Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim

Subscribe to our newsletter

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam
[contact-form-7 id="9582" html_class="default"]

Posts by Lanlom

นอกจาก “นาปรัง” และ “นาปี” ที่บ่งบอกฤดูกาลและลักษณะของการปลูกข้าวแล้ว หลายคนแทบไม่รู้จัก และอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องของการทำ “นาขาวัง” มาก่อน แต่หากใครที่เคยรู้เคยเห็นว่า บนเกาะกลางทะเล หรือ พื้นที่ติดทะเล ก็สามารถทำนาได้ เรื่องของ “นาขาวัง” ก็อาจจะอยู่ในทำนองที่คล้ายคลึงกัน เพราะการทำ “นาขาวัง” เป็นรูปแบบการทำนาในระบบนิเวศ 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของชาวบ้านที่เรียนรู้กลไกธรรมชาติของน้ำขึ้น น้ำลง เมื่อถึงหน้าฝนมีน้ำมีท่าก็ทำนาตามปกติ  ส่วนในฤดูแล้งก็จะปล่อยน้ำเค็มให้ไหลเข้ามาในนาเพื่อเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา ส่วนคำว่า “ขาวัง” คือ ลุ่มน้ำบางปะกง  เป็นภูมิปัญญาในการจัดการน้ำของชาวนา สำหรับการทำนาขาวัง อาจจะไม่รู้จักกันเป็นที่แพร่หลายมากนัก เพราะปัจจุบันเหลือพื้นที่ทำนาขาวังเพียงแค่ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

เมืองพัทยา เป็น 1 ใน 6 ไมซ์ซิตี้ของประเทศไทย (กรุงเทพมหานคร, พัทยา, เชียงใหม่, ขอนแก่น, ภูเก็ต และ สงขลา) และเป็นไมซ์ซิตี้เพียงเมืองเดียวเมืองเดียวในภาคตะวันออก   พื้นที่แห่งนี้มีความพร้อมในด้านรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและไมซ์ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนและธุรกิจบริการ มีที่พัก โรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การจัดประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติ เช่น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช พัทยา - NICE และ ศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา – PEACH ฯลฯ ที่ผ่านมา เมืองพัทยามีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประสบการณ์การรองรับการจัดงานประชุม งานแสดงสินค้านานาชาติ และเมกะอีเวนท์มากมาย ทำให้พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่พร้อมรองรับงานไมซ์ได้อย่างครบวงจร เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟ เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตคนไทยจนแทบจะขาดจากกันไม่ได้ ส่งผลให้ตลาดกาแฟกว่า 3 หมื่นล้านบาท ยังมีทิศทางการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังสร้างกลุ่มสังคมคอกาแฟในหลากหลายพื้นที่ หากมองย้อนไปยังต้นทาง กาแฟเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของชุมชน เรื่องราวเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นมิติที่หลากหลายของกาแฟในประเทศไทย ที่ได้ชื่อว่า เป็นพระเอกขี่ม้าขาวในยุคนี้ ล่าสุด สมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH) และเดอะคลาวด์ (readthecloud.co) ร่วมเชิดชู กาแฟไทย อนาคตไปไกล มุ่งเน้นการสื่อสารและพัฒนากระบวนการผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อยกระดับคุณภาพสู่ระดับสากล เชื่อมโยงอุตสาหกรรมเกษตร สู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน [caption id="attachment_20944" align="aligncenter" width="850"] วัลลภ ปัสนานนท์[/caption] นายวัลลภ ปัสนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย ผู้ขับเคลื่อนวงการกาแฟไทย เปิดเผยว่า ทิศทางของ “กาแฟพิเศษ” กลายเป็นเทรนด์ที่สังคมกาแฟโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยคุณภาพ และเอกลักษณ์เมล็ดกาแฟไทยที่มีความโดดเด่น นับเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้ธุรกิจกาแฟไทยก้าวหน้า ซึ่งจากวิกฤตโควิด-19

