Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

Casual Fine Dining Tag

หากต้องดำรงชีวิตในถ้ำที่รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ การก่อไฟปรุงอาหารเป็นภาพหนึ่งในจินตนาการ  ตามวิถีดั้งเดิมจากประกายไฟและไออุ่น ที่ได้สร้างความผูกพันและการเป็นอยู่ให้กับผู้คนในหลากวัฒนธรรมมาอย่างเนิ่นนาน

เพราะหัวใจสำคัญของการปรุงอาหาร มาจากการคัดสรรสิ่งดี ๆ ในทุกองค์ประกอบ หากมองย้อนไปในครัวไทย กับข้าวของคุณย่า คุณยาย คุณแม่ ล้วนเต็มไปด้วยความรักและปรารถนาดี  การทำร้านอาหารเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้คน จึงไม่จบลงแค่ความอิ่มอร่อยเท่านั้น

วันนี้จะชวนเข้าไปสัมผัสรสชาติใหม่จากการรังสรรค์อย่างพิถิพิถัน เริ่มจากตัวร้านที่อิงแอบอยู่เหมือนถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่กลางเมืองใหญ่ นำเสนอศิลปะการปรุงอาหารด้วยไฟจากฟืนและถ่านได้อย่างน่าทึ่ง
[gallery columns="2" size="full" ids="34324,34325"]
เปิดตัว La Braci BKK

La Braci ร้านอาหารสไตล์เวสเทิร์น ในรูปแบบ Casual Fine Ding เริ่มเปิดให้บริการ วันที่ 19 พฤศจิกายน  2567  ผู้ก่อตั้งคือเชฟ Sean Lai ซึ่งได้ใช้เวลาในการมองหาวิถีที่ผสมผสานโลกแห่งความทันสมัยกับความเรียบง่ายได้อย่างยั่งยืน โดยได้ตัดสินใจปักหลักทำธุรกิจในเมืองไทย ด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยในการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ มีผืนดินที่เพาะปลูกและจัดหาวัตถุดิบเพื่อการดำรงอยู่อย่างมั่นคง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยสีสันและความเคลื่อนไหวของโลก

คุณฌอน ตั้งใจไว้ว่าภายใน 5 ปี จะทำธุรกิจ 5 โปรเจกต์ในเมืองไทย หรือ 1 ปี สำหรับ 1 โปรเจกต์ โดยเริ่มต้นจาก La Braci  ในย่านเพลินจิต บนทำเลที่เรียกได้ว่าเก๋ไม่ซ้ำใคร

[gallery columns="2" size="full" ids="34295,34296"]
ถ้ำแห่งความสมบูรณ์แบบ

เมื่อเข้ามายังตัวร้าน La Braci เราจะได้พบกับบรรยากาศที่ดูดี มีสไตล์ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ฝั่งหนึ่งของร้านซึ่งเป็นกระจกใส ปล่อยให้เราได้ทอดสายตาไปกับความเขียวขจีของร่มไม้ ท่ามกลางตึกสูงที่รายล้อม หากอยากออกไปเดินเล่นในสวนหย่อมของอาคารก็ทำได้

ภายในตัวร้าน จะมองเห็นเคาน์เตอร์ยาวแบบเปิดโล่ง ชวนให้ทุกคนติดตามการทำงานของเหล่าเชฟได้อย่างเพลิดเพลิน ด้านในสุดจำลองพื้นผิวแบบผนังถ้ำ สอดรับกับการออกแบบตัวร้านที่แทรกตัวอยู่ในอาคารขนาดใหญ่ หากมองจากด้านนอกเข้าไป จะเห็นความเป็นมุมลับดังถ้ำน้อย ๆ ที่เก็บซ่อนเรื่องราวที่น่าค้นหาอยู่ในนั้น

หัวใจของร้านอยู่ตรงเตาฟืนที่พร้อมเปล่งประกายไฟลุกโชน เป็นศิลปะการทำอาหารที่ไม่ใช่แค่ปิ้งย่างอย่างที่เข้าใจ แต่มันคือการควบคุมพลังของไฟไปกับวัตถุดิบชั้นเลิศและส่วนผสมต่าง ๆ ด้วยเทคนิคการใช้ไฟจากฟืนไม้สนทะเลคุณภาพ อันเป็นทักษะที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งนี่คือช่วงเวลาที่จะชวนให้เราได้ติดตามชมและสนุกไปกับมัน

[caption id="attachment_34297" align="aligncenter" width="900"] Sean Lai เจ้าของร้าน La Braci และ วชิรวิทย์ ธนันต์รัตน์ (เชฟแบงค์) กรรมการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ[/caption]

ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด คุณฌอนและเชฟแบงค์ ร่วมกันแชร์ไอเดียในการออกแบบร้าน โดยได้ทำการคัดเลือกไม้สักแท้จาก จ.แพร่ มาเป็นเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งคอลเล็กชันอุปกรณ์จานชาม ที่สะท้อนอารมณ์ความเป็นธรรมชาติ

