C2 Connect Plus เส้นทางนี้เฟี้ยว ขับรถเที่ยวเหนือ

สำหรับบางคน แค่ได้ขับรถออกไป ก็รู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย หากเป็นเส้นทางสวย ๆ ในวันถนนโล่ง ๆ ด้วยละก็ อาจจะทำให้จุดหมายกลายเป็นเรื่องรอง ๆ ไปเลย

เพราะเส้นทางที่ผ่านและพบเจอก็สำคัญเสมอในชีวิต กว่าจะไปถึงจุดที่วางไว้ เราต่างได้สัมผัสกับประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ การขับรถเที่ยวจึงมีดีมากกว่าคำว่าอิสระในการแวะพักได้ตามใจ แต่เป็นการเก็บเกี่ยวสิ่งแปลกใหม่ หรืออาจจะแอบออกนอกเส้นทางบ้างจะเป็นไร

ความสุขจากการเดินทางเกิดขึ้นกับเราอีกครั้ง กับคาราวาน C2 Connect Plus เปิดประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยว ด้วยการขับรถท่องเที่ยวในเส้นทางสวย ๆ จากภาคกลางสู่ภาคเหนือของประเทศไทย รีวิวนี้จะไม่เน้นเล่าเรื่องมากมาย อยากให้ภาพบรรยายตัวเองให้ได้มากที่สุด

กราบพระพรหมเทวาลัย เสริมพลังใจก่อนเดินทาง

คาราวาน C2 Connect Plus ออกเดินทางจากสำนักงาน ททท. ถ.เพชรบุรี  ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ราวเก้าโมงก็ไปรวมตัวกันอีกครั้งที่ “พระพรหมเทวาลัย” จ.สิงห์บุรี  มีพื้นที่เป็นลานกว้างขวางอยู่ริมถนนสายเอเชียขาขึ้น สถานที่แห่งนี้มีพระพรหมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยประดิษฐานอยู่ หลังจากกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกันเรียบร้อยแล้วก็มุ่งหน้าเดินทาง เก็บเกี่ยวความงดงามของทัศนียภาพและมิตรภาพจากผู้ร่วมทริปทุกท่าน

รีสอร์ตน้ำแร่ ชื่นใจแต้เชิงดอย

แวะกินข้าว เข้าห้องน้ำ พักรถกันบ้าง เป็นการจขับรถท่องเที่ยวแบบชิล ๆ ค่ำ ๆ ก็จะมาถึงเชียงใหม่ประมาณหนึ่งทุ่ม ทริปนี้เราเข้าพักกันที่ “ทัช สตาร์ รีสอร์ต”  รีสอร์ตน้ำแร่ธรรมชาติเชิงดอยอินทนนท์ นอกจากจะมีบ่อน้ำแร่ให้ลงไปแช่แล้ว น้ำที่ที่ใช้อาบในห้องน้ำก็เป็นน้ำแร่ คาดว่าจะเป็นที่พักอีกแห่งที่มีกิมมิคน่าสนใจ เพราะได้ลองอาบน้ำแร่แล้วรู้สึกสดชื่น แม้อากาศจะหนาวก็อยากจะอาบนาน ๆ หมายเหตุว่ามีเครื่องทำน้ำอุ่นให้นะ

อาบสายลม ชมหมอกยามเช้า ดอยอินทนนท์

เช้าตรู่ของวันใหม่ออกเดินทางขึ้นสู่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่  ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เหนือระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ระยะทางคดเคี้ยวขึ้นเขาใช้เวลาราว 50 นาที ถึงจุดชมวิวยอดดอยมีหมอกปกคลุมไปทั่ว แม้จะเป็นหมอกบาง ๆ แต่ก็สร้างความหนาวเย็นได้อย่างสมใจ

