“ทับแขก” บัดแรกถึงบัดนี้
เมืองเลยมีภูเขาอยู่มาก เขาเรียก “ทะเลภูเขา” แต่ที่กระบี่ มีเกาะอยู่มาก กลับเรียก “ป่าเกาะ” จะเรียก “ป่าภูเขา” หรือ “ทะเลเกาะ” มันก็จะยังไงๆ อยู่
หันหน้าเข้าหาทะเล บริเวณหาดทับแขก จ.กระบี่ เป็นอีกจุดที่เราจะได้เห็นว่า คำว่า “ป่าเกาะ” เป็นอย่างไร ด้วยความเรียงรายสลับซับซ้อนของเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่เบื้องน่า ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่า หนึ่งในเกาะนั้น “เกาะยาวน้อย” เป็นชายคาของมิตรสหาย ที่ยังไม่เคยไปเยือน
ได้แต่ดูจากภาพถ่าย ติดตามเรื่องราวของเธอผ่านโลกโซเชียล จนวันนี้ เรียกได้ว่าแทบจะชิดขอบประตูบ้านของเธอแล้ว ก็ยังได้แต่ยืนมองจากชายฝั่ง และตั้งใจว่า คราวหน้า เมื่อมีโอกาสมาเยือน จะต้องไปให้ถึง
หันกลับมาที่ท้องทะเลเบื้องหน้า ทับแขกเป็นชายหาดที่แสนสงบ ซึ่งจริงๆ แล้ว ทะเลกระบี่ ขึ้นชื่อเรื่องนี้ มีเพียงบางหาดอย่างอ่าวนางเท่านั้น ที่จะเห็นสีสันของร้านรวง แต่นั่น ก็เหมาะกับผู้ที่รักความสะดวกสบาย อยากออกไปร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารนอกโรงแรมเมื่อไหร่ก็ได้
หากเลือกพักที่ทับแขก นั่นหมายถึงบรรยากาศการพักผ่อนอันแสนสงบ ซึ่งสำหรับบางคน นี่คือความเรียบนิ่งที่ปลุกให้ความรู้สึกได้ออกมากระโดดโลดเต้น มีชีวิตชีวาได้ยิ่งกว่า
ภายใต้ความเขียวครึ้มของไม้ใหญ่ “เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” มีทำเลติดชายหาดกว้างใหญ่ ซึ่งหลายคงที่ไปเยือนกระบี่ อาจจะไม่รู้จักหาดนี้มากนัก แต่รู้ไหมว่านี่คือหนึ่งในชายหาดที่เราสามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างงดงาม และไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ทุกครั้งที่มาเยือน
เดิมทีพื้นที่ชายหาดแห่งนี้มีชาวไทยมุมลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวไทยมุสลิม จะเรียกบ้านเรือนที่อยู่อาศัยว่า “ทับ” จึงเป็นที่ชื่อที่เรียกชายหาดแห่งนี้ว่า “ทับแขก” อีกนัยหนึ่งก็หมายถึง บ้านพักสำหรับผู้มาเยือน
ชายหาดทับแขก เป็นชายหาดที่เปรียบเสมือนสาวงามที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก เบื้องหน้าเป็นทะเลอันดามันอันสวยงามและเงียบสงบ มองเห็นป่าเกาะเรียงรายเป็นแนวทาง ทั้งหมู่เกาะห้องและหมู่เกาะยาว ขณะที่ ด้านหลังของชายหาดทับแขกคือภูเขาหางนาค อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่งดงาม จากภูมิทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีจุดชมวิวมุมสูงที่สวยงาม
ความโดดเด่นของหาดทับแขก คือ ความงดงามท่ามกลางชายหาดที่มีความสงบ บรรดาหมู่เกาะเบื้องหน้า ทำหน้าที่เป็นกำแพงธรรมชาติ คอยรับการปะทะของลมมรสุม เช่นเมื่อครั้งเหตุการณ์สึนามิ ชายหาดแห่งนี้ก็ปลอดภัยจากคลื่นลมที่ถาโถมเข้ามา
