Us&theme : อบอุ่นแต่เหน็บหนาว สุขปนเศร้า และสิ่งที่มากกว่าความรักของสองเรา
เรียกว่าเป็นหนังรักนอกกระแสแต่ทว่ามาแรงมากๆในตอนนี้ สำหรับความรักแปลกหน้าของสองเรา (Us & Them) ที่ฉายเฉพาะทาง Netflix เท่านั้น สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวชาวจีนที่เดินทางจากบ้านมาตามหาความฝันในปักกิ่งแล้วบังเอิญเจอกันบนขบวนรถไฟที่จะกลับบ้านช่วงตรุษจีน มิตรภาพและความรักก่อตัวขึ้นจากความเข้าอกเข้าใจ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทำให้พวกเขาต้องพรากจากกัน ผ่านไป 10 ปี พวกเขาบังเอิญกลับมาเจอกันอีกครั้งบนเครื่องบินที่ทั้งคู่ตั้งใจจะกลับบ้านตอนตรุษจีน
เรื่องราวของพระนางในเรื่องสามารถเข้าถึงได้ไม่ยากเลยสักนิด ซึ่งเปรียบได้กับเทศกาลสงกรานต์หรือช่วงปีใหม่ของไทย จากภาพความแออัดของขบวนรถไฟหรือสนามบิน ภาพการหอบหิ้วสัมภาระซึ่งส่วนใหญ่คือของฝากสำหรับคนที่อยู่ทางบ้านในขาไป และการนำอาหารท้องถิ่นจากบ้านเกิดเอาไว้กินให้หายคิดถึงและยังประหยัดค่าครองชีพในเมืองใหญ่ตอนขากลับล้วนเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยกันอย่างดี
แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังรัก แต่หนังถ่ายทอดเรื่องราวออกมาในหลายมิติที่มากกว่าแค่การรักกันของคน 2 คนที่มีพื้นเพและความต้องการเดียวกัน จึงเดินทางห่างจากบ้านมาฝ่าฟันชีวิตในเมืองใหญ่ เราจึงได้เห็นความทุ่มเท ต่อสู้ ความอัตคัต และความสุขที่เรียบง่ายระหว่างทาง
มีฉากหนึ่งที่เป็นกล้องถ่ายจากพื้นระดับถนนลงไปเห็นนางเอกในห้องใต้ดินมืดๆ กำลังมองขึ้นมา แต่แล้วเธอก็มองเห็นต้นไม้เล็กๆ ที่มีดอกไม้กำลังเบ่งบานอยู่ริมหน้าต่าง หนังกำลังบอกกับเราว่า แม้ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกตกต่ำ และชีวิตช่างยากลำบากเหลือเกิน แต่ถ้าเราสามารถมองเห็นความงามเล็กๆ น้อยๆ ได้ เราก็สามารถสร้างกำลังใจให้แก่ตัวเอง และก้าวเดินต่อไปได้เช่นกัน
อีกประเด็นที่หนังพยายามสื่อสารกับคนดูเช่นกัน คือในระหว่างที่เราพยายามหาที่หาทางและสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่นั้น เราอาจกำลังลืมใครบางคนที่สำคัญมากที่สุดกับชีวิตของเราไว้เบื้องหลัง
คนจีนกับคนไทยมีค่านิยมอย่างหนึ่งที่ตรงกัน นั่นก็คือ ความกตัญญู ในขณะที่พระเอกพยายามที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวและประสบความสำเร็จ เพื่อจะได้ซื้อสมาร์ททีวีให้พ่อ หรือพยายามเปลี่ยนแปลงพ่อให้คิดหรือทำตามที่เขาเห็นว่าดีที่สุดสำหรับพ่อของเขา แต่เขากลับห่างเหินกับพ่อมากขึ้นทุกทีๆ ทั้งในแง่ของอัตลักษณ์ ค่านิยม และการติดต่อสื่อสาร บางปีเขาไม่ได้กลับบ้านไปหาพ่อช่วงตรุษจีนด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นพ่อของเขาก็ไม่เคยโกรธ ในตอนท้ายของเรื่อง เป็นช่วงที่หนังพาอารมณ์ของคนดูขึ้นไปถึงจุดที่บีบคั้นที่สุด ทั้งจากด้านความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกและนางเอก และความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกและพ่อ
หนังสามารถสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกผ่านภาพและเพลงประกอบได้อย่างลงตัว แสดงถึงความเศร้า ความโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ โดยเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายเรียงลำดับเวลาช่วงตรุษจีนของทุกปี ซึ่งใช้ภาพโทนขาวดำแทนช่วงเวลาปัจจุบัน ภาพสีใช้แทนช่วงเวลาในอดีต ที่เมื่อเรื่องดำเนินถึงจุดเฉลยแล้วเราจะสามารถเข้าใจได้ทันที่ว่าทำไมถึงเลือกใช้โทนสีภาพสื่อสารออกมาอย่างนั้น
สำหรับใครที่ดูแล้วคงจะตอบตัวเองได้ไม่ยากว่าหนังเรื่องนี้ต้องการสื่อสารอะไรกับเราบ้าง ซึ่งมีหลายประเด็นเหลือเกิน แต่ทุกประเด็นก็ถ่ายทอดได้อย่างกลมกลืนและสอดคล้องไปกับประเด็นหลัก ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู อยากบอกว่านี่เป็นหนังอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาดเลยจริงๆ เพราะคุณจะได้เห็นทั้งแง่มุมที่งดงามและความเจ็บปวดของความรัก สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและเหน็บหนาว ทั้งเศร้าและมีความสุขไปพร้อมๆ กัน คุณอาจจะรักหนังเรื่องนี้มาก หรือเกลียดมันมากเพราะมันเล่นกับความรู้สึกของคุณ แต่อย่าให้ใครมาบอกว่าหนังนี้เป็นหนังดีหรือไม่ดี จนกว่าคุณจะได้ดูด้วยตัวคุณเอง โดยสามารถสตรีมภาพยนตร์เรื่อง ความรักแปลกหน้าของสองเรา (Us & Them) ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix เท่านั้น
Us & Them
ภาพยนตร์เรื่องความรักแปลกหน้าของสองเรา (US & Them) เล่าเรื่องราวชีวิตรักของ หลิง เจียงเฉวี่ยน (จิ่ง โป้วหลาน) และ ฟาง เสียวเสี่ยว (โจว เต้าหยุน) ทั้งสองคนพบกันและตกหลุมรักกันขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งรถไฟกลับบ้านในช่วงตรุษจีน ทั้งสองร่วมกันฝ่าฝันอะไรด้วยกันมากมายจนกระทั้งเลิกรากันไป จากนั้น 10 ปีให้หลัง พวกเขาทั้งสองได้กลับมาเจอกันอีกบนเครื่องบินขากลับบ้าน Us & Them เริ่มมาจากนิยายเรื่องสั้นที่เขียนโดยผู้กำกับหน้าใหม่ เรเน่ หลิว ที่เธอตัดสินใจที่จะนำเอาเรื่องราวในหนังสือมาทำให้มีชีวิตโลดแล่นบนจอเงิน
เรเน่ หลิว
เรเน่ หลิว เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดงและนักขียน เธอยังมีอาชีพการแสดงที่น่าจดจำ หลังจากได้รับรางวัลมากมายจากทั่วเอเชียรวมถึงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมถึงสองรางวัล ณ เทศกาลภาพยนตร์เอเชีย – แปซิฟิก ภาพยนตร์เรื่อง Us & Them เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของเรเน่ หลิว