Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

Meetlegend

กาญจนบุรีได้ชื่อว่า “แดนสวรรค์ตะวันตก” จากความพรั่งพร้อมทางธรรมชาติ มีป่าเขาลำเนาไพรอันอุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองแห่งสายน้ำสะท้อนความผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หากได้มาสัมผัสแล้วจะไม่แปลกใจเลยว่า จะมาเยือนเมืองกาญจน์กี่ครั้งก็ยังตกหลุมรักกาญจน์อยู่เสมอ ทริปนี้เป็นการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ระหว่างวันที่ 16-20 พฤศจิกายน 2565 ออกไปตามล่าความสุขในดินแดนสวรรค์ “กาญจน์” ได้เลย รักกาญจน์วิวใหม่ สกายวอล์กกาญจนบุรี ใครที่กลัวความสูงเหมาะมากสำหรับการมาเยือนสกายวอล์กเมืองกาญ เพราะเป็นสะพานลอยฟ้าที่ไม่สูงมากนัก ตั้งอยู่ในทำเลเลียบแม่น้ำ  ตัวโครงสร้างและทางเดินกระจกนิรภัยรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง ไม่ได้โล่งโปร่งแบบมองลงไปแล้วใจหาย แต่ถ้ายังกลัวก็แนะนำง่าย ๆ ว่าอย่ามองลงไปด้านล่าง มีมือคนข้าง ๆ ก็ให้จับไว้ เดินคนเดียวก็เกาะราวสะพานไป  ทอดสายตาอันยาวไกล  จะเห็นวิวสวย ๆ โปร่งโล่งสบาย [gallery columns="2" size="full" ids="29759,29760"] “สกายวอล์กกาญจนบุรี” เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2565  ริมท่าน้ำในตัวเมืองกาญ เป็นสะพานสูง

สะพานไม้ที่ทอดเป็นทางยาวข้ามแม่น้ำซองกาเลีย เชื่อมโยงวิถีของคนทั้งสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน เป็นวิถีไทยมอญที่กลมกลืนเป็นเอกลักษณ์ และจะคึกคักขึ้นในช่วงวันหยุด  เหล่าผู้มาเยือนต่างมุ่งหน้าเพื่อมาสัมผัสบรรยากาศแห่งศรัทธาที่สะท้อนออกมาจากสะพานแห่งนี้ สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานแห่งน้ำใจจากความร่วมมือของชาวบ้านและหน่วยงานต่าง ๆ  ย้อนไปเมื่อปี 2529 สะพานมอญถูกสร้างขึ้นจากดำริของ หลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ใช้เวลาก่อสร้างถึง 2 ปี โดยอาศัยแรงงานชาวมอญในท้องถิ่น [caption id="attachment_29716" align="aligncenter" width="799"] ความคึกคักบนสะพานมอญในช่วงวันหยุดยาว[/caption] จนเมื่อปี 2556 ข่าวของสะพานมอญที่ขาดเป็นสองท่อนเนื่องจากเหตุน้ำป่าไหลหลาก  ทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้านอำเภอสังขละบุรีได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันซ่อมแซม จนสะพานแห่งนี้สามารถเปิดใช้ได้ในวันที่ 18 ตุลาคม 2557 นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ [caption id="attachment_29717" align="aligncenter" width="800"] ท่าเรือจอดรับนักท่องเที่ยว[/caption] ปัจจุบันสะพานมอญเป็นจุดท่องเที่ยวที่คึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น เพราะเป็นจุดชมวิวที่ทุกคนไม่อยากพลาด

ความสวยงามอลังการของอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ หรือเดิมเรียกว่าเขื่อนเขาแหลม ภาพของแผ่นน้ำและผืนฟ้าที่โอบเรือลำน้อยที่ค่อย ๆ ล่องออกไป ทิวเขาที่เรียงรายเป็นฉากหลังสวยงาม หลายคนรู้จักที่เนื่องจากมีที่พักและร้านอาหารให้บริการท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล แต่ยังมีอีกมุมอันงดงาม จะว่าลับก็คงไม่ใช่ แต่เพราะหลายคนอาจจะยังไม่เคยไปหรือไม่เคยรู้จัก ต้องอาศัยการเหมาเรือเข้าไปอีกไกล ทำให้บ้านโบอ่อง อาจจะยังอยู่นอกเหนือเส้นทางท่องเที่ยว ทั้งที่อาจจะผ่านไปทองผาภูมิมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง [caption id="attachment_29683" align="aligncenter" width="799"] บ้านท่าแพ จุดลงเรือไปบ้านโบอ่อง[/caption] บ้านโบอ่อง  ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อยู่บนเกาะเล็ก ๆ ภายในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนวชิราลงกรณ มีพื้นที่ราว 5,000 ไร่ จากบ้านท่าแพริมอ่างเก็บน้ำ เรือหางยาวจะใช้เวลาราว 45 นาที   [caption id="attachment_29666" align="aligncenter" width="800"] ท่าขึ้นเทียบเรือที่บ้านโบอ่อง[/caption] สภาพภายในหมู่บ้านมีความเงียบสงบ มีชาวบ้านประมาณ 1,200 คนอาศัยอยู่ที่นี่

กาญจนบุรีในอดีตเคยเป็นแหล่งแร่นานาชนิด ภาพของเหมืองแร่ในวันวานยังสะท้อนผ่านเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังอย่างไม่จบสิ้น มีหลักฐานสำคัญที่ซ่อนความเร้นลับซับซ้อนเอาไว้ เป็นอุโมงค์ที่เจาะลึกเข้าไปใต้ภูเขา เส้นทางสั้นยาวหลายช่วงรวมแล้วมากกว่า 10 ถ้ำ แม้วันนี้ภายในจะเหลือเพียงความว่างเปล่า แต่กลับสะกดทุกความรู้สึกเมื่อได้มาเห็นกับตา เมื่อเข้าจากทางปากถ้ำ ผ่านความมืดเข้าไป แสงสว่างที่ปลายทางอาจพาเราไปยังทางออกที่แตกต่างกัน และอาจจะย้อนภาพคืนและวันที่เหมืองแห่งนี้เคยคึกคักไปด้วยผู้คน เป็นมิติที่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึก "อุโมงค์สามมิติ"  หรือ หรือ “อุโมงค์ ดร.ผล กลีบบัว” ผู้ที่เคยสัมปทานเหมืองแร่แห่งนี้ อุโมงค์เหมืองแร่ เป็นส่วนหนึ่งของเหมืองสองท่อ ใน อ.ทองผาภูมิ แหล่งผลิตแร่ตะกั่วใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เส้นทางในอุโมงค์มีหลายช่วง เชื่อมต่อถึงกันอยู่ภายใต้ภูเขาหินปูน [caption id="attachment_29625" align="aligncenter" width="800"] เดินทางออกจากจุดชมวิวเนินสวรรค์[/caption] [caption id="attachment_29626" align="aligncenter" width="799"] จุดแรกเป็นอุโมงค์ระยะสั้น เดินทะลุได้[/caption] [caption id="attachment_29627" align="aligncenter" width="800"] สภาพในอุโมงค์แรกที่แวะชม ยังพอมีแสงสว่าง

คอลัมน์ : เซาะร่องเสียง  โดย นกป่า อุษาคเณย์ จะกินอะไรไม่สน บินวนอยู่บนท้องฟ้า มีเพียงเวลาอยู่เหนือทะเล ด้วยความเร็ว แรงและสง่า เจ้านางนวลปีกงาม ตัดแผ่นฟ้า สาดดวงตา ทายท้า กระแสลม ใครจะประณาม​เหยียดหยาม นางนวลก็ยังบินไป มีไปทำไมชีวิตถ้าคิดเพียงแย่งกันกิน ชิงแย่งกันอยู่ ออกโบยบิน บินไปได้เรียนรู้ โลกมีรัก รักมี สิทธิ์เสรี *บิน บินให้เร็วเท่าความคิด บิน จากกฎเกณฑ์ที่จำเจ สติปัญญาเท่านั้น สมควรกับการรับรู้ นางนวลบินดู อุทิศใจกาย มองฟ้างาม ไกลและกระจ่าง จากอารมณ์ ติดอัตตา ไม่เดียงสา เกิดปัญญา โจนาธาน เจ้านางนวล (บทเพลง: โจนาธาน (1) อัลบั้ม: แม่เงา ศิลปิน: เอี้ยว ณ ปานนั้น (ชัยพร นำประทีป) https://www.youtube.com/watch?v=ahvIoNH9n7s Jonathan Livingston Seagull หรือ “โจนาธาน