ที่นี่ยังมี L’escape Spa ร้านอาหารThe Arundina และ Di Mare ที่ให้บริการทั้งอาหารไทยและอิตาเลียน รสชาติที่ครบเครื่องครบครันด้วยหลากหลายเมนูให้เลือกสรร เหมาะกับช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคน
ภายในที่พัก ยังมีบริการอีกหลาย ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องสมุด ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ฯลฯ แถมยังอบอวนไปด้วยบรรยากาศของร่มไม้ใหญ่ และการปลูกพันธุ์ไม้นานาชนิดในทุกพื้นที่ ที่เห็นว่ามากสุด ก็น่าจะเป็นตระกูลขิง ซึ่งไม่ว่าจะไปทางไหนก็จะได้เห็นสีสันอันสดใสนี้
ด้วยสภาพแวดล้อม และความใส่ใจในการบริการ ทำให้ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในกระบี่ แถมยังถูกลิสต์ให้อยู่ใน ‘1000 Places to see Before you Die ®’ และยังได้รับรางวัล สิ่งแวดล้อมดีเด่น และด้านการออกแบบ
ที่น่าชื่นชมแนวคิดของผู้บริหาร นอกจากการออกแบบสถานที่และการบริการอันแสนประทับใจแล้ว ยังได้ทราบมาว่า ผักและผลไม้บางส่วนของที่นี่ ได้มีการส่งเสริมให้ปลูกในแปลงบริเวณหอพักพนักงาน เป็นทั้งการสร้างรายได้เสริม และผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ปลอดสารเคมี ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมแปลงผัก ก็เห็นว่าเป็นการปลูกอย่างจริงจัง หมุนเวียนกันไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพืชผักสวนครัว และนี่ก็น่าจะเป็นความสุขอีกด้านหนึ่งของผู้มาเยือน
ลงเรือจากทับแขกรีสอร์ท ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถเที่ยวชมเกาะห้อง เกาะละดิง เกาะผักเบี้ย ฯลฯ ดื่มดำธรรมชาติ ก่อนจะกลับมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่เราพิสูจน์มาด้วยสายตาแล้วว่า งดงามเกินบรรยาย
ในความเงียบที่ได้ยินเพียงเสียงคลื่นซัดเบาๆ ป่าเกาะด้านหน้า แสงแห่งตะวันจางลงไปอย่างช้าๆ หากหันมองกลับไปยังชายฝั่ง จะได้เห็นสายตาที่จ้องมองมาในจุดเดียวกัน เพราะนี่คือม่านของการแสดงที่กำลังจะถูกเปิดออก
แล้วแสงสุดท้ายก็ค่อยๆ ทยอยเคลื่อนตัวขึ้นมาบนเวที มองไปอีกด้าน เห็นป่าเกาะเรียงรายสุดสายตา ท่ามกลางท้องฟ้าที่ส่งแสงกลืนกับผิวน้ำ นึกถึงคนในป่า….เพื่อนที่ยังไม่ได้ไปหา หากวันหนึ่งความคิดถึงเดินทางไปถึง หากเราได้อยู่ในป่าผืนนั้น ก็จะมองย้อนกลับมาหาความงดงามของอีกฝั่งด้วยเช่นกัน
ทับแขก อาจจะเป็นหาดนอกสายตาของใครหลายคน ด้วยความหลากหลายของทะเลกระบี่ แต่สำหรับอีกหลายคน ที่นี่คือบ้านแห่งผู้มาเยือนที่อยากจะกลับมาเสมอ เพราะแม้จะเป็นมุมที่แอบซ่อนไว้ แต่ก็เปล่งประกายเจิดจ้า หลงรักกันตั้งแต่แรกเห็น อยู่ด้วยก็รู้สึกเย็นใจเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปอย่างคุ้มค่า
แม้จะจากมาแล้วก็ยัง “ตราตรึง”