“ผู้พิชิตยอดเขาเทวดา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะต้องเดินเท้าจนกล้ามเนื้อขาแข็ง แต่เมื่อเห็นทัศนียภาพของทะเลหมอกและไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วยอดเขา ก็ทำให้ลืมความเหนื่อยล้าที่มีไปอย่างสิ้นเชิง” ทริปนี้ขอแนะนำสำหรับผู้ชื่นชอบสัมผัสกับธรรมชาติ ชมความงดงามหลากหลาย ตื่นตากับทะเลหมอกบนยอดเขาเทวดา ณ อุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี “อุทยานแห่งชาติพุเตย” อุทยานแห่งชาติหนึ่งเดียวของ “จังหวัดสุพรรณบุรี” ซึ่งมีขุนเขารายล้อมและอุดมไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่ามากมาย ไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ “ป่าสนสองใบ” ที่มีอยู่เพียงกลุ่มเดียวในภาคกลาง และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง สภาพป่าโดยทั่วไปของอุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ประกอบด้วย ป่าสนสองใบธรรมชาติ ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรังผสมป่าดิบแล้ง พรรณไม้ที่สำคัญได้แก่ นอกจาก “สนสองใบ” แล้ว ยังมี เหียง พลวง แดง ชิงชัน ประดู่ มะค่าโมง ไผ่ป่าต่าง ๆ เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำและแหล่งอาหารที่สมบูรณ์

งานบ้านเป็นภาระอันหนักหน่วงของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนเมืองที่ใช้เวลาเกือบทั้งหมดของวันไปกับการเดินทางและการทำงาน ที่เหลือก็มีเวลาพักผ่อนเพียงเล็กน้อย จึงต้องรอจนกว่าวันหยุด ถึงจะมีเวลาทุ่มเทให้กับงานบ้านอันแสนจุกจิก ขณะที่ใครๆ ก็อยากได้บ้านที่สะอาดเนี้ยบเหมือนโรงแรม แต่ด้วยทักษะและเวลา ทำให้เราต้องทนอยู่กับบ้านที่อาจจะทำได้แค่สะอาดระดับหนึ่ง แต่จะไม่เนี้ยบ เรียบร้อยตามที่ใจต้องการ ธุรกิจการจัดหาแม่บ้านและงานช่างที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน จึงมีแนวโน้มน่าสนใจ แม้ว่าที่ผ่านมา ธุรกิจแม่บ้านจะอยู่กับเรามานานแล้ว แต่แม่บ้านหรือช่างที่ได้มาตรฐาน สามารถเลือกวันและเวลาได้ตามความต้องการ โดยไม่ต้องจ้างประจำ แถมยังมีบริษัทรองรับอย่างชัดเจน จึงมั่นใจได้ระดับหนึ่งเรื่องความสะอาดและปลอดภัย และค่าใช้จ่ายที่พอแบกรับไหว ล่าสุด เซอร์วิสฮีโร่- แอปพลิเคชันค้นหาและว่าจ้างช่างและแม่บ้านมืออาชีพ  เปิดบริการใหม่ที่ตอบโจทย์ รับชีวิตวิถีใหม่ คือการจ้างแม่บ้านประจำผ่านแอปพลิเคชัน โดยสามารถเลือกระบุวันเวลาที่ต้องการได้ เช่น สัปดาห์ละครั้ง สัปดาห์ละสองครั้ง หรือวันเว้นวัน ตามแต่ลูกค้าต้องการ โดยอัตราการจ้างเริ่มต้น 3,000 บาทต่อเดือน เหมาะสำหรับบ้านหรือออฟฟิศที่ต้องการการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่อยากแบกรับต้นทุนการจัดการไว้เองทั้งหมดเป็นรายเดือน ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการให้บริการค้นหาและว่าจ้างช่าง รวมทั้งแม่บ้านมืออาชีพ มานานกว่า 5 ปี