เสน่ห์ของเมืองเก่าอยุธยายังคงตรึงตาตรึงใจ ไม่ว่าจะเดินทางมาครั้งใด ก็ยังชื่นใจมิเคยเสื่อมคลาย จากคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรม ความเชื่อ ความศรัทธา ท่ามกลางวิถีชีวิตของผู้คนอันน่าสนใจ จากสภาพภูมิอากาศในช่วงหน้าฝนของปีนี้ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในหลายจังหวัดของประเทศไทย ประสบกับภาวะน้ำท่วม หนึ่งในนั้นคือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านถึง 3 สาย ทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี คนอยุธยาจึงคุ้นชินกับวิถีชีวิตกับสายน้ำ บ้านเรือนริมชายฝั่งส่วนใหญ่มีเรือเป็นของตัวเอง แม้ว่าการสัญจรทางน้ำจะไม่เป็นที่นิยมเหมือนในอดีต แต่เมื่อฝนเทลงมา ชาวอยุธยาจึงต้องเตรียมรับกับสภาพน้ำที่เอ่อล้นอยู่เป็นประจำ สำหรับปีนี้ในตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีน้ำท่วมหลายแห่ง แต่ยังไม่เป็นอุปสรรคสำหรับสำหรับเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ล่าสุดเมื่อวันที่ 8-9 ตุลาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง พร้อมคณะสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเข้าร่วมงาน “อยุธยา Walking Street” บริเวณถนนนเรศวร ตั้งแต่หน้าวัดมหาธาตุ ไปจนถึงวัดราชบูรณะ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่

คำว่า “อุทัยธานี” เดิมสะกดว่า “อุไทยธานี” เป็นจังหวัดที่ยังคงวิถีเรียบง่าย สงบนิ่ง เสน่ห์แห่งวันวานของอุทัยธานี นอกเหนือจากวิถีชีวิตที่สะท้อนจากผู้คนแล้ว สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในตัวเมืองอุทัย ยังปรากฏความงดงามข้ามกาลเวลาอยู่หลายจุด เช่นเดียวกับที่นี่  “อุไทย เฮอริเทจ” (Uthai Heritage Hotel) ป้ายหน้าทางเข้าระบุชื่อ “โรงเรียนอุทัยวิทยาลัย” ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนแห่งแรกในตัวเมืองอุทัยธานี ที่มีอายุกว่า 70 ปี เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เจ้าของเดิมได้ยกเลิกกิจการโรงเรียนและขายให้กับ “นายห้างควร พรพิบูลย์” ซึ่งท่านได้ซื้อและเก็บรักษาไว้ ตกทอดมาถึงรุ่น  “ทพ.กฤตพล พรพิบูลย์” ที่อยากสานต่ออดีตอันน่าจดจำนี้ไว้ ด้วยการสร้างสรรค์ที่พักในสไตล์บูติกโฮเทล ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างเดิมให้สวยงามอย่างมีสไตล์ เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ในกลิ่นอายวินเทจ [gallery columns="2" size="full" ids="28973,28974,28981,28980"] “โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ดำเนินกิจการมาก่อน หลังจากเลิกกิจการไปก็ทิ้งตึกร้างไว้ 1 อาคาร