ฟินสุด ๆ  สูงสุดแดนสยาม

เมื่อฟ้าเริ่มสางเราพากันเดินทางไปที่ “สถานีรายงาน ดอยอินทนนท์” จุดสูงสุดของแผ่นดินสยาม ป้ายรายงานสภาพอากาศระบุว่า วันนี้อุณหภูมิยามเช้าหลังแดดออกแล้วยังอยู่ที่ราว  7 องศา  ปัจจุบันมีการก่อสร้างจุดชมวิวบริเวณหอพระ ประดิษฐาน “พระพุทธศาสดาประชานาถ” อันมีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นพระศาสดา ผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน สร้างขึ้นในโอกาสครบ 100 ปีการทิวงคตพระบิดาแห่งกองทัพอากาศ เป็นอีกจุดที่ถ่ายรูปสวยงาม จากนั้นก็ไปเดินป่าระยะสั้น ทะลุไปเติมพลังด้วยโจ๊กยามเช้า จิบกาแฟกลางสายลมหนาว ฟินดีแท้

พระตำหนักดอยผาตั้ง เส้นทางสวยสุดโรแมนติก

ต้นไม้ที่ปลูกไว้ตามแนวของถนนที่คดเคี้ยวไปตามเนินเล็ก ๆ บริเวณ “พระตำหนักดอยผาตั้ง” ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความโรแมนติกไม่เบา เสียดายว่ามาไวไปหน่อย ช่วงนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งยังไม่ทันบาน ได้เห็นแค่กิ่งก้านสาขาที่เรียงรายอย่างสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศสายลมเย็น เพียงเท่านี้ก็ชื่นใจ

เช็คอินลั้นลา กับนางพญาเสือโคร่งน้อย

มื้อเที่ยงวันนี้ไปอิ่มอกอิ่มใจกันที่  “โครงการหลวงดอยอินทนนท์” ที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด โดยเฉพาะพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่กำลังผลิดอกออกผลในเวลานี้

และที่เป็นไฮไลต์ก็คือ “ต้นเมเปิล” ที่กำลังขับสีสันแดงสดไปทั้งต้น ใกล้ ๆ กันก็มีแปลงนางพญาเสือโคร่งต้นเล็ก ๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม กำลังชูช่อดอกสวยงาม ทำให้หัวใจพองโตด้วยความสดใส ของเจ้าซากุระเมืองไทยที่หลายคนเฝ้ารอคอย ช่วงกลางเดือนมกราคม 2565 คาดว่าหลาย ๆ จุดบนดอยอินทนนท์ก็จะพร้อมอวดโฉม

ยลโฉมงามแห่งผืนป่า รองเท้านารี

บนดอยอินทนนท์ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะมาก บ่ายนี้แวะไปที่  “โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์” อีกจุดสำหรับชมนางพญาเสือโคร่ง น่าเสียดายที่เจ้าหน้าที่แจ้วว่าต้นเดือนเพิ่งบานแล้วโรยราไปตามสภาพอากาศ แต่ภายในยังมีดอกกล้วยไม้งาม ๆ ให้เดินชมกันเพลิน ๆ มีร้านกาแฟ และจุดชมวิวสวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสดชื่น

คาเฟ่ริมธาร Rock’n River

จากเชียงใหม่ มุ่งไปเชียงราย แวะจิบกาแฟมุมสวยที่ “Rock’n River” คาเฟ่ริมธารน้ำตกย่านดอยสะเก็ด จ.เชียงราย เป็นถนนอีกสายที่ขับรถชมวิวสวยได้อย่างเพลิดเพลิน สำหรับคาเฟ่ที่เราแวะพักวันนี้ มีความดีงามอร่ามศรีเป็นที่ถูกใจชาวคณะยิ่งนัก เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง เลือกมุมได้ตามใจฉัน ด้านเครื่องดื่มก็หลากหลาย รสชาติดีไม่แพ้กัน ลองสั่งเค้กมะพร้าวหน้าตาน่ารักมาชิม เนื้อเบา ละมุน หอมกรุ่น หวานกำลังดีนะ

สิ่งต่อความรู้สึดี ๆ กันที่ อช.ขุนแจ

ออกจากร้านกาแฟไปไม่ไกล ไปต่อกับกิจกรรมดี ๆ ที่  “อุทยานแห่งชาติขุนแจ” จ.เชียงราย ทริปนี้คาราวาน C2 Connect Plus  ตั้งใจมาร่วมส่งมอบเครื่องเป่าใบไม้ทำแนวกันไฟและเครื่องกรองน้ำดื่มชนิดพกพาให้กับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนอุทยานแห่งชาติขุนแจ และถือโอกาสรับประทานอาหารกันที่นี่ โดยมีเมนูท้องถิ่นอย่าง น้ำเงี้ยว แกงฮังเล เป็นมื้อเที่ยงท่ามกลางบรรยากาศที่แสนลงตัว