คำคืนที่ชื่นอุรา ทำให้เราไม่อยากบอกลาวันนี้ไปง่ายๆ วงสนทนาของเพื่อนร่วมทางออกสตาร์ทช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพราะตอนที่แสงตะวันจากลา เรายังเลาะอยู่บนถนนที่มีแต่ป่าข้างทาง จากชัยภูมิถึงอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เราก็ไม่ได้รีบร้อน และยังไม่อยากรีบนอน ก็เลยแวะโอ้เอ้อยู่ที่ อ.บ้านเขว้า เดินชมการทอผ้าของชาวบ้านกันจนเพลิน แถมได้เจอผู้ใหญ่ใจดี “นายประพันธ์ เกิดถาวร” ผู้ใหญ่บ้านบูรพา หมู่ 14 หรือ “ผู้ใหญ่แอ๊ด” ทำให้ทุกคนได้พบคำว่า “ผู้ใหญ่ใจดี”  โดยไม่ต้องฟังซ้ำ หลังจากคณะเล็ก ๆ รถตู้คันเดียวของพวกเรา วิ่งวนค้นหาเพื่ออยากดูการทอผ้า (โดยไม่ติดต่อไว้ล่วงหน้า) มัคคุเทศก์ชื่อพรหมลิขิตก็พาเราไปจอดอยู่หน้าบ้านผู้ใหญ่แอ๊ดโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน เมื่อตัวแทนลงไปทักทายไม่เกิน 5 นาที จากนั้นผู้ใหญ่ก็พาเราเดินเลาะตามหมู่บ้านโดยทันที ด้วยหัวใจที่พร้อมบินแบบอัตโนมัติ หรือ อาจจะเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี ดังนั้นกว่าจะเข้าที่พักแถบ อช.ป่าหินงาม ก็ตกค่ำ สภาพอากาศชุ่มเย็นด้วยอุณหภูมิประมาณ 24 องศา

หลายคนเคยเห็นควาย เคยเห็นมูลควาย เคยเห็นตอนที่พวกมันกำลังขับถ่าย แต่คงไม่ได้สังเกตอาการของมัน เพราะไม่ใช่เรื่องที่น่าดูชมนัก  แต่สำหรับชาวบ้านในสมัยก่อน โดยเฉพาะชาวนาที่อยู่กับควาย พวกเขาเป็นดังมิตรสหายที่ช่วยกันทำมาหากิน เป็นสัตว์ผู้มีพระคุณของคนไทยมาช้านาน คนโบราณสังเกตว่า เวลาควายจะขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย พวกมันจะไม่ยืนเฉยๆ หรือนั่ง แต่จะเดินไปด้วยขับถ่ายไปด้วย ระหว่างนั้นอวัยวะเพศของมันก็ส่ายไปส่ายมา ภาษาอีสานเรียกว่า “เอี้ยวไปเอี้ยวมา” เป็นทางยาว จากพฤติกรรมของควายซึ่งดูเป็นเรื่องทะลึ่งทะเล้น แต่คนอีสานสมัยก่อนเขาช่างคิดช่างจินตนาการ นำเอามาปรับเป็นลวดลายผ้ามัดหมี่ เรียกว่า “ลายหมี่เอี้ยวเยี่ยวควาย” แค่ 1 Story ก็กินขาด ได้ใจชัยภูมิไปเต็มๆ “พิพิธภัณฑ์ ผ้าโบราณชัยภูมิ KOMGRISH” ลวดลายผ้าของคนโบราณมาจากการหยิบจับเรื่องราวใกล้ตัวมาเป็นไอเดีย เราได้เรียนรู้เรื่องนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ “พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณชัยภูมิ KOMGRISH” หรือ “เฮือนคำมุ” ก่อตั้งโดย อาจารย์เอ๋-คมกฤช ฤทธิ์ขจร ศิลปินร่วมสมัยแห่งชาติ ทายาทพระยาแล จังหวัดชัยภูมิ นักอนุรักษ์ผ้าไทยที่มีความชื่นชอบด้านผ้าไทย ท่านเป็นลูกหลานเจ้าพ่อพญาแลโดยตรง