เมื่อเข้าสู่ อ.ลานสัก สิ่งแรกที่เราจะเห็นคือแนวต้นสักที่เรียงรายตลอดสองข้างทาง บ่งบอกถึงความเป็นลานสักได้อย่างชัดเจน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าและภูเขา พร้อมบรรยากาศอันเขียวขจี  อำเภอลานสักจึงมีแหล่งท่องเที่ยวอันมีเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ รอให้ทุกคนเข้ามากางแขนสูดลมหายใจรับพลังแห่งธรรมชาติ [caption id="attachment_28902" align="aligncenter" width="800"] ภูเขาหินขนาดใหญ่ ซ่อนความงดงามของ "หุบป่าตาด" ไว้ด้านใน[/caption] “หุบป่าตาด” เป็นแหล่งอันซีนในเมืองไทย ที่ถูกค้นพบเมื่อ พ.ศ.2522 โดย พระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง ก่อนหน้านี้ยังต้องปีนป่ายหน้าผาเข้าไปในหุบ แต่ได้รับการพัฒนาทำทางเดินเข้าที่สะดวกมากยิ่งขึ้น จากสภาพป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาด ไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ด้วยลักษณะของป่าที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาอันลึกลับ จึงเรียกที่นี่ว่า “หุบป่าตาด” ก่อนที่จะเดินเข้าสู่หุบป่าตาด เราจะมองเห็นภูเขาลูกใหญ่ตั้งตระหง่านเรียงราย เป็นโลกอีกใบที่น่าอัศจรรย์ และตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเมื่อได้เดินฝ่าความมืดลอดถ้ำเข้าไป เป็นระยะทางสั้น ๆ ที่น่าประหลาดใจ เพราะหลุดจากถ้ำมาก็จะเจอกับป้าขนาดใหญ่ซ่อนไว้ในหุบ ที่ซ่อนตัวลึกลงไปอีก  จากนั้นก็ลัดเลาะแนวป่าไปถึงโถงถ้ำขนาดใหญ่ ที่มีหินงอกหินย้อย และหินปูนขนาดมหึมา รายล้อมด้วยต้นไม้ใบยักษ์

ได้ฟังเรื่องราวแล้วน่าใจหาย แต่สิ่งที่หลงเหลือไว้ยังคงน่ายินดียิ่ง ใครที่เดินทางมา อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี คงเคยได้ยินชื่อเสียงของ “ต้นไม้ยักษ์” หรือต้นผึ้งขนาดใหญ่ คุณทวดแห่งผืนป่าท่ามกลางป่าหมากอันกว้างใหญ่ อายุราว 300-400 ปี ขนาด 40 คนโอบ เป็นมรดกของผืนป่า ที่ยังคงยืนต้นตระหง่าน รอให้ทุกคนมาสัมผัส  รับพลังแห่งธรรมชาติ เดิมทีต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ เคยถูกทาบทามซื้อขายจากพ่อค้า เพื่อจะนำไปผลิตเป็นก้านไม้ขีดและไม้ไอศกรีม เข้าใจว่าสมัยก่อน เมืองไทย โดยเฉพาะอุทัยธานี มีผืนป่าขนาดใหญ่ มีต้นไม้อยู่มากมาย ในตอนนั้นการตัดต้นไม้ คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร โชคดีที่ต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ยังคงรอดปลอดภัยมาถึงปัจจุบัน โดยได้รับการดูแลจาก “นายเฮียง ชาวป่า” ผู้อนุรักษ์ต้นไม้ยักษ์ต้นนี้เอาไว้ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นระเบียบเรียบร้อยสะอาดตา สามารถเดินเท้าหรือปั่นจักรยานเข้าไปชมต้นไม้ยักษ์ได้ พร้อมอุดหนุนสินค้าจากชุมชนที่ตลาดต้นไม้ยักษ์บริเวณหน้าทางเข้า ต้นไม้ยักษ์ ยืนต้นอยู่ท่ามกลางป่าหมากขนาดกว้างใหญ่ เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้สึกได้ถึงพลังและคุณค่า เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่สอดแทรกจิตสำนึกการอนุรักษ์ป่าไม้ เป็นอีกมุมใน อ.บ้านไร่

