อมสร้างความสุขให้กับคนอื่นได้ นั่นถือเป็น “รางวัลแจ็คพอต”   

เราไม่ได้หมายถึงธุรกิจที่ขายของแล้วใช้กลยุทธ์ CSR สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน แต่หมายถึง ความสุขจริงๆ จากการได้พบเจอกัน เหมือนที่ผู้ชายคนหนึ่งมักจะยืนอมยิ้มปริ่มไปด้วยความปลื้มใจ เมื่อเห็นเด็กน้อยหัวใจพองโต หรือคนตัวโตที่หัวใจยังอ่อนโยน คอยละเลียดเมียงมองเจ้าหุ่นเหล็กรูปแบบต่างๆ ในอาณาจักรแห่งความสุขของเขา

“กิตติ หรูหราพูนทรัพย์” ผู้ก่อตั้ง Metal Art Gallery  เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ด้านวิศวกร ที่อยู่กับชิ้นส่วนของอะไหล่รูปแบบต่างๆ  ชื่นชอบช่วงเวลาได้อยู่กับชิ้นส่วนหรือโครงสร้าง จนได้เจอกับเพื่อนที่สร้างงานศิลปะจากเศษเหล็ก จึงมีความสนใจและตัดสินใจเรียนรู้อย่างจริงจัง ประมาณ 10 ปีที่แล้ว เขาได้ลาออกจากงานวิศวกร เพื่อมาเริ่มต้นออกแบบและสร้างฝันของตัวเอง โดยใช้เวลาราว 4 ปีในการศึกษาและฝึกฝน

จากจุดเริ่มที่ลองผิดลองถูก ทำออกมาแล้วไม่สวย ไม่ได้สัดส่วน ค่อยๆ พัฒนาจนได้ผลงานชิ้นเล็ก เมื่อเริ่มมีทักษะก็พัฒนาจนมาเป็นงานชิ้นใหญ่ที่มีรายละเอียดซับซ้อน

อิทธิพลของการ์ตูนที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อย่าง Transformers ทำให้เราได้เห็นความแพร่หลายของศิลปะจากเศษเหล็ก และมีแหล่งผลิตศิลปะจากเศษเหล็กเกิดขึ้นมากมาย ในสไตล์ที่เป็นตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ว่า แม้จะเป็นหุ่นหรือคาแรคเตอร์เดียวกัน ผลงานของแต่ละแห่งก็ไม่ซ้ำกัน

มองผ่านๆ เราอาจจะเห็นเจ้าตัวการ์ตูนหรือซุปเปอร์ฮีโร่ หน้าตาเดิมๆ แต่เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดจะเห็นได้ว่า การเลือกใช้ชิ้นส่วนของเศษเหล็กในแต่ละจุดมีความแตกต่างกัน นี่คือเสน่ห์ของงานศิลปะจากเศษเหล็ก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจินตนาการของผู้สร้างสรรค์

“อย่างน้อยเด็กๆ ที่เข้ามาชมก็จะได้เห็นว่า เราจะแยกขยะไปทำไม ขยะแต่ละอย่าง เมื่อเติมจินตนาการสร้างสรรค์เข้าไป ก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้ ผมจึงอยากให้เด็กๆ หรือใครที่เข้าชม ได้รับทั้งความสุข และแรงบันดาลใจในการเข้ามาเที่ยวชม พวกเขาอาจนำมันไปต่อยอดจากวัสดุใกล้ตัวของพวกเขาก็ได้” คุณกิตติ กล่าว

เมื่อความรักกับธุรกิจมาอยู่ร่วมกัน ใช่ว่าทุกเส้นทางฝันจะง่ายดาย หากเป็นธุรกิจ “ศิลปะจากเศษเหล็ก” อย่างที่คุณกิตติ ทำอยู่ เริ่มมีความแพร่หลายมากขึ้น ในเมืองมีผู้ประกอบการอยู่หลายเจ้า ซึ่งมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป ในเอเชียเอง ประเทศไทยยังถือว่ามีฝีมือและความละเอียดมากกว่า

ภายใน Metal Art Gallery เปรียบเสมือนโลกแห่งจินตนาการ มีผลงานให้ชมทั้ง ศิลปะประดิษฐ์จากถังน้ำมัน หุ่นเหล็กจากชิ้นส่วนรถยนต์และเครื่องจักร หุ่นจากยางรถยนต์ ฯลฯ เดินชมเพลินๆ ได้เป็นชั่วโมง อยากได้เป็นของสะสมก็มีมุมจำหน่ายของที่ระลึก หรือจะสั่งทำเป็นคอลเล็กชั่นของตัวเองก็ได้

ผลงานแต่ละชิ้นมีคำอธิบายให้เห็นว่า มีที่มาอย่างไร อาทิ ผลงานนางฟ้า ซึ่งมีความโดดเด่นจากการทำแขน ขา ลำตัวของนางฟ้าโดยใช้ตะปูเก่ากว่า 1,700 ชิ้นต่อนางฟ้า 1 ตัว หรือ เจ้าคิงคองส์ยักษ์ ที่ทำมาจากยางมอเตอร์ไซด์ (ที่ใช้ไม่ได้แล้ว) กว่า 4,000 เส้น เป็นต้น

สำหรับตลาดการซื้อขายผลงาน “ศิลปะจากเศษเหล็ก” ฝั่งลูกค้าต่างชาติ อาจจะมองเห็นคุณค่าของงานศิลปะประเภทนี้ และยอมจ่ายในจำนวนที่มากกว่า แม้จะผ่านมาเที่ยวพัทยาแล้วแวะเที่ยวชม พวกเขาอาจจะอุดหนุนได้เพียงของที่ระลึกชิ้นเล็ก แต่ในหลายครั้ง คุณกิตติก็ได้รับอีเมลกลับมาจากพวกเขาเหล่านั้น เพื่อสั่งชิ้นงานขนาดใหญ่

ปัจจุบันโรงงานผลิตของ Metal Art Gallery มีช่างอยู่ 10 คน แต่ละคนก็มีสกิลที่แตกต่างกันไป อนาคตต่อไป คุณกิตติยังคิดว่า เศษเหล็กหรือชิ้นส่วนจากยานพาหนะ ยังสามารถสร้างสรรค์เป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง ที่คาดว่าเป็นไปได้และน่าสนใจคือกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งบ้าน

เราไม่อาจจะรู้ได้ว่า ธุรกิจประเภทนี้จะเป็นที่นิยมอีกยาวนานแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ปริมาณขยะในโลกนี้ ยังต้องการการสร้างสรรค์อีกหลากหลาย เป็นการสร้างความสุขให้กับผู้คนได้ ทั้งขณะพบเจอและรอยยิ้มที่จะเกิดขึ้นอีกยาวนาน

• Metal Art Gallery  หลัก ก.ม.85.5 (ใกล้สวนผีเสื้อ) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มอเตอร์เวย์(คู่ขนาน) ขาเข้าพัทยา ใช้ทางออก “บางพระ” หากมาจากพัทยา ให้ใช้ทางออก “หนองขาม”
• มีค่าเข้าชม
• สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.06-2875-9930