"ด้วยการตกแต่งร้านที่ผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นและธรรมชาติอย่างกลมกลืนในคอนเซปต์ของถ้ำหินและเน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีของไม้ ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราและในขณะเดียวกันก็รู้สึกผ่อนคลาย ที่ร้านสามารถรับรองลูกค้าได้ถึง 50 ที่นั่ง เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นมื้อพิเศษสำหรับครอบครัว การพบปะเพื่อนฝูง หรือดินเนอร์สุดโรแมนติก

La Braci ให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองผ่านการออกแบบครัวระบบเปิดที่เชฟและทีมงานสามารถเชื่อมต่อกับแขกได้โดยตรง แขกทุกท่านสามารถมองเห็นเรื่องราวกระบวนการสร้างสรรค์เมนูของแต่ละจาน พร้อมทั้งสัมผัสกลิ่นหอมอันยั่วใจจากเตารมควัน ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอาหารแต่ละเมนู" Sean Lai กล่าว

ศิลปะแห่งฟืนไฟเพื่อช่วงเวลาที่เป็นมิตร

การคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเยี่ยมเป็นลักษณะสำคัญของอาหารประเภท Fine Dining ที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันตั้งแต่ต้นทาง เมื่อหลอมรวมกับองค์ประกอบที่เพียบพร้อม ทักษะและความชำนาญของเชฟ รวมทั้งบรรยากาศที่ช่วยยกระดับความผ่อนคลาย จนถึงนาทีที่ยกเสิร์ฟแล้วเริ่มชิม จะรับรู้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ว่ามาทั้งหมด

Sean Lai  ผู้ก่อตั้งร้าน La Braci อธิบายให้ฟังว่า คำว่า La Braci เป็นภาษาอิตาเลียน ที่สื่อถึงความหมายของการใช้ไฟที่คุกรุ่นในการปรุงอาหารด้วยทักษะความชำนาญ โดยในร้านจะมีครัวเปิดและมีการใช้ฟืนในการทำอาหารจริง ๆ

ภายในเตาไฟที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ มันคือถ่าน "บินโจตัน" (Bincho-tan) ซึ่งเป็นถ่านคุณภาพสูง ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถัน จากไม้โอ๊กคุณภาพดี เผาด้วยเตาพิเศษนานหลายสัปดาห์ เพื่อให้ได้ถ่านที่มีความบริสุทธิ์สูง แทบปราศจากสารก่อมะเร็ง

ด้วยคุณสมบัติความร้อนที่สม่ำเสมอ ควันน้อย และไร้กลิ่น ทำให้เนื้อสัตว์ที่ย่างด้วยถ่านบินโจตัน คงความชุ่มฉ่ำ หอมกรุ่น และรสชาติแท้จริงของวัตถุดิบ ไม่มีกลิ่นควันมาบดบัง ที่พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัส

Casual Fine Dining เรียบหรูแต่เรียบง่าย

โดยรวมแล้วนี่คือร้านในสไตล์ Casual Fine Dining ภายใต้บรรยากาศที่เรียบหรูแต่ยังดูเรียบง่าย เป็นกันเอง ทางร้านตั้งใจนำเสนอช่วงเวลาพิเศษที่มีได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องรอวันหรือโอกาสพิเศษเท่านั้น แต่นี่คือช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายที่เลิกงานแล้วก็แวะเวียนเข้ามาได้

“ปรัชญาการทำอาหารของเรา เกิดจากความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อทั้งประเพณีและนวัตกรรม เราตั้งใจรังสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารสไตล์ไฟน์ ไดนิง แบบสบายๆ แต่ทันสมัย เชิดชูเสน่ห์ดั้งเดิมของการปรุงอาหารด้วยไฟที่จุดจากไม้ที่ผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เป้าหมายของเราคือการส่งเสริมให้รสชาติตามธรรมชาติของวัตถุดิบที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันได้เปล่งประกายอย่างเต็มภาคภูมิด้วยวิถีแห่งความซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่ได้จากไฟและควัน แต่ละจานเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนเพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจะจดจำ”

[gallery columns="2" size="full" ids="34294,34320"]

เอกลักษณ์อีกประการที่สำคัญของ La Braci คือแนวคิดอาหารจานแชร์  “เราเชื่อว่าอาหารจะอร่อยมากขึ้นเมื่อทานด้วยกัน เราจึงออกแบบเมนูเพื่อส่งเสริมประสบการณ์การมีส่วนร่วมนี้ให้แขกของเราได้ลิ้มลองรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายด้วยกัน นอกจากจะช่วยยกระดับความสุขในการรับประทานอาหารแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง สะท้อนถึงหัวใจของความเป็นอยู่แบบไทยที่มักกินข้าวด้วยกัน” Sean Lai กล่าว