ลูกสาวแม่หนิง “น้องเบลล่า” เธอบอกว่า “อ่านหนังสือสนุกกว่าเยอะ”

ไม่ว่าคุณจะมีลูกหรือไม่ จะมีหลานหรือเปล่า แต่เชื่อแน่ว่า ทุกคนคงรู้และเห็นมาบ้างไม่มากก็น้อยว่า พ่อแม่ผู้ปกครองในปัจจุบัน ตกอยู่ในภาวะจำยอม หรือ ยอมโดยดี ที่จะให้ลูกๆ อยู่กับมือถือ หากไปถามหัวใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆ คงได้คำตอบในทำนองเดียวกันว่า ไม่อยากให้ลูกเล่นมากเกินไปหรอกนะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

วันนี้เราได้เจอคุณแม่คนเก่ง อย่างคุณหนิง-ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา จีระแพทย์ ในงานอีเว้นท์ด้านการท่องเที่ยว สิ่งที่สะดุดใจขณะที่คุณหนิงป้อนคำถามไปยังผู้ร่วมงานบนเวทีก็คือ การท่องเที่ยวกับลูกๆ ได้ประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งมีคำตอบที่ทำให้ต้องคิดตาม เพราะการท่องเที่ยว เป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่ทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมด้วยการลงมือทำ ไม่ใช่การรับชมผ่านมือถือ พูดง่ายๆ คือ “ได้ห่างๆ ออกจากจอบ้าง”

 

แล้วเราก็ได้พบกับน้องเบลล่า กุญช์จารี จีระแพทย์ ลูกสาวคนเก่งของคุณแม่หนิง และได้รู้ว่า เธอมีหนังสือคู่ใจอยู่ข้างกายอยู่เสมอ เป็นภาพที่เราไม่ค่อยได้เห็น และอาจจะเห็นมานานจนลืมไปแล้ว จึงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราจะพบปะกับความคิดของคุณหนิงและน้องเบลล่า กับความน่ารักของแม่ลูกคู่นี้

น้องเบลล่าติดมือถือไหม

ครอบครัวเราไม่มีปัญหานี้เลย  ตั้งแต่ลูกเล็กๆ เราก็ไม่ได้ปฎิเสธเรื่องเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้รับมันมาเต็มๆ เพราะคงหนีไม่พ้นว่า วันหนึ่งเขาก็ต้องรู้จัก แต่เรามีกฎว่า วันหนึ่งจะเล่นไอแพดไม่เกิน 15-20 นาที วันละ 2 รอบ เมื่อวางกฎไว้แล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้

บางคนให้ลูกเล่นมือถือเต็มที่ พอวันหนึ่งลูกติดแล้วถึงมาออกกฎมันก็ยาก ดังนั้นก่อนที่จะเล่นก็ต้องมีกฎก่อน และเราจะเน้นเรื่องการทำกิจกรรมมากกว่า พอวันหนึ่งเขาได้อ่านหนังสือ หรือได้ทำกิจกรรมอะไร ที่เขารู้สึกสนุกกว่าเล่นไอแพด เขาก็แทบไม่ได้เล่นเลยโดยอัตโนมัติ ส่วนที่จะได้เล่นได้ใช้บ้างก็เป็นเพราะการบ้าน ซึ่งปัจจุบันต้องทำการบ้านผ่านคอมพิวเตอร์ นอกจากอ่านหนังสือแล้ว ที่บ้านยังมีกิจกรรม Movie Night ปัจจุบัน มีรายการเยอะ มีซีรีย์ดีๆ สำหรับเด็ก ให้ได้ใช้เวลานั่งดูกับลูก ซึ่งเราจะพิจารณาว่าเรื่องนั้นเหมาะสำหรับเด็ก ก็จะใช้เวลาดูด้วยกันสักครึ่งชั่วโมงก่อนนอน แล้วอ่านหนังสือกันอีกรอบ

เคยรู้สึกไหมว่าสังคมแบบนี้น่าห่วง

คือเราไม่โทษเด็ก เราต้องโทษคนที่แนะนำของให้เด็ก ซึ่งหนีไม่พ้นพ่อแม่  เราเคยเห็นเด็กชอบร้องไห้ตามแผนกของเล่น ต้องย้อนถามว่าใครพาเขาไป ถ้าไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ ฉะนั้นก่อนไปก็ต้องทำให้เขาเข้าใจก่อนว่า ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้ของเล่นกลับมาบ้านทุกครั้ง  ซึ่งหนิงเองจะเลือกพาลูกเข้าเข้าร้านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ แทน