“คนชัยภูมิต้องมีเมียเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปแย่งกับใคร” คำเปรียบเปรยที่แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาตัวเอง ซึ่ง “อ.ยักษ์-ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร” นายกสมาคมดินโลก และที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้เล่าให้ฟัง ในโอกาสที่ได้ร่วมลงพื้นที่กิจกรรม “เอามื้อสามัคคี”  โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ปีที่ 8  ณ ศูนย์ปราชญ์ศาสตร์พอเพียง บอกเล่าก้าวตาม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ “คำว่า ชัยภูมิ ก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นพื้นที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในทุกมิติ” อาจารย์ยักษ์ย้ำ เพราะจังหวัดชัยภูมิ มีป่าต้นน้ำอยู่กว่า 7 ล้านไร่ เป็นป่าต้นน้ำซึ่งถือเป็น “ธนาคารน้ำของภาคอีสาน” ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนชัยภูมิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สู่ อ.วารินชำราบ ซึ่งชื่อก็บอกแล้วว่า “วาริน” หมายถึง “น้ำ” “ชำราบ” หมายถึง

การก้าวสู่ประเทศที่ทรงอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ทำให้ถนนแห่งการลงทุนมุ่งหน้าสู่จีน ขณะเดียวกัน จีนก็ได้ปูทางการลงทุนในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันจีนถือเป็นผู้ลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ในบ้านเรา นั่นหมายความว่า โอกาสของการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ จะเกิดขึ้นทางทางตรงและทางอ้อม ทั้งการเข้าทำงานในบริษัทในจีน หรือการผลิตสินค้าและบริการเพื่อป้อนตลาดชาวจีน ทั้งในและต่างประเทศ ที่ผ่านมา ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาสากลของโลก แต่เมื่อการขยายอำนาจทางเศรษฐกิจของจีนกระจายไปทั่วโลก ทำให้ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ทรงอิทธิพลตามไปด้วย จนกลายเป็นภาษาที่ 3 ของโลก นายธกานต์ อานันโทไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่ 3 ที่ผู้คนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเลือกเรียน โดยเฉพาะภาษาจีนกลาง (Mandarin) ซึ่งเป็นภาษาราชการของประเทศจีน และเป็น 1 ใน 6 ภาษาราชการขององค์การสหประชาชาติ

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าพร้อมวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะวิถีของเด็ก ซึ่งปัจจุบัน เด็กส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ตั้งแต่ตัวน้อยๆ อีกทั้งยังได้รับการส่งเสริมจากผู้ปกครองให้มีกิจกรรมที่กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็ก ก็มีความหลากหลายขึ้นเช่นกัน ล่าสุด กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ระบุว่า การส่งออก “เครื่องสำอางเด็ก” ในตลาดจีนมีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากพ่อแม่นิยมใช้แต่งหน้าให้ลูกในการเข้าร่วมกิจกรรมการแสดง ทั้งเล่นเปียโน ร้องเพลง เต้นรำ แนะศึกษาแนวโน้มตลาด กฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องสำอางให้ดี ก่อนเข้าไปลุย  นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กวางโจว ถึงแนวโน้มตลาดเครื่องสำอางเด็กในจีนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปัจจุบันมีการเติบโตกว่า 300% จากการที่พ่อแม่นิยมซื้อเครื่องสำอางให้ลูกของตัวเองใช้ เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมการแสดงต่างๆ เช่น การเล่นเปียโน ร้องเพลง และเต้นรำ ทำให้เครื่องสำอางได้กลายเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นสำหรับเด็กเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตและผู้ส่งออกเครื่องสำอางของไทย ที่จะศึกษาแนวโน้มตลาด