“ผมมีแนวความคิดว่าจะผลักดันทุเรียนปากช่องให้โด่งดังเหมือนทางนนทบุรี  ที่ครั้งหนึ่งเคยประมูลกันลูกละ 8 แสนบาท” พี่มาโนช "มาโนช รูปสมดี" เจ้าของสวนอัมพร  เล่าให้ meetThinks ฟัง นับเป็นความท้าทายก้าวต่อไป หลังจากใช้เวลา 2 ปีในการขอรับรองตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI กับเส้นทางที่ยังต้องต่อสู้กับปัญหาอีกมากมาย เพราะทุเรียนเป็นพืชที่ดูแลยาก ว่ากันว่าต้องเอาใจกันเหมือนเด็กแบเบาะ เป็นผลไม้ที่ปลูกแล้วก็ต้องปลูกซ่อมกันแทบทุกปี ไม่มีคำว่ากินยาว เหมือนไม้ผลอื่น ๆ แถมราคายังนับว่าเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับการควบคุมต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น [caption id="attachment_28284" align="aligncenter" width="799"] มาโนช รูปสมดี[/caption] 40 ปี ทุเรียนปากช่อง สู่การขึ้นทะเบียน GI ในฐานะประธานวิสาหกิจชุมชนทุเรียนและพืชสวน อ.ปากช่อง พี่มาโนชได้ทุ่มเทในการปลุกปั้นฟันฝ่า โดยอาศัยความร่วมมือจากสมาชิกในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุเรียนและพืชสวน อำเภอปากช่อง และวิสาหกิจชุมชนทุเรียนคลองม่วง ปากช่อง พร้อมด้วยอาจารย์

ถ้าเอาน้ำพริกเป็นตัวกำหนดการเดินทาง เราคงได้ไปเที่ยวในชุมชนได้เป็น 100 แห่ง เพราะไม่ว่าจะเดินไปภาคไหนของเมืองไทย เราก็จะเจอกับเมนูพื้นบ้านอย่างน้ำพริก ต่างถิ่นก็ต่างสูตร เพราะอิงกับวัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก รวม ๆ แล้ว ทั่วเมืองไทย น่าจะมีสูตรน้ำพริกอยู่มากกว่า 100 ตำรับเลยก็ว่าได้ ล่าสุดมีแนวคิดใหม่ของการกินน้ำพริก จากแนวคิดสร้างสรรค์จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม  ภายใต้โครงการ “The journey of  น้ำพริกจากบ้านนาสู่มหานคร” ล่าสุดได้มีการจัดงานเปิดตัวเมนูอาหารที่สร้างสรรค์จากน้ำพริกสูตรเด็ดจากทั่วประเทศ ด้วยฝีมือเชฟร้านอาหารดังจำนวน 20 ร้านทั่วกรุงเทพฯ พร้อมแล้วให้นักชิมตามไปพิสูจน์ความอร่อย [caption id="attachment_28230" align="aligncenter" width="800"] แจ่วบอง ชุมชนคุณธรรมต้นแบบบ้านท่าเรือ จ. นครพนม[/caption] นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า “น้ำพริกเป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ตกทอดตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา จุดเด่นไม่เพียงรสจัดถูกปากคนไทย แต่ยังปรุงง่าย และนำพืชพรรณธัญญาหารในท้องถิ่นมาปรุงร่วมด้วยไม่จำกัด ด้วยเหตุนี้ในแต่ละชุมชนจึงมีสูตรน้ำพริกเฉพาะของตัวเองสืบทอดตามบริบทของแต่ละพื้นที่