รับพลังแห่งขุนเขา จุดชมวิวกว๊านพะเยา

จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.พะเยา เป้าหมายคือการเดินทางไปกราบพระ “วัดนันตาราม” ศิลปะล้านนาตะวันออก อ.เชียงคำ จ.พะเยา แม้จะต้องขับกันยาวหน่อย แต่เส้นทางนี้ก็เพลิดเพลินสายตาไม่น้อย โดยเฉพาะบริเวณ “จุดชมวิวกว๊านพะเยา” ซึ่งเป็นจุดพักรถ จิบกาแฟ ชมวิว และอุดหนุนผลิตผลจากชาวบ้าน มองเห็นวิวภูเขากว้างไกลสลับซับซ้อน ปลอดโปร่งจริงเชียว

เสน่ห์ศิลป์ถิ่นล้านนา วัดนันตาราม

เมื่อไปถึง “วัดนันตาราม” อ.เชียงคำ จ.พะเยา ทุกสายตาก็จดจ้องกับความงดงามของสถาปัตยกรรมที่แปลกตา วิหารไม้ที่มีความวิจิตรบรรจงทรงมนต์ขลังเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหลังคาหน้าจั่วที่ยกเป็นช่อชั้นลดหลั่นกันสวยงาม ที่พิเศษไม่เหมือนที่ไหน จะเรียกว่า Amazing ก็ไม่เกินไป จากพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายใน เป็นฝีมือช่างโบราณที่แกะสลักจากไม้ และแอบซ่อนลูกเล่นไว้ให้ผู้คนได้ค้นหา เป็นรูปเทพคิวปิด หรือ กามเทพตัวน้อยแฝงอยู่ในผลงาน มองด้วยตาเปล่าอาจจะเห็นได้ยาก หากใครที่ถ่ายรูปโดยใช้เลนส์ซูมก็จะเห็นได้ชัดกว่า

เชื่อกันว่าหากมากราบขอพรเรื่องความรักก็มักจะสมหวัง ส่วนที่มาของรูปคิวปิคนี้สันนิษฐานว่าเป็นอิทธิพลจากงานศิลปกรรมอังกฤษ เนื่องจากวัดสร้างขึ้นแบบผสมผสานสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบทั้ง ปะโอ , เมียนมา , จีน , อินเดีย , ล้านนา เป็นต้น

ชมทะเลสาบสีหวาน ที่กว๊านพะเยา

ค่ำคืนในริมกว๊านพะเยาท่ามกลางบรรยากาศแห่งสายลมหนาวทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจเป็นพิเศษ ที่แสนดียิ่งกว่าเพราะหลายคนคงรู้ว่าพะเยาเป็นเมืองเงียบ ๆ มองไปทางไหนก็ปลอดโปร่ง

ยามเช้าตื่นมาแล้วออกไปเดินชมวิวริมกว๊านพะเยา เห็นคนออกมาตกปลา ออกกำลังกาย เดินเล่น กลุ่มนักท่องเที่ยวล่องเรือแจวไปไหว้พระบนเกาะกลางน้ำที่ “วัดติโลกอาราม” ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2019 -2029 ในอดีตเคยจมอยู่ใต้น้ำอยู่หลายร้อยปี ขึงเป็นอีกอันซีนพะเยาที่ใครมาแล้วไม่อยากพลาด

สโลไลฟ์แบบคนใจบาง  บ้านปางปูเลาะ

อีกเป้าหมายของคาราวาน C2 Connect Plus นอกเหนือจากการเปิดประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยวข้ามภาคแล้ว ยังรวมตัวกันเพื่อส่งมอบน้ำใจไปสู่พี่น้องในชุมชนห่างไกล  อย่างทริปนี้ หลังจากชื่นชมยามเช้าที่กว๊านพะเยากันอย่างเต็มที่ คาราวานก็มุ่ง บ้านปางปูเลาะ-บ้านผาแดง อ.แม่ใจ จ.พะเยา ที่อยู่อาศัยของชาวเมี่ยนหรือชาวเย้าที่เดินทางมาจากเมืองจีนมาอยู่ในเมืองไทยกว่าร้อยปีมาแล้ว