มึนตั้งแต่เปลี่ยนชื่อโครงการ  “เที่ยวปันสุข” มาเป็น “เราเที่ยวด้วยกัน” คงเพราะได้ปูทาง “เราไม่ทิ้งกัน” มาแล้ว จึงต้อง “เรา” กันต่อ แต่ก็ยังเป็น “ไทยแลนด์ 4.0” ที่ออกแนวงงๆ ใช้ยากอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ผ่านด่านที่หลายคนท้อจนถอยมาได้ ตอนแรกกะว่า เปิดมาวันแรกเว็บไซต์ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะล่ม เหมือนโครงการแจกเงินเยียวยา “เราไม่ทิ้งกัน” หรือจะชักช้าอืดอาดไม่ชัดเจน จึงทำการเตรียมใจไว้มาก  จนกลายเป็นคนแรกๆ ในกลุ่มเพื่อนที่ใช้สิทธิ์นี้ได้สำเร็จ วันที่เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” 15 ก.ค. 2563 ก็ไม่พบเหตุขัดข้องใดๆ พอมาดูตัวเลขในวันนี้ (28 ก.ค. 2563) ก็พอเดาได้ว่า เป็นแคมเปญที่ยังไม่เร้าใจ และเข้าใจยาก ที่สำคัญคือ “ไม่ฟรี”

สิ่งที่ทะเลมอบให้เราเสมอคือพลังอันยิ่งใหญ่ ใครๆ จึงมองทะเลด้วยความสุข และยังรู้สึกดีทุกครั้งเมื่อได้นึกถึง ทะเลในแต่ละพื้นที่ ก็มีความแตกต่างกันไป ด้วยสีสันและความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ หากนึกถึงทะเลที่อยู่ในใจอันดับต้นๆ ของเมืองไทย เชื่อแน่ว่าคนที่รักความสุขสงบต้องนึกถึงกระบี่ เพราะสิ่งที่ทะเลกระบี่มอบให้เราเสมอคือพลังแห่งความสงบ โดยเฉพาะทะเลกระบี่ในตอนนี้ ซึ่งผ่านการฟื้นคืนสภาพหลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมาเป็นเวลานาน และนี่คือโอกาสดีสุดๆ ของหัวใจคนรักทะเลอย่างเรา

หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายลง  สร้างความ “เบาใจ” ให้กับคนไทย ได้ออกมาใช้ชีวิตปกติในวิถีใหม่ หรือ New Normal กันมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการกระตุ้นการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเป็นวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนได้อย่างรวดเร็ว ล่าสุด บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เวิลด์แก๊ส” และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผนึกกำลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภายใต้การบริหารจัดการโดย บริษัท เทสอิงค์ เอเชีย จำกัด จัดมหกรรมนำเสนอแพคเกจการกินเที่ยวครั้งใหญ่แห่งปีกับโครงการ “คิดถึงอาหารจานโปรด”  หรือ Thailand Food Paradise รวบรวมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร  พร้อมรณรงค์สร้างความร่วมมือตามมาตรฐาน

จักรยาน คือ ก้าวสำคัญของชีวิตในวัยเยาว์ เด็กกับจักรยานคันแรก แผลถลอกเล็กๆ น้อยๆ เป็นความสุขความทรงจำที่ดี ปัจจุบันจักรยานก็เป็นยานพาหนะทางเลือกของคนที่ต้องการร่วมภาวะโลกร้อน บ้างก็ใช้จักรยานเพื่อการออกกำลังกาย  รวมทั้งการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินในการเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ จักรยาน ยังถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด 19 เพราะจักรยานเป็นยานพาหนะทางเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดเบียดเสียดจากการเดินทางด้วยรถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส หรือ อเมริกา มีจำนวนผู้ปั่นจักรยานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาบอกว่า นอกจากสะดวก ปลอดภัย ห่างไกลจากผู้คนแล้ว ยังเป็นการเดินทางที่เพลิดเพลิน ผ่อนคลายหายเครียดจากวิกฤตที่เกิดขึ้น  ที่สำคัญคือ มันเป็นการออกกำลังกายที่เยี่ยมยอดในช่วงโควิด 19 นี้เลยก็ว่าได้ [caption id="attachment_20215" align="aligncenter" width="900"] การปั่นจักรยานของนักท่องเที่ยว ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย Photo by LANLOM[/caption] วันที่ 3 มิถุนายน