ราว 40 กิโลเมตรจากตัวเมืองแพร่ เส้นทางบนเนินเขาที่คดเคี้ยว มองเห็นทัศนียภาพอันสวยงาม ดินแดนแห่งนี้มีชื่อสั้น ๆ ว่า “ลอง” เดิมเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดลำปาง หลังจากการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ในปี 2475 ทางการจึงได้โอนเมืองลองมาเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดแพร่ เอกลักษณ์ของเมืองลอง จึงมีความแตกต่างจากเมืองแพร่ แม้จะใช้ภาษาเดียวกัน แต่หากวิเคราะห์ถึงรายละเอียดที่ลึกลงไป คนเมืองลอง มีตัวตนที่แตกต่างจากคนแพร่ และนี่คือเรื่องราวของเมืองลอง ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมเมืองลอง เจ้าของพิพิธภัณฑ์กมลผ้าโบราณ อาจารย์โกมล พานิชพันธ์ ที่ Meetthinks มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยถึงความเป็นไปของเมืองลองในปัจจุบัน [caption id="attachment_27268" align="alignnone" width="799"] เส้นทางจากเมืองแพร่สู่เมืองลอง เต็มไปด้วยความสวยงาม[/caption] ท่องเที่ยวเมืองลองในทัศนะของคนเมืองลอง “อยากให้การท่องเที่ยวเมืองลองไปในแนวของเชิงวัฒนธรรม เพราะเราอาจจะไม่มีวิวที่สวยที่สุด แต่เรามีสิ่งหนึ่งคือ  ตัวตน ของตัวเอง ก็คือวัฒนธรรมความเป็นคนเมืองลอง ถามว่าคนเมืองลองกับแพร่เหมือนกันหรือเปล่า ภาษาเหมือนกัน

หากย้อนไปไกล ๆ หลายสิบปีก่อน ตอนที่การโดยสารข้ามจังหวัดไม่ได้สะดวกสบายเช่นวันนี้ การได้ไปเยือนจังหวัดที่มีรากฐานทางศิลปะวัฒนธรรมที่แตกต่าง แม้จะเป็นเมืองไทยด้วยกัน ก็ดูตื่นตาตื่นใจไปเสียหมด แรกเริ่มเดิมทีก่อนที่จะมี  “ถนนคนเดิน” ภาพของการเที่ยวชมตลาดของคนพื้นเมืองอยู่ในช่วงเช้า นอกจากการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ในแต่ละจังหวัดแล้ว ตลาดเช้านี่แหละ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชุมชน ได้สัมผัสกับคนท้องถิ่น การกิน อยู่ แบบชาวบ้านจริง ๆ [caption id="attachment_26130" align="aligncenter" width="746"] ถนนคนเดินหอนาฬิกาแม่ฮ่องสอน ช่วงค่ำ ๆ จะมีการแสดงของนักเรียนนักศึกษาบริเวณทางเข้า[/caption] หลังจากมีรูปแบบ “ถนนคนเดิน” เกิดขึ้น  เกิดเป็นกิจกรรมที่เพิ่มรสชาติของการท่องเที่ยวได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และถือเป็นการกระจายได้ให้กับชุมชนนอกเหนือจากการค้าขายปกติทั่วไป นอกจากพ่อค้าแม่ค้าดั้งเดิมแล้ว คนรุ่นใหม่ก็มีช่องทางในการนำเสนอสินค้าของตัวเองด้วย จนปัจจุบัน มีตลาดชุมชน ตลาดนัด ตลาดน้ำ ฯลฯ เกิดขึ้นเป็นทางเลือกอีกมาก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนก็จะไม่ลืมนำเสนอเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการดึงดูดให้ผู้คนเข้าเที่ยวชม [caption id="attachment_26129" align="aligncenter"

เมื่อมองไปรอบตัว มีอะไรบ้างที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตเราจริงๆ กินอิ่ม นอนสบาย ขับถ่ายดี ไม่มีโรคภัย หายใจโล่ง โปร่งสมอง