เราเองก็ต้องใช้เทคโนโลยีแล้วเราจะสอนลูกอย่างไร

หนิงแอบเห็นว่า  พ่อแม่บางคน เอาไอแพดใส่รถเข็นกับลูกตั้งแต่เด็กๆ เราเห็นแล้วเราก็ห่วงแทนว่า  แทนที่เด็กจะสนใจสิ่งรอบข้าง เด็กอาจจะถูกตีกรอบด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ได้  ดูง่ายๆ อย่างเดี๋ยวนี้เด็กเกิดใหม่ก็มีกล้องจ่อไลฟ์สดแล้ว มันจึงเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งกับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะคอนโทรลมันยังไง เมื่อเราบอกลูกว่าอย่าเล่น แต่ตัวเราก็เล่น เด็กเขาก็ซึมซับพฤติกรรมของพ่อแม่เป็นเรื่องธรรมดา อย่างหนิงรู้ตัวว่าต้องทำงานผ่านสิ่งเหล่านี้ แต่พอถึงเวลาอยู่บ้านก็ต้องหยุดจริงๆ แล้วใช้เวลาอ่านหนังสือกับเขา ไม่ใช่ว่า หนูอ่านหนังสือไปนะ แต่เราเล่น เขาก็ไม่ฟังเราหรอก เราก็ต้องอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ เขาด้วยเสมอ มันอาจจะยากหน่อย แต่ก็เพื่อประโยชน์ของเขาเราต้องพยายาม

 

เรื่องเที่ยวสำคัญอย่างไร

พอเรามีครอบครัวเราถึงเข้าใจ  แต่ก่อนไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ แต่พอมีลูกเรารู้เลยว่า มันคือช่วงเวลาหนึ่งที่เราสามารถอยู่ด้วยกัน ได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ บางทีตอนอยู่บ้านเราอยู่คนละมุม พ่อดูบอล แม่อ่านหนังสือ ลูกนั่งวาดรูป แต่พอเราไปทริปต่างประเทศ มันบังคับว่าเราต้องอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ดังนั้นทุกวันนี้ ไม่ว่าหนิงจะบ้างานหรืออยากได้เงินเท่าไหร่ ก็ต้องบอกตัวเองเสมอว่า ต้องหยุดบ้าง เราเป็นฟรีแลนซ์ เราไม่มีวันหยุด ดังนั้นถ้าลูก หยุดสามีหยุด เราก็ต้องยอมเสียสละเวลา ไปพักผ่อนด้วยกันบ้าง ไปหมดทุกที่ ทั้งไทยและต่างประเทศ บางครั้งมีอีเว้นท์ต่างจังหวัด ก็ขอสองคืนเลย ทำงานเสร็จก็เที่ยวเลย อย่างเบลล่าเป็นนักเต้น เขาก็จะไปแข่งขันที่ออสเตรเลียทุกปี ปีละหน เราก็ไปด้วยกัน ไปญี่ปุ่นบ้าง ไปอเมริกาบ้าง แล้วแต่ว่า จะมีเวลาในการพักผ่อนมากแค่ไหน

การเรียนรู้เกิดได้ทุกที่

การส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆ หนิงว่า มันหลายๆ อย่างประกอบกัน เพราะการเรียนรู้เกิดได้ทุกที่  เราสรรหากิจกรรมการเรียนรู้ในบ้านได้ ไม่ได้หมายความว่าต้องไปเที่ยวเสมอไป แต่การเที่ยวก็ได้เห็นของจริง  ให้ลูกได้เห็นว่า ไม่ได้มีแค่กรุงเทพนะ ยังมีวิถีชาวบ้าน ยังมีอาหารท้องถิ่น  สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเกิดการเรียนรู้  นอกจากกิจกรรมที่บ้านหรือที่โรงเรียน แต่นอกเหนือจากนั้น  อย่าลืมหากิจกรรมพิเศษให้ทำบ้าง อย่างที่น้องเบลล่าเรียนเต้น เขาต้องมีวินัยในการฝึกซ้อมมากๆ เมื่อเขาถือว่านั่นคือพันธะของเขา เขาจะรู้ว่าทุกเสาร์ เวลานี้ ต้องซ้อม เขาเริ่มมีความรับผิดชอบแล้ว และเขาจะไม่รู้สึกว่างเปล่า บางครอบครัวอาจจะไม่มีกิจกรรมให้ลูกทำในเสาร์อาทิตย์ ก็ลองหากิจกรรมให้เขาทำดู จะเล่นดนตรี วาดรูป  ให้เขามีภาระรับผิดชอบที่ต้องดูแลตัวเอง ให้เขารู้หน้าที่ของเขา

 

