‘นภ พรชำนิ’ เสริมพลังสังคมเกษตรอินทรีย์ กับ TOCA Platform
แม้ว่าทุกวันนี้ “สังคมเกษตรอินทรีย์” ในประเทศไทย จะขยายวงกว้างมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น “ตลาดแมส” ทำให้สินค้าออร์แกนิค ยังคงจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้รักสุขภาพเท่านั้น เป็นเรื่องน่าเสียดาย เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรม เราทำนาทำไร่ ปลูกผักผลไม้กินเองมาอย่างยาวนาน แถมยังเหลือเผื่อขายทั้งในและต่างประเทศ แต่ด้วยความจำเป็นทางด้านการตลาด หรือจะด้วยกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อนของเกษตรอินทรีย์ ทำให้ทางเลือกของการใช้สารเคมียังคงเป็นไป ท่ามกลางความน่าฉงนว่า เราไม่ได้ปลูกสิ่งที่ควรกิน แล้วแต่ละวัน เรากำลังกินอะไรเข้าไป การจะทำให้สังคมเกษตรอินทรีย์ขยายตัวทั้งระบบ จึงต้องอาศัยทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ว่ากันตั้งแต่เกษตรกร คนกลาง และผู้บริโภค โดยเฉพาะปลายน้ำ หากมีเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ต้นทางที่เป็นผู้ผลิต ก็จะขยายตัวได้โดยอัตโนมัติ จะเป็นอย่างไร หากผู้บริโภคส่วนใหญ่ เรียกร้องหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสังคม หลายปีที่ผ่านมา “สามพรานโมเดล” จากสวนสามพราน ได้ปูทางให้กับเครือข่ายเกษตรอินทรีย์มาได้ระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่ต้องลุยต่อนอกจากนี้ คือการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ การหาเครือข่ายเพื่อผนึกกำลังให้เข้มแข็งขึ้น รวมทั้งการขยายตลาดให้ซื้อง่ายขายคล่อง