ตลอดทั้งปี 2563 เราจะเห็นเลข 60 ไปทั่วทุกที่ตลอดทั้งปี เพราะเป็นปีของการเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปีของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย ต่างมีแคมเปญพิเศษเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จึงเป็นอีกปีแห่งความสุข กับเส้นทางแห่งความสุข ที่ ททท. จะนำมาเสิร์ฟกันทั้งปี ประเดิมเส้นทางแรกกับแหล่งท่องเที่ยวหน้าหนาว “60 เส้นทางความสุข @ เมืองไทย เดอะซีรีส์  Hello Winter” โดยมีพันธมิตรท่องเที่ยว ทั้งสายการบิน สถาบันการเงิน รถเช่า ฯลฯ เข้ามาร่วมมอบสิทธิพิเศษมากมาย โดยได้ทำการเปิดตัวแคมเปญไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ [caption id="attachment_19434" align="aligncenter" width="900"] นายยุทธศักดิ์ สุภสร[/caption] นายยุทธศักดิ์

เราได้ยินคำว่า “พลอยดก” จากคำบอกเล่าของคนเมืองจันท์ ซึ่งระบุว่าในอดีตพื้นที่เขาพลอยแหวนจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ที่มีพลอยดก หรือ มีพลอยอยู่มาก จนเรียกได้ว่า “ดก” เหมือนผลไม้ ว่ากันว่า แค่เดินไปเดินมาเขี่ยตามดิน ก็พบเจอแล้ว ชาวบ้านจึงสนุกสนานกับการหาพลอย โดยเฉพาะเมื่อฝนตกหนัก หน้าดินที่ถูกชะล้าง จะปรากฏพลอยก้อนกรวดให้เห็น ฟังแล้วน่าทึ่งจริงๆ แม้ว่าวันนี้พลอยที่จันทบุรีจะเป็นของหายาก แต่คนเมืองจันท์ยังมีภูมิปัญญาของช่างฝีมือพลอยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยปัจจุบันพลอยก้อนราว 80% จากทั่วโลกจะถูกส่งมาเจียระไนที่เมืองไทย โดยมีจันทบุรีเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้า จึงได้ชื่อว่า “นครแห่งอัญมณี” โดยจะมีย่านการค้าพลอยและเครื่องประดับอยู่ที่ตลาดพลอยภายในตัวเมือง บริเวณถนนศรีจันท์และตรอกกระจ่าง และจะคึกคักมากในวันศุกร์เสาร์และอาทิตย์ อีกจุดของการเที่ยวชมหรือเรียนรู้เรื่องพลอย อยู่ที่ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับ เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์อัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ในเมืองจันทบุรียังมีผู้ประกอบการด้านการค้าพลอยที่มีชื่อเสียงอีกหลายแห่ง เช่น แกลลอรี่พลอย World Sapphire  ที่รวบรวมเอาพลอยต่างทั่วทุกมุมโลกทั้งที่เจียระไนแล้วและยังไม่ได้เจียระไนมาไว้ที่นี่ แนวคิดในการสร้าง World Sapphire  Gallery มาจากประสบการณ์การทำมาค้าขายพลอยของคุณเมธี จึงสงวนสิทธิ์

อาหารคือเรื่องราวหนึ่งในชีวิตของผู้คน ที่แสดงออกถึงสไตล์ที่แตกต่างของคนในแต่ละวัฒนธรรม แม้ว่าวันนี้ประเทศไทยจะมีร้านใหม่ๆ จากหลายชนชาติเข้ามาเปิดให้บริการ แต่ร้านอาหารระดับตำนานที่ยืนหยัดอยู่ในความทรงจำของคนแต่ละรุ่นก็ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสัมผัสได้นอกจากรสชาติของอาหารแล้ว “ความผูกพัน” ที่มีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือ คนรัก ต่างเป็นช่วงเวลาที่เราต่างอยากให้ย้อนกลับคืนมา หรือไม่

