นักบินหญิงคนแรกของกรมฝนหลวง กับภารกิจที่ตอบตัวเองได้ว่า ใช่เลย!
ปฏิบัติการฝนหลวงเริ่มต้นมาจากพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2598 และใช้เวลาในการศึกษาอีก 14 ปี ก่อนจะต่อยอดแนวคิด “ทำให้เมฆรวมตัวกันตกลงมาเป็นฝน” ให้เป็นไปได้จริง ปัจจุบันมีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รับหน้าที่สืบสานพระราชปณิธานในการช่วยเหลือปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชน
ในอดีตอาชีพนักบินกับผู้หญิงช่างเป็นเรื่องที่ห่างไกลแต่ปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้และเริ่มขยายในวงกว้างและนี่คือครั้งแรกของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรที่มีนักบินหญิงเข้ามาร่วมงาน
เราได้พบกับ “เอิง-สร้อยสุวรรณ คุณสุข” นักบินหญิงคนแรกของกรมฝนหลวงฯในกิจกรรมฝึกบินทบทวนประจำปี ณ สนามบินนครสวรรค์ ซึ่งเป็นฐานการบินหลักของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร
ถือเป็นนักบินหญิงคนแรกแถมยังเป็นนักบินใหม่ป้ายแดงเพราะในวันที่เจอกันเธอเพิ่งเข้ามาร่วมภารกิจของกรมฝนหลวงได้เพียง 5 วัน
“รู้สึกภูมิใจ และดีใจที่ได้ร่วมกับปฏิบัติการฝนหลวง เป็นทั้งความภาคภูมิใจและความชอบ เพราะเป็นสิ่งที่รักและมีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่นด้วย” นี่คือสิ่งแรกที่เธอกล่าวออกมา
เอิงเรียนจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมก่อนจะมาเรียนด้านการบินอีก 1 ปีและสมัครเข้าคัดเลือกนักบินของกรมฝนหลวงฯและกลายเป็นนักบินหญิงคนแรกของกองบินนี้
“ตอนที่เรียก ม.ปลาย มีพี่ที่ทำงานสายการบินแนะนำถึงอาชีพนักบิน ตอนนั้นก็รู้สึกว่าชอบและสนใจนะ แต่ก็ยังไม่ได้เลือกเรียนหลักสูตรการบินในทันที เพราะต้องการมองหาโอกาสและทางเลือกอื่นๆ อยากเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างก่อน แต่ก็ศึกษาเรื่องการบินมาตลอด จนจบปริญญาตรี ก็ไปเรียนการบิน พอได้ลงมือ ได้ใกล้ชิดกับมันจริงๆ ถึงบอกตัวเองได้เลยว่า เราชอบแบบนี้”
การบินพาณิชย์โดยทั่วไป มุ่งเน้นไปที่การการบินไปตามเส้นทางเพื่อนำพาผู้โดยสารไปถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัย แต่ปฏิบัติการฝนหลวง เป็นการบินตามภารกิจที่ได้รับ เช่น การโปรยสารในการสร้างฝน การบินยับยั้งลูกเห็บ ซึ่งจะมีลักษณะการบินแบบเฉพาะตัว ภายใต้การทำงานเป็นทีม ดังที่เราได้เห็นจากภาพของการฝึกบินทบทวนในวันนี้ อาทิ การบินในท่าทางต่างๆ สำหรับภารกิจฝนหลวง เช่น การบินแบบขั้นบันใด การบินเรียงตัวเป็นแถวเดียวกัน การบินเมื่ออากาศยานเกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนั้น กรมฝนหลวงยังมีภารกิจเสริมในการช่วยเหลือประชาชนในกรณีต่างๆ นอกเหนือจากการทำฝนหลวงอีกด้วย
“ภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่ เพราะการบินภายใต้ภารกิจของกรมฝนหลวง เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีที่ไหนมีให้ มันดูมีอะไรที่น่าทำเต็มไปหมด ก็เลยรับโอกาสนี้”
เรามีเวลาคุยกับเธอไม่มากนักเพราะภารกิจการฝึกบินทบทวนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติรอเธออยู่จึงขอให้เธอฝากแรงบันดาลใจไปสู่น้องๆที่อยากเป็นนักบินได้ตัดสินใจเหินฟ้าเช่นเดียวกับเธอ
“ก่อนอื่นต้องคิดดูว่า รายละเอียดของสายงานที่ต้องการนั้นเป็นยังไง แล้วค้นหาตัวเองให้เจอว่าชอบมันเพราะอะไร แต่จริงๆ พอได้มาสัมผัส ได้ใกล้ชิดกับสิ่งนั้น แค่เพียงช่วงแรกๆ ก็จะบอกตัวเองได้เลยว่า ใช่หรือไม่ใช่”
แล้วความเป็นผู้หญิงมันเป็นอุปสรรคอะไรบ้างไหม?
“ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างนะ เรื่อง Human Factor แต่จริงๆ ก็มีผู้หญิงที่เป็นนักบินมานานแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ถ้าทุกคนตั้งใจก็ทำได้ เหมือนที่เราตั้งใจจริงๆ มันก็ทำได้”
นับเป็นความชัดเจนที่แสดงออกมา ผ่านบุคลิกอันมุ่งมั่นจนเรารู้สึกและสัมผัสได้ว่า ใช่…มันใช่เลย!