ลูกไม้เอ็มซีลูกแม่หนิงตัวจริง

เบลล่าพูดเก่งค่ะ จริงๆ เป็นเอ็มซีแทนแม่ได้แล้วล่ะ เราเคยทำเอ็มซีคู่กันมาตั้งแต่เขาเล็กๆ วันก่อนมีละครเวทีที่โรงเรียน เขาก็เป็นตัวเอก เหมือนเขาก็ซึมซับในสิ่งที่เราเป็น

ทำไมเบลล่าถึงชอบอ่านหนังสือ

หนิงอ่านหนังสือให้เขาฟังตั้งแต่เกิด อ่านให้เขาฟังทุกคืน จนวันหนึ่งเขาอ่านเองได้ จนติดเองแล้ว  เพราะหนิงเชื่อว่า การอ่านหนังสือคือการเปิดโลก สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ เขาได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เร็วกว่าหลักสูตรในห้องเรียน  พออ่านมาก ก็มีความรอบรู้มาก เปิดโลกจินตนาการได้มาก เวลาเขาพักจากการอ่านหนังสือก็มาเขียนของเองบ้าง  อย่างที่โรงเรียน เขาก็มีแฮรี่พอตเตอร์คลับ กลุ่มที่สร้างกันขึ้นเอง เป็นการรวมตัวของคนที่ชอบอ่านเหมือนกัน มาคุยกันเรื่องหนังสือ ไปถึงที่โรงเรียน (น้องเบลล่าเรียนที่ โรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ส ระดับ ป.4 ) เป็นสังคมของการอ่านนังสือ ที่น่ารักมาก คือ เขาจะแชร์หนังสือกันในกลุ่มเพื่อน

คราวนี้ก็มาถึงเวลาฟังความรู้สึกจากน้องเบลล่ากันบ้าง ซึ่งเรียกว่าหลักฐานคามือจริงๆ เพราะมีหนังสือคู่กาย ว่างเมื่อไหร่เธอก็นั่งลงอ่าน

 

เบลล่าชอบอ่านหนังสือเพราะอะไร

(ยิ้มหวานมาก่อน) หนูชอบอ่านหนังสือมากเลยค่ะ เพราะว่าหนูคิดว่า ทุกคนในเนื้อเรื่อง ในหนังสือ หนูได้เรียนรู้กับเขา หนูรู้สึกเป็นเพื่อนของเขา  บางสิ่งที่หนูอาจจะทำไม่ได้ แต่ในหนังสือเขาทำได้ หนูจึงรู้สึกเหมือนได้ทำแบบเขาไปด้วย สนุกไปกับเขาด้วย

ชอบอ่านตอนไหน

หนูก็อ่านตอนที่อยากอ่าน แต่หนูชอบอ่านตอนกลางคืน เพราะว่าอ่านบนเตียงแล้วมันสบาย

เพื่อนๆ อ่านหนังสือด้วยไหม

หนูมีเพื่อนที่อ่านหนังสือ ในห้องมีประมาณ 7 คน  แต่หนูอยากให้มีเพื่อนอ่านเยอะขึ้น เพราะหนูคิดว่า อ่านหนังสือดีกว่าเล่นไอแพด เล่นโทรศัพท์ คนชอบมาหาหนู เพราะถ้าเขาอยากอ่านหนังสือ เขาจะมาถามว่าเล่มนี้ดีไหม หนูอาจจะบอกได้เพราะหนูอาจจะเคยอ่านแล้ว

เบลล่าชอบอ่านหนังสือแนวไหน

ชอบอ่านเรื่องเวทมนต์ และหนูก็ชอบเกี่ยวกับ (คิดนิดหนึ่ง) หนูชอบแฮรี่พอตเตอร์

 

เคยคิดไหมคะว่าอยากมีอาชีพเป็นอะไร

หนูอยากเป็นหลายอย่างมาก (คิดนิดหนึ่ง) …ยังไม่รู้เหมือนกัน

อยากบอกอะไรกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับการอ่านหนังสือบ้างไหม

หนูคิดว่า เล่นโทรศัพท์เล่นไอแพดบ้าง ไม่เป็นไร แต่ต้องไม่เล่นมาก เพราะเดี๋ยวเราจะติด ต้องแบ่งให้กับการอ่านหนังสือบ้าง  หนูอยากให้เพื่อนอ่านหนังสือ หนูยืนยันว่า หนังสือสนุกกว่าเยอะ

 

เป็นคำตอบจากใจ คำตอบง่ายๆ ของน้องเบลล่า ที่เราเห็นได้จากแววตาที่เปล่งประกาย ส่วนใครจะนำไปปรับใช้ก็ไม่ถือเป็นลิขสิทธิ์ MeetThinks จึงต้องขอขอบคุณคุณหนิงกับน้องเบลล่า ที่แชร์ประสบการณ์นี้ให้เราและคนที่ยังรักการอ่านได้ชื่นใจ