อาหารคลายหนาว
ภาพ: The Okura Prestige Bangkok
มิชลินไกด์ ประเทศไทย ประกาศผลไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยห้องอาหาร ยามาซาโตะ (Yamazato) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ หรือ MICHELIN Guide Bangkok โดยได้รับ มิชลิน เพลท (Michelin Plates) หมายถึงร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ และปรุงอย่างพิถีพิถัน ทั้งนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม 2 ร้าน ในกรุงเทพฯ ที่ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในมิชลินไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ
มาสเตอร์เชฟ ฮากิวาระ และหัวหน้าพ่อครัว เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ กับทีมงาน รังสรรค์อาหารญี่ปุ่นที่ไม่เพียงมีรสชาติยอดเยี่ยม หากยังคำนึงองค์ประกอบอื่น ๆ อาทิ สีสัน การจัดวาง และความสวยงาม รวมไปจนถึงคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะอาหารมื้อค่ำแบบ ไคเซกิ เรียวริ (Kaiseki RyÕri) คือการบริการอาหารญี่ปุ่นในพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และต่อมาได้พัฒนาจนเป็นหนึ่งในรูปแบบการรับประทานอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก
ไคเซกิ เรียวริ ถือเป็นตำนานอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงอายุเก่าแก่หลายศตวรรษที่แต่เดิมจะจัดให้มีขึ้นตามงานเลี้ยงสำคัญ ๆ เท่านั้น ไคเซกิประกอบด้วยอาหารที่เสิร์ฟต่อเนื่องกันหลายรายการ โดยปรุงและจัดวางด้วยความบรรจง และคำนึงถึงทุกสีสันและรสสัมผัส นอกจากนั้นยังมีการบริการอาหารญี่ปุ่นแบบเทปันยากิ (Teppanyaki) ซูชิ (Sushi) ซาชิมิ (Sashimi) และอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาลในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารทะเล อีกทั้งยังมีเมนูพิเศษประจำเทศกาลสำคัญในประเทศญี่ปุ่น ให้บริการทั้งในรูปแบบเมนูอาหารชุด และอาหารจานเดี่ยว ให้บริการอาหารทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ
ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นเดือนที่ประเทศญี่ปุ่นมีอากาศหนาวเย็น คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเลือกรับประทานอาหารเพื่อช่วยคลายหนาว ห้องอาหารยามาซาโตะ ขอแนะนำเมนู อาหารคลายความหนาวเย็น ที่ใช้วัตถุดิบที่ปรุงแล้วมีส่วนช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ ชุดอาหารมื้อกลางวัน ราคาชุดละ 1,300++บาท ประกอบด้วย ปลาดิบ 3 ชนิด (ปลาทูน่า, ปลากะพงญี่ปุ่น, ปลาหางเหลือง) กุ้งและเป็ดรมควันเสิร์ฟกับผักดองหลากสีราดน้ำส้มสายชูไข่แดงและกระเจี๊ยบญี่ปุ่น, ซุปลูกชิ้นปูและเห็ดชิเมจิ อาหารจานหลัก ได้แก่ เนื้อปลากะพงห่อต้นกระเทียมญี่ปุ่นย่างซอสเทอริยากิ, ปลาหางเหลืองตุ๋นกับหัวไช้เท้า แครอท และถั่วลันเตา, เทมปุระกุ้ง หอยนางรม และผักต่าง ๆ ข้าวตุ๋นปลาทูน่ากับไข่ปลาแซลมอน เสิร์ฟกับผักดองและซุปมิโซะ ขนมหวานเป็นมูสนมถั่วเหลืองผสมน้ำจากกากสาเกราดถั่วแดงหวานญี่ปุ่นกับผลไม้รวม
ส่วนชุดอาหารมื้อค่ำ “ไคเซกิ” ราคาชุดละ 4,500++ บาท ประกอบด้วยอาหาร 8 รายการ เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยเป็นฟองเต้าหู้ราดซอสปรุงรสสูตรเฉพาะของห้องอาหารยามาซาโตะ ตามด้วยไข่ปลาแฮริ่งต้มเค็มโรยด้วยเนื้อปู มะเขือม่วง เห็ดไมทาเกะ และไส้อ่อนของปลาโอลายคลุกเคล้ากับไข่แดง, ซุปลูกชิ้นตับปลาเนื้อขาวญี่ปุ่น, ปลาดิบ 4 ชนิด (ปลาทูน่า ปลาหางเหลือง หอยปีกนกญี่ปุ่น และกุ้งหวานญี่ปุ่น), ปลาแมคเคอเรลสเปนย่างให้บริการกับหอยเชลล์, ปลาแซลมอนตุ๋นกากสาเกกับหัวไช้เท้า แครอท เห็ดชิทาเกะ เผือก ต้นกระเทียมญี่ปุ่น และดอกกวางตุ้งญี่ปุ่น, เส้นหมี่น้ำญี่ปุ่นกับหอยนางรม เห็ดชิเมจิ โรยด้วยผิวส้มยูซุ พร้อมข้าวห่อสาหร่ายไส้ผักหวานญี่ปุ่น ปิดท้ายเมนูอาหารค่ำด้วยผลไม้ตามฤดูกาล และซุปถั่วแดงร้อน
เมนูอาหารคลายความหนาวเย็นในประเทศญี่ปุ่น ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 มกราคม 2561 มื้อกลางวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. และมื้อค่ำตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น.
สอบถามโทร.0 2687 9000, yamazato@okurabangkok.com