เหรียญมีสองด้าน เหมือนชีวิตที่พลิกไปอีกด้านได้เสมอ มนุษย์จึงต้องอาศัยสติในการดำเนินชีวิต แต่ในสองด้านของเหรียญยังมีเรื่องราวอีกมากมายซ่อนไว้ในนั้น เพราะนอกจากการเป็นตัวแทนของมูลค่าแล้ว เงินตรา หรือ เหรียญ ยังแสดงถึงวิวัฒนาการ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และยังผลิตในโอกาสพิเศษ เพื่อเชิดชูหรือยกย่องบุคคลสำคัญในโอกาสต่างๆ เหรียญจึงเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ไม่ได้มีเพียง 2 ด้านอย่างแน่นอน อยากรู้เรื่องราวของเงินตรา ความเป็นมาของเหรียญกษาปณ์ แนะนำให้ไปที่  พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ซึ่งล่าสุดได้ทำการปรับปรุงใหม่ และเปิดให้เข้าชมแล้ววันนี้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ ด้านประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ โดยจัดแสดงเงินตราโบราณ เหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก เงินตราต่างประเทศ และเผยแพร่ภารกิจของกรมธนารักษ์ด้านการผลิตเหรียญกษาปณ์ การอนุรักษ์เงินตราโบราณ และเป็นแหล่งเรียนรู้เฉพาะด้านเหรียญกษาปณ์และเงินตราสำหรับผู้สนใจ นักสะสม เยาวชน และประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) สำหรับนักสะสมเหรียญและผู้สนใจทั่วไป ตลอดจนการจัดนิทรรศการ และกิจกรรมที่เกี่ยวกับเหรียญกษาปณ์ [caption

ความทรงจำเป็นรสชาติของความสุขที่กลมกล่อม เราต่างมีความทรงจำดีๆ ประทับอยู่ในใจ ยิ่งเนิ่นนานไป รสชาติก็ยิ่งชัดเจน แม้ภาพจะลางเลือน แต่ความรู้สึกกลับเข้มข้นมากขึ้นทุกที วันนี้เราพบภาพแห่งรอยยิ้ม บนเส้นทางท่องเที่ยวชมวิวรอบเกาะรัตนโกสินทร์โดย Siam Gourmet Bus ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 11/11/2562 รสบัส 2 ชั้น ขนาด 28 ที่นั่ง ถูกออกแบบให้หันsหน้าเข้าหากันโดยมีโต๊ะคั่นกลาง แบบ 2 ที่นั่ง และ 4 ที่นั่ง ทั้งหมดตั้งอยู่บนชั้น 2 ของรถ ส่วนชั้นล่าง เป็นห้องครัวสำหรับการจัดเตรียมอาหาร และห้องน้ำ ชื่อว่า Siam Gourmet Bus ก็บอกแล้วว่าต้องเกี่ยวข้องกับการกินดื่ม คอนเซ็ปต์ของการนั่งรถชมวิวเมืองกรุง จึงมาพร้อมกับการดื่มด่ำมื้ออาหารที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน จากร้านอาหารชื่อดัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้สัมผัสถึงรสชาติแห่งความเป็นไทย ไปพร้อมๆ กับการชื่นชมความงดงามของกรุงเทพซึ่งได้ชื่อว่า

สัมพันธภาพระหว่างประเทศไทยและอังกฤษนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์ของทั้งสองประเทศซึ่งมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เช่นเดียวกันและพระราชวงศ์อังกฤษทุกพระองค์ต่างทรงมีพระกรุณาต่อประชาชนเช่นเดียวกับพระราชวงศ์ทุกพระองค์ของประเทศไทย เนื่องในโอกาสที่พระราชวงศ์อังกฤษกำลังจะมีพิธีเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ องค์รัชทายาทลำดับที่ 6 และเมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้น ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ ที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ภายในปราสาทวินด์เซอร์ ณ กรุงลอนดอน สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย และศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงได้ร่วมกันจัดงาน “Siam Paragon Celebrates the Royal Wedding in Collaboration with British Embassy Bangkok” ขึ้น เพื่อร่วมถวายพระพรเนื่องในพิธีมหามงคลแห่งพระราชวงศ์อังกฤษ โดยรวบรวมเรื่องราวเส้นทางความรักของเจ้าชายแฮร์รี่และพระคู่หมั้น รวมถึงประวัติศาสตร์พระราชพิธีอภิเษกสมรส พิธีเสกสมรสของพระราชวงศ์อังกฤษถ่ายทอดเป็นนิทรรศการภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยภาพแห่งความประทับใจ ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2561 ณ