
เล่า ลำดับที่ ๒ : สารคดีภาพถ่าย “ ก่อนหมดสิ้น .. สับขาลาย”
โดย : ชาญพิชิต พงศ์ทองสำราญ
“ หากไม่เปิดเปลือยจะไม่รู้ว่ามีความงามใดซ่อนอยู่ ..
หากไม่สังเกตุอาจหลงเข้าใจว่าบุรุษนุ่งเตี่ยวยืนกลางลำธารใสเย็น .. ”

ภาพที่ ๑ – บางท้องถิ่นชาวกระเหรี่ยงเชื่อว่าตนคือลูกหลานของพญานาคจึงสักหน้าและหลังเอวเป็นลายเกล็ดเพื่อคุ้มครองตน
ผม เดินทางมาที่ “อมก๋อย” อำเภอริมสุดด้านใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วย “ความเชื่อ”
จากพื้นราบ สู่เส้นทางคดโค้ง หลายสิบยอดดอย หลายสิบหย่อมชุมชน ของชาวกระเหรี่ยงทั้ง 2 กลุ่ม ที่ตั้งถิ่นฐานมายาวนาน
หวังทำความเข้าใจ ใน “คติความเชื่อ” ใน “ราก” ทางความคิด ใน “ศิลปะเฉพาะ” ที่กำลังจะสาบสูญในอีกไม่กี่สิบปี..

ภาพที่ ๒ – หากไม่ถอดผ้านุ่งจะไม่มีวันรู้ว่าใครมีลายสับที่ขาบ้าง แม้แต่คนในครอบครัวก็แทบไม่เคยเห็นลวดลายในร่มผ้า

ภาพที่ ๓ – เพียงหนึ่งวันก่อนการ “สับขา” เพื่อนวัยเดียวกันในหมู่บ้าน เสียชีวิตเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว
ในอดีตทุกชุมชนในกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยง บุรุษเมื่อย่างเข้าสู่วัยฉกรรจ์ ล้วนอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดลวดลายโบราณที่มีแบบแผนคล้ายคลึง
แต่ต้องอดทนต่อความเจ็บปวดที่อาจต้องแลกด้วยชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในทุกสิบคนจะมีคนเสียชีวิตสองถึงสามคนเสมอ

ภาพที่ ๔ -ลายสับหมึกของผู้ชายอายุ 60 – 90 ปี ในหมู่บ้านแม่ต๋อม หนึ่งชุมชนใหญ่ของชาวกระเหรี่ยงในอ.อมก๋อย

ภาพที่ ๕ -สมัยก่อนชาวกระเหรียงไม่ได้นับถือพุทธ ไม่มีการบวช การอดทนระหว่างสับหมึก ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่
แต่คนส่วนใหญ่ถือว่าคุ้มค่า เป็นความภาคภูมิใจที่จะปรากฏอยู่บนเรือนร่างและคงอยู่ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
สิ่งนี้คือความงามรูปแบบเฉพาะที่ถือเป็นตัวแทน ของศิลปะของชายชาวกระเหรี่ยง เราเรียกสิ่งนี้ว่า “หมึกขาลาย” หรือ “การสับขาลาย”

ภาพที่ ๖ – หญิงสาวชมชอบชายหนุ่มที่มีการสักขา เพราะดูสวยงาม มีความอดทนสมชายชาตรี และแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ

ภาพที่ ๗ – ผู้ชายจะอาบน้ำด้านบนของลำธาร หากใครขาขาวมักจะถูกล้อว่าขาขาวเหมือนขาผู้หญิง ให้ไปอาบน้ำร่วมกับผู้หญิง
“หมึกขาลาย” หรือ “การสับขาลาย” คือ การสักจากใต้หัวเข่าขึ้นมาจนถึงบริเวณเอวเหนือสะดือ ขาทั้งสองข้างมีกรอบสีเหลี่ยมหรือกรอบวงกลม
เว้นช่องว่างให้เห็นเนื้อหนังบางส่วนภายใน เป็นภาพสัตว์ต่างๆ หมึกดำทึบที่ใช้ มีส่วนผสมจากดีของสัตว์หลายชนิดผสมร่วมกับว่าน

ภาพที่ ๘ – การสับหมึกคือการเอาเข็มจุ่มหมึกที่มีส่วนผสมจากดีสัตว์กับว่านกระแทกคล้ายการสับเพื่อให้หมึกติดบนร่าง

ภาพที่ ๙ – การไปทำงานในวัยหนุ่มฉกรรจ์ กระเหรี่ยงไม่น้อย จึงสักบนตัวทั้งอักขระ และยันต์ ในคติความเชื่อแบบคนเมือง
ปัจจุบัน ความภาคภูมิใจเหล่านี้ กลายเป็นเพียงสิ่งตกค้างจากวันเวลา ชาวกระเหรี่ยงอายุน้อยกว่า50ปี ในพื้นที่อำเภออมก๋อย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่
กว่า80% คือชาวกระเหรี่ยงโป และกระเหรี่ยงสะกอ แทบไม่ปรากฏคนที่สับขาลายอีกแล้ว จึงเป็นจุดเริ่มต้น เป็นแรงบันดาลใจ ให้สร้างสรรค์
การบันทึกภาพประวัติศาสตร์ของศิลปะบนเรือนร่าง ในชื่อผลงานภาพถ่ายสารคดี “ ก่อนหมดสิ้น .. สับขาลาย”

ภาพที่ ๑๐ -ชายชราวัยร้อยปี สะท้อนความจริงที่ว่าหากไม่บันทึกภาพในวันนี้ ไม่นาน ความงดงาม จะหลงเหลือเพียงอดีต
ผลงานภาพถ่ายชุด นี้ ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 2 – รางวัล Popular Vote
“ 10 ภาพเล่าเรื่อง ” season 6 National Geographic Thailand Photography Contest 2016
แขกรับเชิญ รายการ แกะกล้า ตอนสักขาลายอัตลักษณ์ใกล้สาบสูญ ช่อง Amarin TV เสาร์ที่26มีนาคม 2559
ชมรายการสัมภาษณ์ ย้อนหลัง ทาง https://youtu.be/yyCtqI5ojWc
ชาญพิชิต พงศ์ทองสำราญ : คนทำงานศิลปะ พิธีกร นักเขียน นักเดินทาง และ นักบันทึกภาพ
พื้นฐานที่เกิดจากการเรียนศิลปะ ความหลงใหลการเดินทางเพื่อทำสารคดีที่เกิดจากความอยากรู้
การเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง ”ปู่ม่าน–ย่าม่าน”ที่วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน เกิดคำถาม .. ปัจจุบัน
ยังหลงเหลือ “สักขาลาย” อยู่ไหม จึงตั้งปณิธานเล็กๆ ในการออกเดินทาง 3 ปี ทั่วประเทศ หวังที่จะ
บันทึกเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์เฉพาะของการสักบนเรือนร่าง ก่อนจะสาบสูญ .. ในยุคสมัยเรา
I FB – ชาญพิชิต พงศ์ทองสำราญ I charnpichit.jumbo@gmail.com