พวกเขามีอาชีพหลักในการทำสวนผลไม้และการปลูกกาแฟ ด้วยทำเลสวย ๆ บนเนินเขา จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่ต้องตาต้องใจผู้ได้มาพบเห็น และที่น่ารักมากคือสภาพของความเป็นอยู่ที่ยังคงแบบดั้งเดิมอยู่มาก มีที่พักแบบโฮมสเตย์อยู่บ้าง ร้านกาแฟวิวสวย 2-3แห่ง นอกนั้นคือวิถีของชาวไทยภูเขาอันเรียบง่าย

วันนี้ทาง ททท. GWM และนักเดินทาง ตั้งใจจัดกิจกรรม “เติมพลังใจเพิ่มพลังให้ชุมชน”  มอบทุนการศึกษา ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ให้กับชาวดอยชุมชนปางปูเลาะ บางท่านนำตุ๊กตามาฝาก เห็นเด็ก ๆ รับแล้วไปกอดไว้ ก็ชื่นใจทั้งคนรับและคนให้

อ่านรีวิว บันทึกคนผ่านทาง ณ บ้านปางปูเลาะ คลิกเลย

ครบ จบ ทุกความชิล ไร่ภูกลองฮิลล์

เที่ยงแล้วเราออกจากบ้านปางปูเลาะ มุ่งหน้าสู่ “ไร่ภูกลองฮิลล์” อาณาจักรแห่งความสุขสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะมีกิจกรรมให้เลือกทำเยอะมาก มีทั้งรีสอร์ต สวนน้ำ ศูนย์อาหาร สวนสัตว์ สวนดอกไม้ ไร่องุ่น ไร่ผลไม้ตามฤดูกาล ฯลฯ ที่ดินดั้งเดิมเป็นสวนยางขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ ปัจจุบันก็ยังคงสภาพไว้ ภายใต้การบริหารจัดการเป็นอย่างดี ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบ จบ ทุกความสุขสดชื่น

วันนี้เราแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ภูกลองฮิลล์ เมนูอร่อย ๆ ยกทัพมาเสิร์ฟ รสชาติเด็ดโดนใจ โดยเฉพาะ “แกงปูนิ่มทอดใบชะพลู” ซึ่งปรุงออกมาได้จัดจ้านถูกใจกันทั้งโต๊ะ จากนั้นก็ไปเดินชมสวน แวะทักทายเพื่อน ๆ ในสวนสัตว์ แล้วไปเก็บองุ่น เป็นองุ่นไข่ปลาลูกเล็ก ๆ ไร้เมล็ด รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ กรอบกรุบ อร่อยมาก ค่าบริการเก็บองุ่นท่านละ 60 บาท จะได้รับตะกร้า 1 ใบพร้อมกรรไกร  ที่นี่ยังมีเป้าหมายในการทำสวนเกษตรเป็นปลอดสาร ดีงามขึ้นไปอีก

เป็นอีกทริปที่เปี่ยมไปด้วยความสุขความทรงจำ มากแค่ไหนให้ถามเม็มโมรี่การ์ดในกล้องเป็นอันดับแรก และที่มากกว่าก็คงเป็นความสุขความสดชื่นที่ได้จากการเดินทาง ได้พบเจอมิตรภาพดี ๆ ระหว่างผู้ร่วมเดินทาง และการได้พบเจอเจ้าบ้านที่เต็มไปด้วยไมตรี

ขอขอบคุณ

“คาราวาน C2 Connect Plus”  โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง เมื่อวันที่ 23-26 ธันวาคม 2565 เส้นทางกรุงเทพฯ-สิงห์บุรี-กำแพงเพชร-เชียงใหม่-เชียงราย-พะเยา ด้วยความร่วมมือจาก บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นำรถยนต์ไฮบริดยี่ห้อ Haval รุ่น H6 จำนวน 6 คัน Haval Jolion 1 คัน เพื่อใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งนักท่องเที่ยวรวม 60 ท่าน ที่ได้นำรถยนต์เข้าร่วมกิจกรรมอีก 14 คัน รวม 21 คัน

ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับแบบน่ารัก ๆ ทุกท่าน