โควิด-19 ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ สูญเสียทั้งชีวิตมนุษย์ สร้างผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม พลิกชีวิตและความเป็นอยู่ของเราจนกลายเป็นหนังอีกเรื่อง ทุกวันนี้เราเดินออกจากบ้านพร้อมหน้ากาก และเว้นระยะห่างจากผู้คน โลกออนไลน์ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต กลายเป็นดวงตาคู่ใหม่ที่ติดตัวเราไปทุกที่และแทบจะทุกเวลา รวมทั้งเรื่องราวของการศึกษา ซึ่งหมายถึงอนาคตของประเทศชาติ การเรียนออนไลน์ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง ในช่วงเริ่มต้นอาจจะมีสะดุดหรือหยุดชะงักไปบ้าง แต่คาดว่าหลังจากนี้ไป บทบาทของการเรียนออนไลน์ จะเป็นหนทางใหม่ของการศึกษาทั่วโลก [caption id="attachment_20148" align="aligncenter" width="400"] ธกานต์ อานันโทไทย[/caption] นายธกานต์ อานันโทไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โกลบิช อคาเดเมีย (ไทยแลนด์) จำกัด (Globish) สตาร์ทอัพ EdTech ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียน Live English Classroom ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกเป็นเวลายาวนานกว่า

สำหรับสายเบอร์เกอร์ ก็ต้อง “เบอร์เกอร์เนื้อ” เท่านั้น จึงบอกได้ว่า “เข้าถึงดินแดนเบอร์เกอร์” โดยสมบูรณ์ โดยเฉพาะแบรนด์ “เบอร์เกอร์คิง” ที่มีเมนูเนื้อที่หลากหลายถูกอกถูกสาวกได้เต็มปากเต็มคำ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน บางคนไม่กินสัตว์ใหญ่ บางคนไม่กินเนื้อสัตว์ บางคนบอกต้องเป็นไก่เท่านั้น ความหลากหลายของเบอร์เกอร์ในเมืองไทยจึงเกิดขึ้น สำหรับสาวกเบอร์เกอร์ไก่ วันนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจจากเบอร์เกอร์คิงมาฝาก หลังจากการเจรจากับ องค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับสากล หรือ ‘ซิเนอร์เจีย แอนิมอล’ องค์กรซึ่งปฏิบัติงานในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของสัตว์ในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร เบอร์เกอร์คิง หนึ่งในแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ดชั้นนำระดับโลกได้ประกาศดำเนินนโยบายเลือกใช้วัตถุดิบจากฟาร์มปลอดกรงขังในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยนโยบายนี้จะประกาศใช้กับร้านอาหารทั้งหมด 115 แห่ง รวมถึงที่จะเปิดดำเนินการในอนาคตทั้งหมดในประเทศภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์เบอร์เกอร์คิงแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะเสร็จสิ้นภายในปี 2570 “คำประกาศเจตนารมณ์จากแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟู้ดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างเบอร์เกอร์คิงจะมีส่วนในการช่วยลดความทุกข์ทรมานของแม่ไก่ในประเทศไทยได้นับล้านชีวิต และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลายๆ บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะประกาศนโยบายเช่นนี้ตามมา” วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์   ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทยของซิเนอร์เจีย แอนิมอล

หนึ่งในพลังสำคัญในการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 คือบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติการอยู่ในหน่วยงานที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ อีกทั้งยังต้องสละเวลาทุ่มเทกับการทำงานอย่างเต็มกำลัง จนทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยคลี่คลายลง โรงแรม เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทิค รีสอร์ท หนึ่งในโรงแรมชั้นนำของจังหวัดกระบี่ ขอขอบคุณความเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ร่วมผ่าฟันวิกฤตเชื้อไวรัส ในประเทศไทย เพียงแสดงบัตรประจำตัว ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (MD CARD) และเอกสารรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด ว่ามีส่วนในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 ก็สามารถ เข้าพักฟรี ณ โรงแรม เดอะทับแขก รีสอร์ท 3 วัน 2 คืน ห้องซูพีเรียหรือการ์เดน พร้อมอาหารเช้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน